ล่าสุดเห็นข่าวว่าทางสภาฯผู้บริโภค จะไปยื่นเรื่องคัดค้านดีลควบรวมของทาง True - Dtac ในครั้งนี้ด้วยละค่ะ เนื่องจากดีลดูมีลับลมคมในแลดูไม่โปร่งใส ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์อะไรหลังจากการควบรวม แต่ทาง True ก็ไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้กับทางอนุกรรมการฯ ได้เลยค่ะ ลองตัดเนื้อหาบางช่วงมาให้อ่านกันค่ะ
ดร.พรเทพ ยังระบุว่า จากที่ตนเองเป็นอนุกรรมการฯ ได้สอบถามหลายครั้งๆ ผู้ที่ขอควบรวมไม่เคยพูดเลยว่า เพิ่มนวัตกรรมคืออะไร เพิ่มประโยชน์ผู้บริโภคคืออะไร ก็ไม่สามาถตอบคำถามได้เลย มีเพียงอ้างวาทะกรรมว่าจะก้าวไปเป็นเทค คัมปานี แต่พอถามว่าแล้วประชาชน ผู้บริโภคจะได้อะไรหลังจากการควบรวมก็ไม่มีคำตอบอะไรมายังอนุกรรมการฯได้เลย
และก็แอบสงสัยอีกนิดค่ะ ในข่าวแจ้งว่าทาง กสทช. มีอำนาจในการจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ แตกต่างจากที่ทาง True เคยออกมาบอกว่า กสทช. ไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้ ดูข้อมูลขัดแย้งกันแปลกๆ
ทั้งนี้ ในประเด็นอำนาจของ กสทช.ที่เอกชนอ้างมาตลอดว่า กสทช.ไม่มีอำนาจในการไม่อนุญาต ทำได้เพียงการออกมาตรการเฉพาะหลังการควบรวม แต่หากเราดูอำนาจ และหน้าที่ของ กสทช. แสดงให้เห็นชัดเจนว่า กสทช. มีอำนาจตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกํากับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 และประกาศเรื่องมาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 เพื่อส่งเสริมการแข่งขันเสรีเป็นธรรมในกิจกรรมโทรคมนาคม และ คุ้มครองผู้บริโภค ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและเหตุผลของการมีอยู่ของ กสทช.
สำหรับคนที่อยากอ่านข่าวแบบเต็มๆ ตามลิงค์ไปได้เลยค่ะ :
https://www.thereporters.co/tech/0208221547
แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อยเห็นด้วย กับการควบรวมครั้งนี้เหมือนกันค่ะ เงินก็เฟ้อ น้ำมันแพง รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ยังไม่อยากให้ค่าบริการโทรศัพท์มือถือเพิ่มตามขึ้นไปด้วยเลยค่ะ แค่นี้ก็แย่กันหมดแล้ว
แล้วเพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันบ้างคะหลังจากอ่านข่าวแล้ว มาแชร์กันได้ค่ะ
อ่านข่าวนี้แล้วก็คิดนะ ความโปร่งใสอยู่ที่ไหน..อยากให้ทาง กสทช. เปิดเผยข้อมูลผลการศึกษาจากอนุกรรมการจังเลยค่ะ
ดร.พรเทพ ยังระบุว่า จากที่ตนเองเป็นอนุกรรมการฯ ได้สอบถามหลายครั้งๆ ผู้ที่ขอควบรวมไม่เคยพูดเลยว่า เพิ่มนวัตกรรมคืออะไร เพิ่มประโยชน์ผู้บริโภคคืออะไร ก็ไม่สามาถตอบคำถามได้เลย มีเพียงอ้างวาทะกรรมว่าจะก้าวไปเป็นเทค คัมปานี แต่พอถามว่าแล้วประชาชน ผู้บริโภคจะได้อะไรหลังจากการควบรวมก็ไม่มีคำตอบอะไรมายังอนุกรรมการฯได้เลย
และก็แอบสงสัยอีกนิดค่ะ ในข่าวแจ้งว่าทาง กสทช. มีอำนาจในการจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ แตกต่างจากที่ทาง True เคยออกมาบอกว่า กสทช. ไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้ ดูข้อมูลขัดแย้งกันแปลกๆ
ทั้งนี้ ในประเด็นอำนาจของ กสทช.ที่เอกชนอ้างมาตลอดว่า กสทช.ไม่มีอำนาจในการไม่อนุญาต ทำได้เพียงการออกมาตรการเฉพาะหลังการควบรวม แต่หากเราดูอำนาจ และหน้าที่ของ กสทช. แสดงให้เห็นชัดเจนว่า กสทช. มีอำนาจตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกํากับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 และประกาศเรื่องมาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 เพื่อส่งเสริมการแข่งขันเสรีเป็นธรรมในกิจกรรมโทรคมนาคม และ คุ้มครองผู้บริโภค ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและเหตุผลของการมีอยู่ของ กสทช.
สำหรับคนที่อยากอ่านข่าวแบบเต็มๆ ตามลิงค์ไปได้เลยค่ะ : https://www.thereporters.co/tech/0208221547
แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อยเห็นด้วย กับการควบรวมครั้งนี้เหมือนกันค่ะ เงินก็เฟ้อ น้ำมันแพง รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ยังไม่อยากให้ค่าบริการโทรศัพท์มือถือเพิ่มตามขึ้นไปด้วยเลยค่ะ แค่นี้ก็แย่กันหมดแล้ว
แล้วเพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันบ้างคะหลังจากอ่านข่าวแล้ว มาแชร์กันได้ค่ะ