สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เราอายุ 40+
สภาพสมองตอนนี้ ไม่เหมือนในวัยเด็กเลยค่ะ / สมัยนั้น อ่านครั้งเดียว จำได้มาจนถึงทุกวันนี้
ตอนนี้ อ่านหน้าลืมหลัง อ่านหลังลืมหน้า
แต่ … เคยอ่านงานวิจัยนึงผ่านตา … อ่านที่ไหนนะ (นั่น เห็นไหม ลืมที่มาเฉยเลย)
เขาบอกว่า สมอง มันจะไม่ฝ่อไปตามวัย อย่างที่เราเข้าใจ
เราสามารถ ฟื้นฟูมันกลับมาได้
อ่ะ … เราเลยเลือกที่จะพิสูจน์ / เลือกที่จะท้าทาย ความสามารถตัวเอง
อ่านแล้ว ความจำไม่ดีเท่าเก่า ? ไม่เป็นไร … ในจุดที่ดีกว่า คือ ยุคนี้การศึกษาหาความรู้ง่ายกว่ายุคเราตั้งเยอะ
ความตั้งใจ มี / เวลา มี / เงิน มี / อุปกรณ์การศึกษา มี … พร้อมอัดฉีดตัวเองเต็มที่
แล้ววางเดิมพันเข้าข้างตัวเองในปัจจุบันนี้ ดูสักตั้ง ว่าจะเก่งกว่า ตัวเราเองในอดีตได้ไหม ?
จขกท มาพยายามไปด้วยกันได้นะคะ
วันนี้ เรามาแข่งกับตัวเองในวันวาน ไปด้วยกันค่ะ … ดีมะ ? …
สภาพสมองตอนนี้ ไม่เหมือนในวัยเด็กเลยค่ะ / สมัยนั้น อ่านครั้งเดียว จำได้มาจนถึงทุกวันนี้
ตอนนี้ อ่านหน้าลืมหลัง อ่านหลังลืมหน้า

แต่ … เคยอ่านงานวิจัยนึงผ่านตา … อ่านที่ไหนนะ (นั่น เห็นไหม ลืมที่มาเฉยเลย)

เขาบอกว่า สมอง มันจะไม่ฝ่อไปตามวัย อย่างที่เราเข้าใจ
เราสามารถ ฟื้นฟูมันกลับมาได้
อ่ะ … เราเลยเลือกที่จะพิสูจน์ / เลือกที่จะท้าทาย ความสามารถตัวเอง
อ่านแล้ว ความจำไม่ดีเท่าเก่า ? ไม่เป็นไร … ในจุดที่ดีกว่า คือ ยุคนี้การศึกษาหาความรู้ง่ายกว่ายุคเราตั้งเยอะ
ความตั้งใจ มี / เวลา มี / เงิน มี / อุปกรณ์การศึกษา มี … พร้อมอัดฉีดตัวเองเต็มที่
แล้ววางเดิมพันเข้าข้างตัวเองในปัจจุบันนี้ ดูสักตั้ง ว่าจะเก่งกว่า ตัวเราเองในอดีตได้ไหม ?
จขกท มาพยายามไปด้วยกันได้นะคะ
วันนี้ เรามาแข่งกับตัวเองในวันวาน ไปด้วยกันค่ะ … ดีมะ ? …

ความคิดเห็นที่ 4
เราไปอยู่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ แต่เราเรียนไม่จบ ป.ตรี เรากลับมาเมืองไทยตอนอายุเกือบๆ 40 ทำงานแปลเอกสารเรื่อยมา
พออายุ 67 เราเรียน ป.ตรีศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษที่ มสธ ไปเกือบๆ 3 ปี สอบผ่านไป 16 วิชา ที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ (โดยไม่ได้อ่านตำราเรียนเลย ถึงเวลาก็ไปสอบ) เหลืออีก 7 วิชาก็จะจบ ซึ่ง 4 วิชาในนั้นเป็นวิชาบังคับออกแนวสังคมศาสตร์ที่เราไม่ถนัด (เก็บไว้เรียนปีสุดท้าย) และอีก 2 วิชาเป็นภาษาอังกฤษที่เราต้อนหมูได้อีก (ไม่ต้องอ่านหนังสือก็สอบผ่านสบายๆ) และอีก 1 วิชาเป็นการไปฝึกภาคปฏิบัติที่มหาลัย
เราเลยต้องตั้งใจเรียนมากกว่าปกติในปีสุดท้าย แต่ตอนนี้หยุดเรียนไป 2 ปีกว่าๆแล้ว เพราะโควิดระบาด นี่แหละ แต่โควิดไม่ได้ทำให้เราไม่มีเงินเรียนจะเรียนนะ แต่ในทางกลับกันมันทำให้เรากลายเป็นรายได้มากกว่าเดิม 3 เท่า เพราะโควิดทำให้ผู้คนล้มละลายกัน มีการฟ้องร้องคดีเบี้ยวค่าจ้างงานก่อสร้างหรือจัดซื้อจัดจ้าง ปรับโครงสร้างหนี้ ล้มละลาย ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกัน มีเอกสารกฎหมายมาให้เราแปลเยอะมากๆ (เราทำงานเป็นนักแปลอิสระ แบบ work from home และเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการแปลภาษากฎหมาย) เราเลยมัวแต่ปั่นงานแปลเอกสารหาเงิน จนไม่สนใจเรียนวิชาบังคับออกแนวสังคมศาสตร์ของ มสธ ขี้เกียจอ่านหนังสือเยอะ (ไม่เหมือนวิชาภาษาอังกฤษที่อยู่ดีๆก็เดินเข้าไปสอบผ่านได้ง่ายๆ)
แล้วเราก็เอาเงินเย็น (รายได้ส่วนเกิน ที่หาได้ช่วงโควิดระบาด) ไปช้อนซื้อเหรียญ crypto ที่มันลงราคาฮวบ หรือเหรียญต้นน้ำที่ราคาถูกๆไว้เยอะมากๆ เพื่อเก็งกำไร วันๆเราเลยต้องเฝ้าดู graphs เพื่อจัดการ port การลงทุนเราให้ดีๆ ก็เลยไม่มีเวลาอ่านหนังสือเรียน มันมีทางเป็นไปได้สูงมากๆที่เหรียญ crypto ที่เราช้อนซื้อไว้ราคาถูกๆจะราคาพุ่งกระฉูดสูงกว่าเดิมเป็น 1,000 เท่า (ราคามันกำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งจะทำให้เราได้กำไรหลักหลายร้อยล้านหรือเป็นพันล้าน ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ เราก็จะทำเรื่องย้ายประเทศ แล้วเปลี่ยนอาชีพจากนักแปลไปเป็น นักลงทุนกับเป็น youtuber เป็นอาชีพหลัก แล้วอาจจะเลิกเรียน ป.ตรีไปตลอดกาลเลย!
อีกทั้งช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (ตอนที่เราแทบไม่ได้เรียน มสธ เพราะเอาเวลาไปทำงานแปลเอกสารที่มีเพิ่มขึ้นตั้งมากมาย) เราเราออกนอกบ้านน้อยลงเพื่อลดความเสี่ยงในการติดโควิด แล้วเอาเวลาไปค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ online แล้วเจอ ebooks กับ youtube clips ภาษาอังกฤษของหมอฝรั่งยุคใหม่ที่ debunk myths (สลายความเชื่อผิดๆ) เรื่องอาหารและโภชนาการ แล้วเราเปลี่ยนวิถีการกินแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ตามแนวคิดหมอฝรั่งยุคใหม่ ทำให้เราหายป่วยจากโรคทุกชนิด สุขภาพดีเยี่ยม!
ตอนนี้เราอายุเกือบๆ 72 ร่างกายกลายเป็นออกกำลังหนักๆอึดๆและยืดหยุ่นได้ ฝึกโยคะท่ายืดหยุ่นมากๆได้ และ cardio ด้วยการชกลม (shadow boxing) ออกอาวุธมวยไทยปนๆมวยจีนโดดเตะสูงได้ สมองกลายเป็นคิดค้นเรียนรู้ได้รวดเร็วแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ยังเรียนเรื่องวิธีพัฒนาสมองแบบเจาะลึก และอีกทั้งยังเรียน applications หลายตัว เช่นการตัดต่อ videos เพื่อหาเงิน online โดยการเป็น youtuber และค้นหาช่องทางอื่นๆในการหาเงิน online ทุกวัน
เราเคยเอา clips หมอฝรั่งยุคใหม่ที่สอนแนวคิดใหม่ๆที่ทำให้เราเปลี่ยนวิถีการกิน ตั้งแต่อายุ 69 ถึงอายุเกือบ 72 ทำให้สมองเรากลายเป็นคิดค้นเรียนรู้ได้รวดเร็วแม่นยำกว่าตอนวัยรุ่นกับวัยกลางคน แต่ข้อมูลมันล้ำยุคเกินไป จนชาว pantip (บางคนแต่ไม่ทุกคน) ที่ตกยุค (หรือฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง) แห่กันเข้ามากด "สยอง" ให้กับ clips หมอฝรั่งยุคใหม่ ที่เราแปะ เราเลยภูมิใจมากๆที่เราเป็นผู้สูงวัย high tech
55555+++
ถ้าอยากสมองดีตอนอายุมากๆ ต้องกล้าๆ unlearn and rethink คือกล้าทบทวนสิ่งที่เคยเรียนมาให้ดีๆว่ามันตกยุคหรือยัง ถ้ามันตกยุคแล้วก็ต้องล้างความรู้เก่าๆที่ไร้ประโยชน์ทิ้งไปจากสมองซะ และเรียนรู้อะไรใหม่ๆเพื่อพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง! และที่สำคัญที่สุดก็คือ
*****ต้องไม่เชื่อว่ายิ่งแก่ตัวร่างกายและสมองจะเสื่อมถอยลง แต่ต้องเชื่อในทางตรงกันข้ามว่า ยิ่งอายุมากขึ้นเราก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆในทุกด้าน!*****
นี่คือวิธีคิดของคนเรียนไม่จบปริญญาเลยซักใบอย่างเรา55555+++
พออายุ 67 เราเรียน ป.ตรีศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษที่ มสธ ไปเกือบๆ 3 ปี สอบผ่านไป 16 วิชา ที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ (โดยไม่ได้อ่านตำราเรียนเลย ถึงเวลาก็ไปสอบ) เหลืออีก 7 วิชาก็จะจบ ซึ่ง 4 วิชาในนั้นเป็นวิชาบังคับออกแนวสังคมศาสตร์ที่เราไม่ถนัด (เก็บไว้เรียนปีสุดท้าย) และอีก 2 วิชาเป็นภาษาอังกฤษที่เราต้อนหมูได้อีก (ไม่ต้องอ่านหนังสือก็สอบผ่านสบายๆ) และอีก 1 วิชาเป็นการไปฝึกภาคปฏิบัติที่มหาลัย
เราเลยต้องตั้งใจเรียนมากกว่าปกติในปีสุดท้าย แต่ตอนนี้หยุดเรียนไป 2 ปีกว่าๆแล้ว เพราะโควิดระบาด นี่แหละ แต่โควิดไม่ได้ทำให้เราไม่มีเงินเรียนจะเรียนนะ แต่ในทางกลับกันมันทำให้เรากลายเป็นรายได้มากกว่าเดิม 3 เท่า เพราะโควิดทำให้ผู้คนล้มละลายกัน มีการฟ้องร้องคดีเบี้ยวค่าจ้างงานก่อสร้างหรือจัดซื้อจัดจ้าง ปรับโครงสร้างหนี้ ล้มละลาย ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกัน มีเอกสารกฎหมายมาให้เราแปลเยอะมากๆ (เราทำงานเป็นนักแปลอิสระ แบบ work from home และเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการแปลภาษากฎหมาย) เราเลยมัวแต่ปั่นงานแปลเอกสารหาเงิน จนไม่สนใจเรียนวิชาบังคับออกแนวสังคมศาสตร์ของ มสธ ขี้เกียจอ่านหนังสือเยอะ (ไม่เหมือนวิชาภาษาอังกฤษที่อยู่ดีๆก็เดินเข้าไปสอบผ่านได้ง่ายๆ)
แล้วเราก็เอาเงินเย็น (รายได้ส่วนเกิน ที่หาได้ช่วงโควิดระบาด) ไปช้อนซื้อเหรียญ crypto ที่มันลงราคาฮวบ หรือเหรียญต้นน้ำที่ราคาถูกๆไว้เยอะมากๆ เพื่อเก็งกำไร วันๆเราเลยต้องเฝ้าดู graphs เพื่อจัดการ port การลงทุนเราให้ดีๆ ก็เลยไม่มีเวลาอ่านหนังสือเรียน มันมีทางเป็นไปได้สูงมากๆที่เหรียญ crypto ที่เราช้อนซื้อไว้ราคาถูกๆจะราคาพุ่งกระฉูดสูงกว่าเดิมเป็น 1,000 เท่า (ราคามันกำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งจะทำให้เราได้กำไรหลักหลายร้อยล้านหรือเป็นพันล้าน ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ เราก็จะทำเรื่องย้ายประเทศ แล้วเปลี่ยนอาชีพจากนักแปลไปเป็น นักลงทุนกับเป็น youtuber เป็นอาชีพหลัก แล้วอาจจะเลิกเรียน ป.ตรีไปตลอดกาลเลย!
อีกทั้งช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (ตอนที่เราแทบไม่ได้เรียน มสธ เพราะเอาเวลาไปทำงานแปลเอกสารที่มีเพิ่มขึ้นตั้งมากมาย) เราเราออกนอกบ้านน้อยลงเพื่อลดความเสี่ยงในการติดโควิด แล้วเอาเวลาไปค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ online แล้วเจอ ebooks กับ youtube clips ภาษาอังกฤษของหมอฝรั่งยุคใหม่ที่ debunk myths (สลายความเชื่อผิดๆ) เรื่องอาหารและโภชนาการ แล้วเราเปลี่ยนวิถีการกินแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ตามแนวคิดหมอฝรั่งยุคใหม่ ทำให้เราหายป่วยจากโรคทุกชนิด สุขภาพดีเยี่ยม!
ตอนนี้เราอายุเกือบๆ 72 ร่างกายกลายเป็นออกกำลังหนักๆอึดๆและยืดหยุ่นได้ ฝึกโยคะท่ายืดหยุ่นมากๆได้ และ cardio ด้วยการชกลม (shadow boxing) ออกอาวุธมวยไทยปนๆมวยจีนโดดเตะสูงได้ สมองกลายเป็นคิดค้นเรียนรู้ได้รวดเร็วแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ยังเรียนเรื่องวิธีพัฒนาสมองแบบเจาะลึก และอีกทั้งยังเรียน applications หลายตัว เช่นการตัดต่อ videos เพื่อหาเงิน online โดยการเป็น youtuber และค้นหาช่องทางอื่นๆในการหาเงิน online ทุกวัน
เราเคยเอา clips หมอฝรั่งยุคใหม่ที่สอนแนวคิดใหม่ๆที่ทำให้เราเปลี่ยนวิถีการกิน ตั้งแต่อายุ 69 ถึงอายุเกือบ 72 ทำให้สมองเรากลายเป็นคิดค้นเรียนรู้ได้รวดเร็วแม่นยำกว่าตอนวัยรุ่นกับวัยกลางคน แต่ข้อมูลมันล้ำยุคเกินไป จนชาว pantip (บางคนแต่ไม่ทุกคน) ที่ตกยุค (หรือฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง) แห่กันเข้ามากด "สยอง" ให้กับ clips หมอฝรั่งยุคใหม่ ที่เราแปะ เราเลยภูมิใจมากๆที่เราเป็นผู้สูงวัย high tech
55555+++
ถ้าอยากสมองดีตอนอายุมากๆ ต้องกล้าๆ unlearn and rethink คือกล้าทบทวนสิ่งที่เคยเรียนมาให้ดีๆว่ามันตกยุคหรือยัง ถ้ามันตกยุคแล้วก็ต้องล้างความรู้เก่าๆที่ไร้ประโยชน์ทิ้งไปจากสมองซะ และเรียนรู้อะไรใหม่ๆเพื่อพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง! และที่สำคัญที่สุดก็คือ
*****ต้องไม่เชื่อว่ายิ่งแก่ตัวร่างกายและสมองจะเสื่อมถอยลง แต่ต้องเชื่อในทางตรงกันข้ามว่า ยิ่งอายุมากขึ้นเราก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆในทุกด้าน!*****
นี่คือวิธีคิดของคนเรียนไม่จบปริญญาเลยซักใบอย่างเรา55555+++
แสดงความคิดเห็น
ท่านไหนที่เรียนต่อ ตอนอายุมากแล้วบ้างครับ ถ้าเทียบกับตอนอายุยังน้อยแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ถ้าเทียบกับตอนอายุยังน้อยแล้ว ศักยภาพในการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
เช่น การคิดวิเคราะห์,ความจำ ฯลฯ ถ้าเทียบกับตอนที่ท่านยังอายุน้อยๆ เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนอย่างไรบ้าง
ส่วนตัวอายุ 30 กว่าๆแล้ว มีความคิดที่อยากเรียนต่อ และต้องทำงานไปด้วย แต่ด้วยความที่เป็นงานฟรีแลนซ์เลยยืดหยุ่นเรื่องเวลาได้
อยากอ่านประสบการณ์ของแต่ล่ะท่านที่ตัดสินใจเรียนต่อตอนที่อายุมากพอสมควรแล้วว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ