เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ผู้ให้บริการ
สตรีมมิงออนไลน์ที่ใหญ่สุดในโลก
รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2
ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 1,441 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.28 หมื่นล้านบาท) ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์
และมีรายได้ 7,970 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.92
แสนล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 8.6%
เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยสิ่งที่ทุกคนจับตา คือ จำนวนสมาชิก
หลังจากไตรมาสก่อนหน้า เน็ตฟลิกซ์ ได้
คาดการณ์ว่าจะลดลงถึงประมาณ 2 ล้านราย
แต่ล่าสุด ไตรมาส 2/65
จำนสมาชิกลดลงเพียง 9.7 แสนราย
(ข้อมูลสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)
ขณะที่ปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์ มีสมาชิกรวมทั่วโลกทั้งหมด 220.67 ล้านราย ซึ่งคาดการณ์ว่า
ในไตรมาสที่ 3/65 จะมีจำนวนสมาชิก
เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านราย
แต่นักวิเคราะห์คาดว่าจะแตะถึง 1.84 ล้านราย
ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ยังได้เตือนถึง ผลกระทบ
จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมาก
ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ระหว่างประเทศ
ที่คิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้หลัก
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
เพื่อชะลอเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้
ที่ชะลอตัวลงนั้น เน็ตฟลิกซ์ ให้เหตุผลว่า
มาจากการแข่งขันที่สูงขึ้น การแบ่งปันบัญชี
และปัจจัยอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจซบเซา
สงครามในรัสเซีย-ยูเครน
สำหรับซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
คือ "สเตรนเจอร์ ธิงส์" (Stranger things)
ซีซั่นที่ 4 ทำสถิติผู้ชมสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ เน็ตฟลิกซ์
🔎 “Netflix” ไตรมาส 2 รายได้โต 8.6% 🧐 “สเตรนเจอร์ ธิงส์ 4” ทุบสถิติผู้ชมสูงสุด