Bruno Rezende กัปตันวอลเล่ย์บอลที่ยอดเยี่ยมทีมชาติบราซิล



ลูกชายของอดีตนักวอลเลย์บอล Vera Mossa และอดีตโค้ชของทีมบราซิล Bernardinho, Bruninho



บรูโน่มีพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งหมด 5 คน (พี่น้องต่างพ่อต่างแม่) เริ่มจากพี่ชายต่างพ่อคนแรกชื่อ เอดินโญ่ (แม่ของบรูโน่ ท้องพี่ชายคนนี้ตอนอายุ 15 กับนักบาสเก็ตบอล และก็เลิกลากันไป )


เมื่อพ่อแม่เขาหย่าขาดจากกัน เขาก็มีน้องสาวต่างแม่อีก 2 คน


น้องสาวต่างพ่ออีก 2 คน


บรูโน่ เริ่มการผจญภัยเดินทางข้ามมหาสมุทรกับพ่อแม่ตั้งแต่ วัย 4 ขวบ



พ่อแม่ได้ไปทำงานที่อิตาลี เด็กๆ บรูโน่ยังตัวเล็กมาก อายุ 3 ขวบครึ่ง พี่ชายคนโตเอดินโญ่ 8 ขวบบรูโน่เรียนรู้ที่จะอ่านและเขียนที่โรงเรียนอิตาลี ครอบครัวพักที่นี่ 5 ฤดูกาล

บรูโน่เคยได้แชมป์แบดมินตัน Pan-American คนแรก! นั่นคือในปี 1998 เริ่มต้นชีวิตของนักกีฬาแบดมินตัน ลงแข่งถึง 9 รายการ ด้วยวัยเพียง 12 ปี เขาเป็นแชมป์แพนอเมริกันชาวบราซิลคนแรก จากแบดมินตัน

บรูโน่เป็นเด็กหัวดี เรียนเก่ง แต่มีบางช่วงที่เขาไม่ตั้งใจเรียน ทำให้ผลสอบคะแนนออกมาต่ำเกือบสอบตก เขาโดนดุด่าจากพ่อครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาในชีวิต เขาถูกทำโทษโดยการกักบริเวณห้ามออกนอกบ้านไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน
คะแนนสอบต่ำทำให้เขาเชื่อฟังพ่อมาก เพื่อให้เขาคิดเกี่ยวกับการเรียนระหว่างที่เขายังคงถูกกักบริเวณ ในเวลานั้นบรูโน่ผู้ไม่เคยสงสัยเลยว่าเขาจะเป็นนักวอลเลย์บอลเมื่อโต

เขาพูดด้วยน้ำเสียงตลกในการให้สัมภาษณ์: "พ่อผมเป็นโค้ชที่ดุและรุนแรงใช่มั้ยในสนาม อืม คนส่วนใหญ่ทราบดี " (หัวเราะ)

พ่อของเขาเป็นคนเคร่งครัดในวินัย ไม่ใช่แค่วิธีการพูด ท่าทางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสมบูรณ์แบบ การอุทิศตนในระดับสูงสุดการฝึกวินัย  และจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันด้วย


บรูโน่มีลักษณะที่อ่อนโยนกว่าพ่อของเขาเล็กน้อย  แต่เขาชื่นชมพ่อของเขาในทันที โดยจำได้ว่า เขาได้พัฒนาขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เขามีไอดอลอย่าง Michael Jordan และ Ayrton Senna ที่ Bruninho ได้เรียนรู้บทเรียนที่ดี

เขาเป็นนักอ่านตัวยงและเป็นแฟนของผู้เขียนนามว่า  Lance Armstrong แต่นักกีฬาคนนี้ถูกแบนจากการเล่นกีฬาเพราะการประพฤติตัวที่ไม่ดี พ่อเขาแนะนำให้เผาหนังสือผู้เขียนคนนี้ทิ้งไป

“ผมอ่านหนังสือของเขามาก ผมไม่ได้เผาอะไรทั้งนั้น (ตามที่พ่อแนะนำ) แต่ผมพยายามลบทุกอย่างที่ผมอ่านเกี่ยวกับเขา เพราะเขาคือไอดอลที่จบลงด้วยการคอรัปชั่น ทุกอย่างที่เขาเขียนเป็นเรื่องโกหก และผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องจำในสิ่งเขาเขียนที่ผมได้อ่าน” บรูโน่กล่าว

ปัจจุบัน บรูนินโญ่เติบโตมาอย่างดี เขาใช้ชีวิตช่วงหนึ่งของการเดินทาง เขามั่นใจว่าเขาใช้ชีวิตได้ดีและปัจจุบันเป็นอีกคนหนึ่งที่สำคัญเป็นผู้เล่นระดับโลกที่มีชื่อเสียงเป็นไอดอลของใครหลายๆคน

เขามีความรักใคร่ต่อทุกคน และยิ่งกว่านั้นสำหรับแม่ของเขา เมื่อพูดถึงอดีตผู้เล่นอย่าง Vera Mossa รอยยิ้มมักจะปรากฏบนใบหน้าของ Bruninho เสมอ เขารักแม่มาก เขาบอกว่าเขาเรียนรู้ทุกสิ่งที่ดีจากเธอ และแม่ของเขาเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก


เส้นทางวอลเลย์บอลในวัยเด็กของบรูนินโญ่

สัก ขวบกว่าๆ บรูโน่ก็เริ่มเล่นบอลกับลูกโป่ง
Vera Mossa และBernardinho เลี้ยงดู บรูโน่ตัวน้อยด้วยความรักและเอาใจใส่ และใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีกับสโมสร Perugia (ที่พ่อแม่ของเขาทำงานในช่วงต้นยุค 90)

พ่อแม่ส่งเขาเล่นยิมนาสติกตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แต่ร่างกายเขาไม่มีความยืดหยุ่น ดังนั้นเขาจึงว่ายน้ำ ฟุตบอล เล่นเทนนิส เป็นเวลานานแล้วเขาก็ไปเล่นเล่นแบดมินตันเขาทำได้ดีในกัมปีนัส


เขามักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับพ่อแม่ของเขา เสมอ เมื่อเขาติดทีมชาติครั้งแรก เขาก็ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่เห็นด้วยกับฝูงชน แฟนวอลโห่ไล่ โดนวิจารย์อย่างหนัก

Vera ผู้เป็นแม่ ไม่ลืมวันที่ลูกชายของเธอถูกโห่ไล่

แม่ของเขาดูทีวีอยู่บ้านเห็นทุกอย่างในทีวี  ตอนนั้นผู้เล่นริคาร์ดินโญ่เสียตำแหน่งก่อน เมื่อบรูโน่ติดทีมชาติลงเล่นแทน ได้กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่มุ่งเป้าไปที่บรูโน่ พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เจ็บปวดมาเป็นเวลานานซึ่งบ่งบอกถึงการดำรงตำแหน่งของเขาในการเป็นลูกชายของโค้ช ตอนนั้นเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในอาชีพการงานของเขา

และในที่สุดเขาสามารถผ่านกระบวนการทั้งหมดนี้มาได้ และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่ดีเหมือนกับพ่อแม่ของเขา

ผู้เป็นแม่เล่าว่า เมื่อลูกโดนโห่ และวิจารย์อย่างหนัก เธอทุกข์ใจมากและร้องไห้  สิ่งที่เธอทำได้คือการให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างลูก  และดูเหมือนว่า บรูโน่จะสามารถรับมือได้กับสถานการณ์นี้ เขาบอกแม่ว่า

“ใจเย็นๆแม่ ไม่ต้องกังวลกับผมมากนักหรอก  ผมจะฝึกฝนและมุ่งมั่นต่อไป “


นี่คือสิ่งที่เขายืนกราน แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ที่นั่นและเขาสมควรได้รับตำแหน่งนี้ในทีมชาติ  บรูโน่มีบุคลิกที่เผชิญกับเรื่องยากๆ หลายอย่างตามปกติ วุฒิภาวะนี้มาจากตอนอายุ 12 ขวบ ที่เขาต้องฝ่าฝันความกดดันไปให้ได้


แม้ว่าเขาจะถูกมองว่าเป็นผู้เล่นที่มีความสมดุล แต่บรูนินโญ่ก็ตัดสินใจที่จะเดิมพันในการเตรียมตัวที่ดีขึ้นเพื่อช่วยให้เขารับมือกับความพ่ายแพ้ได้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้ความรู้สึกใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อเขาในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก หนึ่งปีครึ่งที่แล้ว เขาเลือกที่จะเปลี่ยน

“วันนี้ผมมีโค้ชทางจิตและผมสามารถเข้าใจอารมณ์ได้มากขึ้น การควบคุมอารมณ์นั้นไม่ได้มากมายนัก แต่จะมีวิธีกู้คืนให้เร็วที่สุดในช่วงเวลาที่ตึงเครียด ในช่วงเวลาที่ผมทำผิดพลาด เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัยที่สุด วิธีจัดการกับความพ่ายแพ้ ก่อนหน้านี้ผมถูกตั้งข้อหาและถูกโจมตีมากมาย แต่ผมจะไม่มีวันท้อถอย และจะทำให้แฟนๆยิ้มได้ “

"มันมีช่วงที่ผมทรมานเป็นเวลาสองวัน ตอนนี้ผมไตร่ตรองแล้ว ผมต้องเป็นตัวของตัวเอง และจากพรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเป็นผู้ใหญ่และช่วยผมได้มาก” - เขายอมรับ  


“ลูกโค้ชเขามาเพราะพ่อเท่านั้น” วลีเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของบรูนินโญ่ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป

“ผมหวังว่าพวกเขาจะเลิกมองว่าผมเป็นแค่ลูกชายของเบอร์นาดินโญ่ เพราะยังไงผมก็เป็นลูกของเขาและไม่มีวันหยุดเป็น เขาเป็นนักวอลเลย์บอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บางทีอาจยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลสำหรับตำแหน่งทั้งหมดที่เขาได้รับ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะมรดกและปรัชญาที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง ดังนั้นผมจะไม่หยุดเป็นลูกชายของเขา และผมไม่ต้องการที่จะจากไป แต่การถูกนำไปเปรียบเทียบกับเขาเสมอและการได้ยินว่ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการมาถึงของผมในการคัดเลือกเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจผมมากจริงๆ”

“เมื่อมีคนมาถามผมว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อโดนโห่ ผมขอพูดถึงอีกหนึ่งปีต่อมาแล้วกัน ตอนนี้มีคนจำนวนมากตะโกนเรียกชื่อผมเมื่อผมเข้าสู่เกม จากหนึ่งปีสู่ปีถัดไป คุณจะเห็นว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างไร การยอมรับนี้ทำให้ผมสบายใจ ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมต้องการแก้แค้นอะไรเหล่านั้น ผมมีความคิดที่ชัดเจนในสิ่งที่จะทำ ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

เมื่อถูกถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับริคาร์ดินโญ่ที่ถูกตัดออกจากทีมชาติมบรูโน่กล่าวว่า

“ตอนที่ผมมาถึงก็ไม่ค่อยมีการติดต่อกับใครมากสักไหร่ ด้วยความสุจริตผมไม่รู้จริงๆ  มันเป็นปัญหาของพวกเขาที่ไม่มีการประนีประนอม ซึ่งไม่เกี่ยวกับผม”


บรูโน่ ต้องเข้าฝึกอบรมโปแกรมด้านการฝึกจิตบทเรียนการจัดการอารมณ์ในวอลเลย์บอล
บทเรียนที่เรียนรู้ในด้านอารมณ์เป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตส่วนบุคคลและในอาชีพ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาในด้านวุฒิภาวะทางอารมณ์และการจัดการความเครียดท่ามกลางโลกที่มีความต้องการมากมาย สิ่งนี้ช่วยลดความกดดันและความคาดหวังของตัวเองด้วย บรูโน่ได้ชวนเพื่อนอย่าง Lucarelli เพื่อนทีมชาติเข้าร่วมโปรแกรมนี้ด้วย

เกี่ยวกับครอบครัว

บรูโน่เล่าว่า ตอนแรกๆ ความสัมพันธ์ที่ยากลำบากกับ Fernanda แม่เลี้ยง เขาไม่สามารถยอมรับภรรยาใหม่ของพ่อได้จนกระทั้งเขาได้น้องสาวคนแรก การกำเนิดของ  Julia ลูกสาวของ Fernanda และ Bernardinho เขาดีใจมาก และรักน้องมาก ความสัมพันธ์กับแม่เลี้ยงก็ดีขึ้น
และยอมรับให้เธอเป็นแม่คนที่สองแล้ว


บรูโน่เป็นหนุ่มโสดที่ปาร์ตี้อย่างพอประมาณ

บรูนินโญ่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายกลางคืน แต่เขาตระหนักดีว่าในบางครั้งเขาต้องสนุกกับตัวเองเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในสนามในแต่ละวัน

“เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจก็ช่วงพักสิ้นปีนี้... แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลย ผมมีเวลาหนึ่งสัปดาห์ครึ่งหลังจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและสิบวันของวันส่งท้ายปีเก่า ผมต้องการพักผ่อน มันเป็นปีที่หนักมาก ปีโอลิมปิกมีความตึงเครียด ความกดดัน ผมอยากจะสนุกกับมันอีกสักหน่อย”

“ผมรู้วิธีควบคุมตัวเอง แน่นอนว่าการเป็นโสด อายุ 31 ปี และสนุกกับตัวเองได้นั้นเจ๋ง ผมมีงานปาร์ตี้กลางคืนกับเพื่อนบ้าง


พูดถึงหนุ่มโสด บรูนินโญ่อายุ 31 ปี เคยคิดอยากมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่ยังเป็นโสด

“ถึงเวลาแล้ว ผมเคยคิดเกี่ยวกับมันเหมือนกัน (แฟน) แต่ยังไม่เจอคนที่ใช่จริงๆ ผมยังรอคนที่ดีๆ  ตอนอยู่ที่โมเดน่า ที่นั่น มีจังหวะชีวิตที่ผ่อนคลายมากขึ้น ไม่มีโอกาสได้พบปะเพื่อนฝูง หรือออกไปทานอาหารเย็นมากนัก ส่วนใหญ่อยู่บ้านวันหยุดก็อยู่บ้าน คงจะดีถ้ามีใครสักคนรออยู่ที่บ้าน แต่ตอนนี้ยังไม่มีคิดว่าคงสักวันต้องเจอ” (หัวเราะ)

“ผมมีชื่อเสียงด้านความเจ้าชู้ใช่ไหม (หัวเราะ) (ในฟลอเรียนอโปลิส) ผมอาศัยอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลานานและเป็นเมืองเล็กๆผู้คนส่วนใหญ่เป็นคนดี ผมใช้เวลาสองสามปีโสดที่นั่นและสนุกกับชีวิต ผมยอมรับว่า มีคบกับสาวบ้าง แต่นั่นก็นานมาแล้ว ผมยังเด็กตอนนั้นอาจจะเจ้าชู้ตามประสา ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว "


เมื่อถูกถามถึงอนาคตการเป็นโค้ช

บรูนินโญ่อยู่ในทีมชาติบราซิลมากกว่า 10 ปี แต่เมื่ออายุ 31 ปี เขายังไม่ประกาศอำลาทีมชาติ  อันที่จริง ตำแหน่ง Setter ยังสามารถเล่นวอลเลย์บอลได้อย่างน้อยอีกสิบปี - หากร่างกายอนุญาต

“พูดจากใจจริง ผมไม่รู้ว่าผมต้องการเป็นโค้ชหรือไม่ ผมมีชีวิตอยู่ทีละขั้น อยู่กับปัจจุบัน ผมหวังว่าผมจะเล่นได้ตราบเท่าที่ร่างกายของผมสามารถรับมือกับมันและหัวของผมมีความสุข ผมนึกถึงวอลเลย์บอลอีก 10 ปี ตอนนี้ผมอายุ 31 มาดูกันว่าเป็นไปได้ไหม ผมไม่สามารถรับประกันได้เช่นกัน แล้วผมก็ยังไม่รู้ ยังมีเวลาอีกมากที่จะเกิดขึ้น ผมรักวอลเลย์บอล ผมเป็นคนรักการเรียนรู้ด้วย  ผมคิดว่าถ้าผมเรียนมากกว่านี้ เรียนหลักสูตรต่างๆ ผมอาจจะสามารถเป็นโค้ชที่ดีได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ระดับไหน และจะเป็นโค้ชที่ดีได้อย่างไร”

ปัจจุบัน บรูโน่ 36 ปี


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่