[CR] ลาทอสคาน่า รีสอร์ท สวนผึ้ง ฉบับเอาแมวไปด้วย

สวัสดีค่า 
เนื่องจากวันหยุดยาวช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ครอบครัวเราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งบ้านเราไม่ได้ไปมานานแล้ว และช่วงนี้เป็นหน้าฝน ถ้าฝนตกไม่ได้ออกไปไหนก็นอนชมวิวสวยๆอยู่ที่พักก็ได้ หนนี้เราไปกัน 2 คืนค่ะ 29-31 กรกฎาคม แต่โจทย์ของคราวนี้คือ เราจำเป็นต้องเอาลูกแมวอายุ 4 เดือนไปด้วย เพราะไม่กล้าทิ้งไว้ที่บ้านตัวเดียวเห็นว่ายังเด็กมาก ลองเสิร์ชหาที่พักที่นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ และที่เห็นมานานว่าสวยมากแต่เราไม่เคยเข้าพักสักที นั่นคือที่ ลาทอสคาน่า รีสอร์ท ค่ะ

หนูชื่อ ข้าวแช่ ค่า

ถึงแล้วค่ะ ลาทอสคาน่า

welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบ

บริเวณ lobby ก็จะตกแต่งสวยงาม เห็นวิวแบบนี้ค่ะ 
 
ตอนจะจองเมื่อสอบถามกับทางที่พักเรื่องการนำแมวเข้าพักด้วย ก็ได้ทราบว่า เราจะพักบ้านพักได้ 2 แบบ คือ แบบ Honeymoon suit กับ Tuscan villa เนื่องจากเป็นบ้านเดี่ยวๆที่เป็นส่วนตัว ไม่ติดกับบ้านหรือห้องอื่นๆ สัตว์จะได้ไม่รบกวนห้องข้างเคียงค่ะ สุดท้ายเราเลือกพักที่ห้องแบบ Tuscan villa เพราะจะมีอ่างแช่ตัวนอกตัวบ้านให้ด้วย(นอกเหนือจากอ่างอาบน้ำในห้องน้ำค่ะ) ซึ่งบ้านแบบนี้มี 2 หลัง เราเลือกหลัง ชื่อ Artista ซึ่งบ้านจะอยู่บนเนินก็จะได้วิวค่อนข้างสูง แต่ก็อยู่ใกล้ lobby เป็นหลังแรกเลยค่ะ 


ห้อง 812 Artista

เปิดเข้าห้องมาก็จะเห็นบริเวณโซฟาก่อนเลย ซึ่งก็จะมีโซฟาด้านนึงที่จัดเป็นเตียงเสริม เนื่องจากเรามา 3 คนพ่อแม่ลูกจึงต้องมีเตียงเสริม ตรงนี้ก็แปลกใจนิดนึง เพราะเข้าใจว่าจะมีเตีบงเสริมจริงๆ แยกมานอนตรงนี้เหมือนนอนไกลๆกันยังไงไม่รู้ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ข้างๆเตียงยังมีโซฟาครึ่งวงกลมนอนได้อีกที่ แต่ลูกสาวก็ตัดปัญหาทั้งหมดโดยบอกว่าจะนอนเตียงเดียวกันหมด 3 คนนี่แหละ 55
เราเอาจานอาหารและน้ำพุแมวแบบใช้กับ power bank ของข้าวแช่มาด้วย ก็ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารกับน้ำดื่ม ที่จริงเอาน้ำพุแมวแบบเสียบปลั๊กมาก็ได้ ที่นี่ช่องเสียบปลั๊กเยอะหลายจุดอยู่ค่ะ ส่วนเรื่องขับถ่ายก็เอากระบะทรายมาด้วย ก็ขอไม้กวาดจากแม่บ้านมาเก็บไว้ที่ห้องอันนึง เพราะแช่ชอบทำทรายกระเด็น นางขุดทรายแรงมาก 55
บ้านเราเข้าพักกัน 3 คน ก็จะมีค่าเตียงเสริมเพิ่มเติม และ ค่านำแมวเข้าพักซึ่งทางรีสอร์ทดูตามขนาดตัวค่ะ ลูกแมวตัวเล็กก็อยู่ที่ 500 บาทต่อคืน แต่ถ้าจะนำสุนัขเข้าพัก ก็ต้องเป็นพันธุ์เล็กนะคะ และที่นี่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันด้วยค่ะ

ต่อไปเป็นโซนห้องน้ำค่ะ

เปิดประตูด้านหลังออกไปก็จะเจอกับอ่างแช่ตัวค่ะ ใหญ่พอสมควรเลย แช่ได้ 2-3 คน สบายๆค่ะ


ที่ lobby มี bath bomb ขายด้วยค่ะ ราคาลูกละ 120 บาท เราซื้อมากลิ่น peppermint มาทำฟองแช่อ่างดูค่ะ

จากโซนห้องน้ำจะมีประตูด้านข้างมออกไปด้านนอกซึ่งมีบันไดสำหรับขึ้นไปบนดาดฟ้าค่ะ ที่ลาทอสคาน่า ห้องพักที่มีลักษณะเป็นบ้านจะมีดาดฟ้าด้านบนทุกหลัง ก็จะมีชิงช้านั่งเล่น และโต๊ะเก้าอี้ค่ะ


วิวจากดาดฟ้าห้องเราค่ะ เห็นภูเขาชัดเจนมาก  ภูเขาและบลูเบอรี่ชีสเค้กทำเองค่า 

บรรยากาศภายในรีสอร์ทก็ถุกตกแต่งให้คล้ายกับแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นแนวชนบทที่มีเนินเขา ทิวเขา และต้นไม้สวยงาม ใครที่ชอบถ่ายรูปไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะเลยค่ะ จขกท ไม่ใช่สายถ่ายรูป รูปก็จะออกมาประมาณนี้ค่ะ


ป้ายบอกทางน่ารักๆ

ตึกพาลาสโซ ห้องพักที่อยู่บนตึกมีหลายห้องหลายแบบเลยค่ะ

สระสำหรับเด็กค่ะ

สระผู้ใหญ่ค่ะ

สำหรับอาหารเช้า จริงๆก็ไม่หลากหลายแต่ก็ครบอยู่ค่ะ รสชาติใช้ได้  แต่ 2 วันที่พักอาหารก็เหมือนกันทั้ง 2 วันเลย 

ห้องอาหาร Cucina อยู่บนชั้น 2 ของ Lobby ค่ะ



มีจาน ชาม แก้ว สำหรับเด็กเล็กด้วยค่ะ

วิวจากห้องอาหารค่ะ

และเราได้ไปเที่ยว ตลาดโอ๊ะป่อย ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ 30 นาที เป็นตลาดเช้าริมลำธาร จะปิดตอน 14.00 น. เราไปถึงประมาณเกือบเที่ยง ยังคิดว่าของคงหมดไปเยอะแล้วล่ะ แต่พอไปถึงคนก็ยังเยอะอยู่นะคะ อาจเพราะเป็นวันหยุดยาวด้วย อาหาร ของกิน ขนม ก็ยังมีให้ทาน ถ้าหมดก็แบบรอแป๊บกำลังทำ คือไม่ได้หมดแบบอดกินไปเลย55 เรารู้สึกว่าการจัดการของตลาดนี้ดีนะคะ ขยะสามารถฝากทิ้งได้ มีที่ทิ้งช้อน โต๊ะเก้าอี้ที่นั่งทาน ดูเหมือนจะไม่พอ แต่จริงๆก็พอนะคะ เดินๆไปก็จะสามารถหาที่นั่งได้อยู่ เราเลยฝากท้องตอนกลางวันที่นี่ซะเลย แล้วก็ดูของที่ระลึกนิดหน่อย ที่นี่ตกแต่งด้วยคังด้งสีสันสดใสเลยค่ะ

ร้านครัวม่อนไข่ก็มาค่ะ

มาทำความรู้จักกับคังด้งกันค่ะ

ส่วนมื้อเย็นของวันที่2 เราฝากท้องกับทางรีสอร์ท เนื่องจากมี room service ก็เลยสั่งอาหารมาทานกันบนดาดฟ้าของห้อง ก็ได้ทานอาหารรับลมเย็นกันไป กับวิวสวยๆ จนค่ำๆถึงกลับเข้าห้องเพราะเริ่มมียุงค่ะ

โดยส่วนตัวเราชอบที่นี่นะคะ ชอบนั่งเล่นบนดาดฟ้า ถึงไม่ใช่หน้าหนาวซึ่งตอนนั้นอากาศคงจะดีมาก แต่หน้าฝนเวลาครึ้มฝนหรือฝนตก อากาศก็สบายๆไม่ร้อน แต่บ้าน artista จะใกล้กับlobby ซึ่งชั้นบนเป็นห้องอาหาร เวลาที่นั่งเล่นบนดาดฟ้าบางทีก็จะได้ยินเสียงพนักงานคุยกันบ้างเป็นบางที แต่เราก็เปิดเพลงอะไรของเราฟังกลบๆเสียงไปค่ะ  ส่วนลูกสาวก็ชอบอ่างแช่ตัว นั่งเล่นได้เป็นชั่วโมงๆ ถ้าใครอยากพักผ่อนจริงๆแบบไม่อยากออกไปไหน จริงๆก็สามารถอยู่ได้นะคะ อ่านหนังสือ ฟังเพลง แช่อ่าง เล่นเกมส์ ชิลๆไปเลยค่ะ สำหรับทริปนี้ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ พบกันใหม่ทริปหน้าค่า

รีวิวแบบเป็นคลิปค่ะ