ทำอย่างไรที่จะกำจัดความเกลียดแค้นต่ออดีตสามีที่หักหลังเราได้คะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เราเคยตอบคุณไว้ ในกระทู้ก่อน  เรื่องหลักๆ ที่เราแนะนำไว้ ก็ยังใช้การได้อยู่ค่ะ
เมื่ออารมณ์เย็นลงแล้ว กลับไปอ่านดู คุณยังจะได้ประโยชน์ และ ทางออกอยู่นะคะ

แต่เรื่องด่วนตอนนี้ อยู่ที่หัวใจคุณ

เพราะฉะนั้น วันนี้ เราจะชี้ให้เห็นตัวนี้ชัดๆ   ___ ความอยากที่จะ หยุดเกลียดชังเขา ___

ขอตอบซื่อๆ ว่า มันจะไม่หาย ด้วย “ความคิด” นะคะ

แต่มันจะหายไปด้วยการ “เห็นกระบวนการทำงานของจิตชัดๆ” ค่ะ

คุณเห็นโทษของความเกลียดแล้ว  และคุณก็ เกลียด เจ้าความเกลียด นี้สุดชีวิต
__ เห็นไหมคะ ติดกับดักของความเกลียดชังไปเต็มๆเลย
ความเกลียดชัง ทำร้ายจิตใจคุณ จนกระทั่ง ให้คุณคิดฆ่าตัวตาย และ คิดจะฆ่าลูกด้วย
โทษของมัน เมื่อครองใจใคร มันจะทำให้เจ้าของใจดวงนั้น วิบัติถึงปานนี้แหละค่ะ  
มันแค่ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์

แยกให้ขาดออกจากกันนะคะ ว่า  ตอนนี้ ทุกข์เพราะสามีเก่า หรือ ทุกข์ เพราะความเกลียดชัง  ?
ความเลวของเขา ทำไปแล้ว แม้ผลแห่งความหลอกลวง ยังคงอยู่  
แต่การที่ มันยังมีอิทธิพล ต่อชีวิตคุณมากขนาดนี้  เพราะคุณ นำสิ่งเหล่านั้น มาคิด “ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ใช่ไหม ?

แปลว่า เจ้าความเกลียด ความเคียดแค้น มันเติบโตด้วย ความคิดปรุงแต่งในใจคุณ
คุณเป็นคนเชิญให้มันเข้าบ้าน (จิตที่คิดไปถึงเรื่องราวในอดีต) ให้อาหารเลี้ยงดูปูเสื่อมันอย่างดี (จิตที่เอาเรื่องในอดีตมาคิดจนเจ็บช้ำอีกครั้ง)
แล้วคุณก็เกลียดมัน อยากไล่มันออกจากบ้านคุณ (เพิ่มเชื้อไฟแห่งความเกลียดเพิ่มขึ้นอีก)
พอมันไม่ไปไหนสักที พอใจคุณรุ่มร้อน  ไม่มีความสุข
พอคุณอยากจะมีความสุข แล้วทำไม่ได้ คุณก็หันมาเกลียดตัวเอง (ความเกลียดอ้วนพีขึ้นมาอีกรอบ ด้วยอาหารอันโอชะ ที่คุณป้อนมันเนืองๆ)

ถ้ามองตรงนี้ชัด  คุณจะเข้าใจ กฏแห่งกรรมมากขึ้น
และคุณจะเบลม ถูกคน จะไม่กล่าวโทษใคร หรือ สิ่งใด ที่เหนือ การควบคุม
คุณจะมองอย่างเป็นกลาง จนเข้าใจ ว่านี่ก็คือ กระบวนการธรรมดาๆ ที่หากใครก็ตาม
ประกอบ “เหตุ” ใดขึ้น ใครคนนั้น ย่อมต้องได้รับ “ผล” ที่ตนทำไว้ทั้งสิ้น

แม้กรรมเก่าจะส่งมา แต่กรรมใหม่นี่แหละ ปัจจุบันนี้แหละ คือ อำนาจที่แท้จริงในมือคุณค่ะ

ขอย้ำคำว่า มีสติ อยู่กับ ปัจจุบัน นะคะ

เอาล่ะ … มาลองดูกัน นาที ต่อ นาที

ขณะที่คุณกำลังอ่านความเห็นเรา … อ่านช้าๆ และ ค่อยๆ น้อมใจตาม  หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ก่อน …
จนกระทั่งรู้สึกได้ ถึงลมหายใจ ที่ไหลลื่นขึ้น … ตามรู้ ลมเข้า และ ออก ชัด ไม่ติดขัด กายโปร่ง ใจเบาขึ้น

เราอยากให้คุณ นึกไปถึงตอนที่คุณเคยไป ถือศีล 8 ที่วัด  ยังจำความสุข ความสงบใจตอนนั้นได้ไหมคะ ? …
ค่อยๆนึกภาพ วันนั้นให้ชัด เหมือนคุณย้อนเวลากลับไปค่ะ … ชัดกระทั่ง จำความรู้สึกได้ ทุกขั้นตอน

บุญใดที่ทำแล้ว ไม่เคยหายไปไหน นึกถึงอีก ก็ได้บุญอีก
ความอิ่มใจที่นึกได้ … คือ การเชื่อมบุญปฏิบัติกรรมฐานเดิมที่ทำแล้ว ด้วยการเจริญสติให้ใจผ่องใสในปัจจุบัน

เมื่อบุญมารวมตัวกัน ใจคุณจะเกิดพลัง
(ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่ง ค่อยๆ ระลึกถึงความดีงาม หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ หากจิตหนีไปฟุ้งซ่านเรื่องอื่น)

เมื่อใจคุณมีความสุข อ่อนโยน นุ่มนวล  ให้คุณแผ่เมตตา ให้ตนเอง ให้ลูก ให้คนที่คุณรัก
ขอให้พวกเขามีความสุขด้วย ได้รับผลแห่งความสุข ความเจริญ จาก ทุกกุศลที่คุณเคยทำ  ขอให้บุญคุ้มครองใจให้พ้นอำนาจบาปเวรไปได้

หายใจเข้าลึกๆ .… หายใจออกยาวๆ  ……

เห็นไหมคะ นาทีนี้ ความเกลียดชัง ไม่เหลือ ในใจคุณ มีแต่ความรัก ความเมตตา ความสุขสงบใจ

สรุป  _ ให้ดูชัดๆ  
คุณประกอบ “เหตุแห่งเมตตา” เมื่อใด
เท่ากับคุณจะได้รับ “ผลแห่งความสุข”  เมื่อนั้นแหละ

ทุกๆนาที ที่คุณจะทรงอารมณ์แบบนี้ได้ ความพยาบาทใดๆ จะมิอาจเข้าใกล้ใจคุณได้

แต่เมื่อใดที่คุณเริ่มไปชักศึกเข้าบ้าน เริ่มนึกไปถึง อดีต ที่จบไปแล้วด้วยความขุ่นเคือง
ให้รีบมีสติ ว่า ตนเอง กำลัง จะไปเชื้อเชิญ ศัตรูเข้ามาล้างผลาญ เข้ามาสร้างหายนะให้จิตใจตนอีกแล้ว

มาคบหากัลยาณมิตร คือ ธรรมฝ่ายกุศลทั้งปวงดีกว่า
ตั้งใจ ระวังจิตใจ ให้ละ บรรดาอกุศลทั้งหลาย ดีกว่า   __ เลิกคบ เลิกเสวนาด้วย พอที ไม่เอาแล้ว เสียเวลา__
มาเจริญ กุศล เนืองๆ ให้คุ้มค่า กับเวลาที่เหลืออยู่ดีกว่า

ถึงเวลาที่ใจคุณมีความสุข
คุณจะมองเห็นสิ่งมีค่ารอบตัวมากมาย … คุณจะมองเห็นความรักจากคนรอบตัวมากมาย ที่รักคุณด้วยใจที่ปรารถนาดีอย่างแท้จริง

เวลาที่มีค่า ทุกนาทีนี้ อยู่เพื่อความสุขของตัวเอง และอยู่เพื่อสร้างความสุข ให้แก่พวกเขาดีไหมคะ ?
เรื่องร้ายๆ คนเลวๆน่ะ อย่าเสียเวลาไปตามระลึกถึงเลย ไม่มีค่าคู่ควรเลย

เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่