1.เริ่มต้นเพื่อนเราคนนี้รู้จัดกันมานานตั้งแต่ประถม มีทะเลาะกันบ้าง ห่างกันไปปี-2ปีมาคุยกันบ้าง แต่ส่วนมากสนิทกัน และสนิทที่สุดละ
2.เราเริ่มรู้สึกมานานว่เราโดนเอาเปรียบในหลายๆครั้ง ทั้งเราเคยเสี่ยงติดคุก "ขอไม่บอกเหตุผล* ว่าเพราะ แต่บอกได้ว่า เราไม่ได้เงินส่วนที่เราเสี่ยงแม้แต่บาทเดียว วงเงินหลัก1.5-3แสน จำตัวเลขไม่ได้แน่นอน
3.เราสนิทกันมาก ขนาดที่อดเราอดด้วยกัน กินก็กินด้วยกัน ผมเริ่มกังวล มาตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น โดนเหตุเพราะเราเล่าเหตุการณ์ ข้างบน เหตุผลที่มาทำงานที่นี่ เหตุผลที่เราจะเสี่ยงติดคุก ให้คนๆกลุ่ม1ฟัง แล้วเค้าบอกว่า เราโง่ในทุกๆด้วย *เค้าคิดกับเธอเป็นเพื่อนหรือเปล่า หรือว่า เค้าเห็นว่า โง่"
4.เราทำงานที่นั่นเพราะ เพื่อนเราหาให้ทังเที่ไม่ตรงสาย เราอดทนทำงานเพื่อให้คนนั้นยืม ตอนนั้นเพื่อนเราติดการพนันมาก
5.ผ่านมาประมาณ 5-6 เดือน เราแยกกันอีกครั้งเพราะเพือนเราโดนออกจากงาน เราก็โดนออกเพราะไม่ใช่งานที่เราถนัด
6เพือนเราเคยทำธุระกิจเปิดร้านอาหารเล็กๆแล้วไม่รอด หลังจากออกจากงานนั้นมา เพื่อนเราก็เริ่มทำธุรกิจนั้นอีกครั้ง ส่วนเรา ขับแกร็บFood รายได้ 800-1000บาทต่อวัน
7.เราเริ่มขับแกร็บ ได้เดือนกว่าๆ นางก็อยากมาขายของที่ที่เราขับ ในหอเรา ขายแบบเดลิดวอร์รี่ อย่างเดียว แต่ขายได้ไม่ค่อยดี +กับนางมีแฟน ไม่คือยได่เปิดร้าน ไปหาแฟนเกือบทุกวัน
8.หลังจากนั้น ก็ขายไม่ค่อยได้ เราก็ให้เงินนางยืมเรื่อยๆเพือซื้อของ 5-6 พัน เราขับรถส่วอาหารเพื่อให้นางยืม คล้ายๆกับ เมื่อ10-5เดือนที่ผ่านมา ข้าวเราก็ซือมาให้บ้างเพราะเห็นขายของไม่ค่อยได้ เลี้ยงเนือย่างบ้าง
9.ค่าหอเรารับผิดชอบคนเดียว เราก็ไม่ได้อะไรในใจ เพราะนางก็ขายของไม่ได้ +กับไม่ค่อยได้อยู่ขาย
10.จนเมื่อประมาน1เดือนกว่าๆที่แล้ว เรารถล้ม ขาหัก นอนอยู่ห้องเฉยๆเราก็ไม่มีรายได้ เราก็ถามนางว่า จะเอายังไง นางก็ทะเลาะกับแม่ แม่อยากให้นางกลับไปขายของ เพราะอยู่นี่ก็ขายไม่ได้ แต่นางก็ไม่กลับ +กับนางมีแฟน เราก็ไม่แน่ใจว่า อีกเหตุผล เพราะต้องอยู่ดูแลเราหรือเปล่า แต่เราก็ถามว่า ถ้าจะกลับ/ปขายที่บ้านก็บอกได้นะ แต่บอกก่อนสัก1อาทิตย์ เพราะว่า เราก็กลับไปอยู่บ้านได้เหมือนกัน เพราะห่างจากบ้านประมาน30km เอง
11.เนื่องจากเราไม่มีรายได้ไหนเลย เพื่อนเราก็ไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน นางเลยจะเปิดร้านขายของ เพราะมีตลาดเปิดใหม่ แต่นางไม่มีเงินทุน ****อีกแลัว***
12.เราบอกว่าเราไใ่มีเงินนะ แค่ลำพังจ่ายค่าห้องกับค่าอยู่ ค่าข้าว ค่าไฟแนนซ์ ก็ลำบากครอบครัวพอแล้ว นางก็บอกอยากเปิดจริงๆ เราเลยบอกนางว่า เรามีแชร์ที่เล่นอยู่วงหนึ่ง วงเงิน 9500 แต่หลังจากนั้น เธอต้องส่งเองนะ นางบอก ตกลง (ลืมบอก ตอนที่เราทำงาน ข้อ4. เราติดสินใจ ให้นางรับผิดชอบบัตรกดเงินสดเรา 28900 บาท นางต้องส่งทุกเดือน ต้นด้วย ดอกด้วย) เราเปียแชร์ให้นางมาลงทุนเปิดร้าน ผ่านไป 2อาทิตย์ นางเอาเงินไปไหนหมดเราไม่รู้
13. อยากร่วมหุ้นกันไหม ลงเงินคนละครึ่ง เราก็งง เราเปียแชร์มาให้เธอเปิดร้าน เราให้เธอยืมเงิน ตอนเธอขายของไม่ได้ ยังอยากให้เราร่วมหุ้นอีกหรอ นึกว่าจะเอาเงินที่เปียมาใช้หนี้เรา เสมือนว่าเราลงทุนด้วยกัน
14.เหตุการณ์ผ่านมาผ่านไป นางแจ้งว่า เงินที่เปียมา นางใช้หนี้ที่จำเป็นหมด *แต่หลังจากเราโอนเงินให้นาง นางไปหาผัวทุกวัน* เราพยายามไม่อะไรมาก
15.เราก็ตกลง ก็ได้ เราขาหักนะ ไม่มีรายได้ ลองลงทุนขายของก็ได้ ก็เลย ตกลงว่า คนละครึ่งๆ 50%50% เงินลงทุน
16.ประมาน อาทิตย์ที่แล้ว เรื่อง% เราบอกกับนางว่า กำไรก็คนละ50%นะ นางก็อารมณ์เสียใส่เรา นางก็บอกว่า ของที่นางเอามาประดับร้าน ก็มีแต่ของนางนะ จะมาคนละครึ่งได้ไง *เราเห็นแค่ ครก2อัน อันละ700 ป้ายร้านอันเก่า อีก700 หลอดไฟ พวกของตกแต่ง เล็กๆ เราดูแล้วไม่น่าเกิน 3000บาท
นางบอกว่า ยากมากที่จะ50% เพราะทุกอย่างนางทำมาก่อน เราก็เอ้า 30% หรอ แอบเริ่มคิดว่ามันแปลกๆ เราก็ไม่อะไรมากเพื่อนกัน อีกอย่างเราขาหักด้วยอาจจะช่วยได้ไม่มาก ก็โอเคร เราก็ หาเงินให้นาง 2500 ก่อน พร้อมบอกกับนางว่า ซื้ออะไร ก็แจ้งมานะ ออกคนละครึ่ง
17.เมื่อวันที่ 27 นางแจ้งกับเราว่า เงินไม่พอเปิดร้าน ให้เราออก70% ของเงินลงทุนทั้งหมด แล้ว เราจะได้ 40% ของกำไร เราก็เอ้า อีนี่ยังไง
18. ในหัวเราคือ มาขนาดนี้แล้ว ต้องสู้ต่อไหมละ เราก็ให้เงินนางไปอีก 3500 รวมเป็น6000
19.แล้ววันนี้นางกฌบอกกับเราว่า เราจะทำงานเหนื่อยนะ เหนื่อยกว่านาง ต้องทำเยอะกว่า เราก็เลยบอกว่า เราได้30% เราก็จะทำ30%ของงานทั้งหมดในร้าน จะเหนือยกว่าได้ยังไง
20.นางอ้าง เหตุผลที่16
คำถามคือ เพื่อนผมเห็นแก่ตัวหรือผมคิดมากไปเอง
การที่เงินลงทุนทั้งหมด60-70% คือเงินผม แต่ทำงานเท่ากัน ผมได้ส่วนแบ่งแค่ 30% โดยอ้างว่า มันมีของตกแต่ง ของใช้ต่างๆ เป็นของนาง
ทั้งที่ เงินที่นางลงทุนทั้งหมด เราก็เปียแชร์ชื่อเรามาให้
ถ้าธุรกิจนี้เจ้ง เราก็เสียเงินไปเปล่าๆ
อยากเสนอว่า ขอค่าเสี่ยงเงินตรงนี้ 5-10%ของกำไร ไปเรื่อยๆจนกว่า ธุรกิจจะเจ้งหรือไปต่อไม่ได้จะน่าเกลียดไหม
เพื่อนเราเป็นคนเห็นแก่ตัว หรือว่าเรา คิดมากไป
2.เราเริ่มรู้สึกมานานว่เราโดนเอาเปรียบในหลายๆครั้ง ทั้งเราเคยเสี่ยงติดคุก "ขอไม่บอกเหตุผล* ว่าเพราะ แต่บอกได้ว่า เราไม่ได้เงินส่วนที่เราเสี่ยงแม้แต่บาทเดียว วงเงินหลัก1.5-3แสน จำตัวเลขไม่ได้แน่นอน
3.เราสนิทกันมาก ขนาดที่อดเราอดด้วยกัน กินก็กินด้วยกัน ผมเริ่มกังวล มาตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น โดนเหตุเพราะเราเล่าเหตุการณ์ ข้างบน เหตุผลที่มาทำงานที่นี่ เหตุผลที่เราจะเสี่ยงติดคุก ให้คนๆกลุ่ม1ฟัง แล้วเค้าบอกว่า เราโง่ในทุกๆด้วย *เค้าคิดกับเธอเป็นเพื่อนหรือเปล่า หรือว่า เค้าเห็นว่า โง่"
4.เราทำงานที่นั่นเพราะ เพื่อนเราหาให้ทังเที่ไม่ตรงสาย เราอดทนทำงานเพื่อให้คนนั้นยืม ตอนนั้นเพื่อนเราติดการพนันมาก
5.ผ่านมาประมาณ 5-6 เดือน เราแยกกันอีกครั้งเพราะเพือนเราโดนออกจากงาน เราก็โดนออกเพราะไม่ใช่งานที่เราถนัด
6เพือนเราเคยทำธุระกิจเปิดร้านอาหารเล็กๆแล้วไม่รอด หลังจากออกจากงานนั้นมา เพื่อนเราก็เริ่มทำธุรกิจนั้นอีกครั้ง ส่วนเรา ขับแกร็บFood รายได้ 800-1000บาทต่อวัน
7.เราเริ่มขับแกร็บ ได้เดือนกว่าๆ นางก็อยากมาขายของที่ที่เราขับ ในหอเรา ขายแบบเดลิดวอร์รี่ อย่างเดียว แต่ขายได้ไม่ค่อยดี +กับนางมีแฟน ไม่คือยได่เปิดร้าน ไปหาแฟนเกือบทุกวัน
8.หลังจากนั้น ก็ขายไม่ค่อยได้ เราก็ให้เงินนางยืมเรื่อยๆเพือซื้อของ 5-6 พัน เราขับรถส่วอาหารเพื่อให้นางยืม คล้ายๆกับ เมื่อ10-5เดือนที่ผ่านมา ข้าวเราก็ซือมาให้บ้างเพราะเห็นขายของไม่ค่อยได้ เลี้ยงเนือย่างบ้าง
9.ค่าหอเรารับผิดชอบคนเดียว เราก็ไม่ได้อะไรในใจ เพราะนางก็ขายของไม่ได้ +กับไม่ค่อยได้อยู่ขาย
10.จนเมื่อประมาน1เดือนกว่าๆที่แล้ว เรารถล้ม ขาหัก นอนอยู่ห้องเฉยๆเราก็ไม่มีรายได้ เราก็ถามนางว่า จะเอายังไง นางก็ทะเลาะกับแม่ แม่อยากให้นางกลับไปขายของ เพราะอยู่นี่ก็ขายไม่ได้ แต่นางก็ไม่กลับ +กับนางมีแฟน เราก็ไม่แน่ใจว่า อีกเหตุผล เพราะต้องอยู่ดูแลเราหรือเปล่า แต่เราก็ถามว่า ถ้าจะกลับ/ปขายที่บ้านก็บอกได้นะ แต่บอกก่อนสัก1อาทิตย์ เพราะว่า เราก็กลับไปอยู่บ้านได้เหมือนกัน เพราะห่างจากบ้านประมาน30km เอง
11.เนื่องจากเราไม่มีรายได้ไหนเลย เพื่อนเราก็ไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน นางเลยจะเปิดร้านขายของ เพราะมีตลาดเปิดใหม่ แต่นางไม่มีเงินทุน ****อีกแลัว***
12.เราบอกว่าเราไใ่มีเงินนะ แค่ลำพังจ่ายค่าห้องกับค่าอยู่ ค่าข้าว ค่าไฟแนนซ์ ก็ลำบากครอบครัวพอแล้ว นางก็บอกอยากเปิดจริงๆ เราเลยบอกนางว่า เรามีแชร์ที่เล่นอยู่วงหนึ่ง วงเงิน 9500 แต่หลังจากนั้น เธอต้องส่งเองนะ นางบอก ตกลง (ลืมบอก ตอนที่เราทำงาน ข้อ4. เราติดสินใจ ให้นางรับผิดชอบบัตรกดเงินสดเรา 28900 บาท นางต้องส่งทุกเดือน ต้นด้วย ดอกด้วย) เราเปียแชร์ให้นางมาลงทุนเปิดร้าน ผ่านไป 2อาทิตย์ นางเอาเงินไปไหนหมดเราไม่รู้
13. อยากร่วมหุ้นกันไหม ลงเงินคนละครึ่ง เราก็งง เราเปียแชร์มาให้เธอเปิดร้าน เราให้เธอยืมเงิน ตอนเธอขายของไม่ได้ ยังอยากให้เราร่วมหุ้นอีกหรอ นึกว่าจะเอาเงินที่เปียมาใช้หนี้เรา เสมือนว่าเราลงทุนด้วยกัน
14.เหตุการณ์ผ่านมาผ่านไป นางแจ้งว่า เงินที่เปียมา นางใช้หนี้ที่จำเป็นหมด *แต่หลังจากเราโอนเงินให้นาง นางไปหาผัวทุกวัน* เราพยายามไม่อะไรมาก
15.เราก็ตกลง ก็ได้ เราขาหักนะ ไม่มีรายได้ ลองลงทุนขายของก็ได้ ก็เลย ตกลงว่า คนละครึ่งๆ 50%50% เงินลงทุน
16.ประมาน อาทิตย์ที่แล้ว เรื่อง% เราบอกกับนางว่า กำไรก็คนละ50%นะ นางก็อารมณ์เสียใส่เรา นางก็บอกว่า ของที่นางเอามาประดับร้าน ก็มีแต่ของนางนะ จะมาคนละครึ่งได้ไง *เราเห็นแค่ ครก2อัน อันละ700 ป้ายร้านอันเก่า อีก700 หลอดไฟ พวกของตกแต่ง เล็กๆ เราดูแล้วไม่น่าเกิน 3000บาท
นางบอกว่า ยากมากที่จะ50% เพราะทุกอย่างนางทำมาก่อน เราก็เอ้า 30% หรอ แอบเริ่มคิดว่ามันแปลกๆ เราก็ไม่อะไรมากเพื่อนกัน อีกอย่างเราขาหักด้วยอาจจะช่วยได้ไม่มาก ก็โอเคร เราก็ หาเงินให้นาง 2500 ก่อน พร้อมบอกกับนางว่า ซื้ออะไร ก็แจ้งมานะ ออกคนละครึ่ง
17.เมื่อวันที่ 27 นางแจ้งกับเราว่า เงินไม่พอเปิดร้าน ให้เราออก70% ของเงินลงทุนทั้งหมด แล้ว เราจะได้ 40% ของกำไร เราก็เอ้า อีนี่ยังไง
18. ในหัวเราคือ มาขนาดนี้แล้ว ต้องสู้ต่อไหมละ เราก็ให้เงินนางไปอีก 3500 รวมเป็น6000
19.แล้ววันนี้นางกฌบอกกับเราว่า เราจะทำงานเหนื่อยนะ เหนื่อยกว่านาง ต้องทำเยอะกว่า เราก็เลยบอกว่า เราได้30% เราก็จะทำ30%ของงานทั้งหมดในร้าน จะเหนือยกว่าได้ยังไง
20.นางอ้าง เหตุผลที่16