ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนครับ แบบสรุปๆ
- 7 ปีก่อนได้ทำบัตรเครดิตกับธนาคารหนึ่ง ได้วงเงินมา 50,000
- 6 ปีก่อนได้ลาออก จากงานประจำเพราะเหตุผลบางอย่างครับ ทำให้ไม่สามารถทำงานประจำต่อได้ (จนถึงปัจจุบันไม่ได้มีงาน มีเงินเดือนแน่นอน )
- บัตรเครดิต ไม่เคยมีหนี้เสียครับชำระตรงตลอด มีชำระขั้นต่ำเป็นบางครั้ง แต่ไม่เคยผิดนัดครับ
- ต้นปี 65 ได้รับการปรับเงินวงเงินเป็น 9x,000 ครับ ทางบัตรปรับให้เอง
- ตอนนี้ใช้จนวงเงินเต็ม (ค่าใช้จ่ายจำเป็น) และขยายวงเงินชั่วคราว เพื่อหมุน แต่ไม่เคยมีการผิดนัดชำระแต่อย่างใด จ่ายขั้นต่ำเพื่อพยุงตัวมาตลอด
**********
เหตุเกิดตอนโควิทมาระลอกแรกครับ ได้มีการปิดประเทศตอน มีนา 63
-กระผมอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว ภาคใต้ของไทย รายได้มาจากนักท่องเที่ยวแทบจะ 100% แน่นอนครับ ขาดสภาพคล่องสุดๆ
-หันไปค้าขายอย่างอื่น ของกินก็ยากครับ พ่อค้าแม่ค้าซื้อกันเอง เพราะนักท่องเที่ยวไม่มี จังหวัดนี้อาศัยท่องเที่ยวจริงๆครับ
-จำเป็นต้องรูดจ่ายค่าเทอมน้องชายและน้องสาว (กยศ จ่ายเต็มบางภาคเรียน บางภาคเรียนจ่ายแค่บางส่วนครับ)
-จึงมีหนี้เกิดขึ้นครับ ต้นเรื่องมาจากค่าเทอม น้องๆ และค่าใช้จ่ายจำเป็นค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าโทรศัพท์ ค่าข้าวสาร ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายไร้สาระแต่อย่างใด
-แต่ภาวะโรคระบาดยาวนานเกินไปครับ ทำให้ไม่สามารถปิดเงินที่ใช้ไปได้ มีแต่จะเพิ่มๆ ตามปัญหาที่เจอ
-ปล.กระผมไม่ได้มีงานประจำหรือเงินเดือนครับ สมัครไม่ได้ครับ มีเหตุจำเป็นตั้งแต่ตอนลาออกครับ
-ปัจจุบันก็ยังคง จ่ายขั้นต่ำมาตลอด เครดิตไม่ได้เสียครับ แต่ตึงมือมากๆ แล้วครับ
-ทางด้านพ่อแม่ก็ยังคงมีหนี้บ้านที่พวกท่านพยายามจะดิ้น รนหาจ่ายอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้เสีย
ตอนนี้กระผมค่อนข้างจะจนมุม และคิดว่ากระผมไม่น่าจะหมุนหนี้(ขอใช้คำว่าหมุนหนี้ หมุนเงินมันดูโลกสวยเกินไป) ก้อนนี้ไหวอีกต่อไปแล้ว
ลำพังดอกเบี้ยก็เกือบ 2,000 ต่อเดือนซึ่งได้ค่าข้าวสารทั้งเดือนเลย
ครั้งนี้จึงมีคิดว่า จะขยายวงเงินชั่วคราว จนเต็ม MAX เลย จะได้มีวงเงินเพิ่มอีก ประมาณ 60000
แล้วซื้อข้าวสาร ของที่จำเป็นสำหรับอุปโภคบริโภคและการเรียนต่างๆ เอาไว้ล้วงหน้า รวมทั้งหาวิธีนำออกมาเป็นเงินสด และเก็บไว้
(ส่วนตัวไม่เคยใช้จ่ายอะไรที่ไร้สาระครับ ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่จ่าย เป็นคน งก มาก)
หลังจากนั้นจะหยุดการจ่ายทั้งหมดเลยครับ รอจนอะไรๆ ดีขึ้น สถานการณ์ สภาพเศรษฐกิจ
ก็คงจะสามารถทำมาหากิน เพื่อนำเงินมาชำระที่ค้างได้บ้าง (ใจไม่อยากเสียเครดิตเลยครับ ไม่เคยเสียเลย)
ดังนั้นถ้าตามที่ผมกล่าว ผมจะมีหนี้ 150,000 ครับ ผมจะต้องเจอกับอะไรบ้าง นอกเหนือจากเสียเครดิต และต้องเผชิญกับการโทรทวงถาม
จะถึงขั้นต้องโดนฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายเลยไหม ถ้าโดนฟ้องขึ้นมา โดนตัดสินล้มละลายขึ้นมา อนาคตเรามีเงินพอที่จะชำระได้ จะหลุดพ้นจากตรงนี้ไหม
หรือยังต้องติดไปอีกกี่ปีๆ เป็นบัตรเครดิตครับ ไม่ใช่บัตรกดเงินสด
ส่วนตัวผมไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรในชื่อตัวเองเลยครับ สมบัติผมมีแค่โทรศัพท์ เสื้อผ้าครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ใครมีอะไรแนะนำ เสนอมาได้เลยครับ ยินดีรับฟังครับ
หากจะต่อว่า ผมก็ยินดีน้อมรับครับ สถานการณ์เป็นงี้ ตัวกระผมพยายามจะทำให้ดีที่สุดครับ
อย่างน้อยๆ น้องๆ2คน ยังได้เรียน ครอบครัวยังยังมีไฟฟ้า มีข้าวกิน ไม่อดอยากครับ
กำลังจะเป็นหนี้บัตรเครดิต 150,000 และไม่น่าจะมีความสามารถจ่ายเงินพักใหญ่ๆ
- 7 ปีก่อนได้ทำบัตรเครดิตกับธนาคารหนึ่ง ได้วงเงินมา 50,000
- 6 ปีก่อนได้ลาออก จากงานประจำเพราะเหตุผลบางอย่างครับ ทำให้ไม่สามารถทำงานประจำต่อได้ (จนถึงปัจจุบันไม่ได้มีงาน มีเงินเดือนแน่นอน )
- บัตรเครดิต ไม่เคยมีหนี้เสียครับชำระตรงตลอด มีชำระขั้นต่ำเป็นบางครั้ง แต่ไม่เคยผิดนัดครับ
- ต้นปี 65 ได้รับการปรับเงินวงเงินเป็น 9x,000 ครับ ทางบัตรปรับให้เอง
- ตอนนี้ใช้จนวงเงินเต็ม (ค่าใช้จ่ายจำเป็น) และขยายวงเงินชั่วคราว เพื่อหมุน แต่ไม่เคยมีการผิดนัดชำระแต่อย่างใด จ่ายขั้นต่ำเพื่อพยุงตัวมาตลอด
**********
เหตุเกิดตอนโควิทมาระลอกแรกครับ ได้มีการปิดประเทศตอน มีนา 63
-กระผมอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว ภาคใต้ของไทย รายได้มาจากนักท่องเที่ยวแทบจะ 100% แน่นอนครับ ขาดสภาพคล่องสุดๆ
-หันไปค้าขายอย่างอื่น ของกินก็ยากครับ พ่อค้าแม่ค้าซื้อกันเอง เพราะนักท่องเที่ยวไม่มี จังหวัดนี้อาศัยท่องเที่ยวจริงๆครับ
-จำเป็นต้องรูดจ่ายค่าเทอมน้องชายและน้องสาว (กยศ จ่ายเต็มบางภาคเรียน บางภาคเรียนจ่ายแค่บางส่วนครับ)
-จึงมีหนี้เกิดขึ้นครับ ต้นเรื่องมาจากค่าเทอม น้องๆ และค่าใช้จ่ายจำเป็นค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าโทรศัพท์ ค่าข้าวสาร ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายไร้สาระแต่อย่างใด
-แต่ภาวะโรคระบาดยาวนานเกินไปครับ ทำให้ไม่สามารถปิดเงินที่ใช้ไปได้ มีแต่จะเพิ่มๆ ตามปัญหาที่เจอ
-ปล.กระผมไม่ได้มีงานประจำหรือเงินเดือนครับ สมัครไม่ได้ครับ มีเหตุจำเป็นตั้งแต่ตอนลาออกครับ
-ปัจจุบันก็ยังคง จ่ายขั้นต่ำมาตลอด เครดิตไม่ได้เสียครับ แต่ตึงมือมากๆ แล้วครับ
-ทางด้านพ่อแม่ก็ยังคงมีหนี้บ้านที่พวกท่านพยายามจะดิ้น รนหาจ่ายอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้เสีย
ตอนนี้กระผมค่อนข้างจะจนมุม และคิดว่ากระผมไม่น่าจะหมุนหนี้(ขอใช้คำว่าหมุนหนี้ หมุนเงินมันดูโลกสวยเกินไป) ก้อนนี้ไหวอีกต่อไปแล้ว
ลำพังดอกเบี้ยก็เกือบ 2,000 ต่อเดือนซึ่งได้ค่าข้าวสารทั้งเดือนเลย
ครั้งนี้จึงมีคิดว่า จะขยายวงเงินชั่วคราว จนเต็ม MAX เลย จะได้มีวงเงินเพิ่มอีก ประมาณ 60000
แล้วซื้อข้าวสาร ของที่จำเป็นสำหรับอุปโภคบริโภคและการเรียนต่างๆ เอาไว้ล้วงหน้า รวมทั้งหาวิธีนำออกมาเป็นเงินสด และเก็บไว้
(ส่วนตัวไม่เคยใช้จ่ายอะไรที่ไร้สาระครับ ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่จ่าย เป็นคน งก มาก)
หลังจากนั้นจะหยุดการจ่ายทั้งหมดเลยครับ รอจนอะไรๆ ดีขึ้น สถานการณ์ สภาพเศรษฐกิจ
ก็คงจะสามารถทำมาหากิน เพื่อนำเงินมาชำระที่ค้างได้บ้าง (ใจไม่อยากเสียเครดิตเลยครับ ไม่เคยเสียเลย)
ดังนั้นถ้าตามที่ผมกล่าว ผมจะมีหนี้ 150,000 ครับ ผมจะต้องเจอกับอะไรบ้าง นอกเหนือจากเสียเครดิต และต้องเผชิญกับการโทรทวงถาม
จะถึงขั้นต้องโดนฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายเลยไหม ถ้าโดนฟ้องขึ้นมา โดนตัดสินล้มละลายขึ้นมา อนาคตเรามีเงินพอที่จะชำระได้ จะหลุดพ้นจากตรงนี้ไหม
หรือยังต้องติดไปอีกกี่ปีๆ เป็นบัตรเครดิตครับ ไม่ใช่บัตรกดเงินสด
ส่วนตัวผมไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรในชื่อตัวเองเลยครับ สมบัติผมมีแค่โทรศัพท์ เสื้อผ้าครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ใครมีอะไรแนะนำ เสนอมาได้เลยครับ ยินดีรับฟังครับ
หากจะต่อว่า ผมก็ยินดีน้อมรับครับ สถานการณ์เป็นงี้ ตัวกระผมพยายามจะทำให้ดีที่สุดครับ
อย่างน้อยๆ น้องๆ2คน ยังได้เรียน ครอบครัวยังยังมีไฟฟ้า มีข้าวกิน ไม่อดอยากครับ