100 km/hr On the Road In Jordan 2022


ทริปปี 2022 เราเริ่มต้นด้วยประเทศจอร์แดนค่ะ หลังจากพักการเดินทางอันยาวนานถึง 2 ปีในช่วงโควิด เมื่อมีโอกาส Out of comfort zone อีกครั้ง ความตื่นเต้นกับอาการใจเต้นแรงที่รู้สึกในทุกๆทริปหวนกลับมาเหมือนเคย
     100 km/hr เป็นความเร็วเฉลี่ยในการขับรถของเราคนเดียวตลอด 1100 km. จากเมืองหลวงแสนคับคั่ง สู่ธรรมชาติสุดเวิ้งว้างกว้างสุดลูกหูลูกตา เราได้รวบรวมข้อมูลและประสบการณ์เดินทางมาเล่าให้เพื่อนๆได้อ่าน ถ้าสิ่งนี้มีประโยชน์และน่าสนใจ สามารถแชร์ต่อได้เลยค่ะ
                   (Ref. www.jordanpass.jo)

   เราเช่ารถกับ Arena Rent A car ผ่านเวป Discover cars เลือกรถ Mini Nissan micro (or Similar) ซึ่งวันรับรถจริง เจ้าหน้าที่เลือก Hyundai Sonata ให้ ส่วนตัวเราประทับใจมาก รถคันใหม่ สะอาด และขับดีมาก
   บริษัทมีบริการรับส่งที่สนามบิน ราคาเช่ารถ 5 วัน รวม Full coverage รวม Insurance ประมาณ 7580 บาท
   ขั้นตอนการเช่ารถผ่านเวปก็ง่ายมาก
1.เลือกรถกับ option ที่ต้องการ
2.จ่ายค่า Deposit ผ่าน Visa , Master Card
3.เมื่อได้รับ confirmed booking อ่านรายละเอียดให้เรียบร้อย
4.ค่าใช้จ่ายที่เหลือ จ่ายเมื่อถึงจอร์แดน โดยเงื่อนไขบางบริษัทต้องใช้วงเงิน Visa , Master card สำหรับ Refundable security deposit ค่ะ
   ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยใช่มั้ยคะ อย่างของเรานัดรับรถ-ส่งรถที่สนามบิน , Deposite เช่ารถ 44.11 EUR (1606 บาท) , Refundable security deposit 500 USD (17,320 บาท)
ติดต่อ Arena Rent A car
Whatsapp : 00962795646757

   เอกสารที่ใช้เตรียมเดินทางไปจอร์แดน (อัพเดทเดือนตุลาคม 2022)
☑️ ลงทะเบียนเข้าประเทศจอร์แดน ล่วงหน้าไม่เกิน 10 วัน ที่นี่ gateway2jordan.gov.jo 
☑️ Visa


                (Ref. amman.thaiembassy.org)

                   [ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Arabic , English
วีซ่า (Visa) : Visa on arrival หรือถ้าแพลนเดินทางอย่างน้อย 4 วัน 3 คืน เราแนะนำให้ซื้อ Jordan Pass จะคุ้มกว่ามาก เข้าเพตราและสถานที่อื่นๆฟรี รายละเอียดที่นี่ค่ะ  www.jordanpass.jo
สกุลเงิน (Currency) :  Jordanian dena หรือ JOD
Time Zone : ช้ากว่าไทย 4 ชม.
การเดินทาง : Road trip ที่จอร์แดน ไม่ได้ยากลำบากอย่างที่คิด ถนนสายหลักลาดยางตลอดเส้นทาง มีปั๊มน้ำมันตั้งอยู่เป็นระยะ ภายในปั๊มมีซุปเปอร์มาเก็ต มีห้องน้ำเหมือนเมืองไทยเลย
   เป็นปกติที่เพื่อนๆจะเจอตำรวจทางหลวงโบกให้จอดนะคะ เจอถี่มาก อย่างของเราโดนเรียกไป 4 รอบ แค่ทักทายเฉยๆค่ะ ขอแค่อย่าขับเกินความเร็วที่ป้ายกำหนดเป็นพอ
   บางคนต้องปรับตัวให้คุ้นชินกับพวงมาลัยซ้ายชิดขวา อย่างเราเองเป็นต้น ท่องอย่างดีแต่พอขับจริงดันเผลอชิดซ้ายหลายรอบเลย โชคดีผ่านมาได้ด้วยความปลอดภัยค่ะ




                              Petra
     ไม่นานมานี้ เรามีโอกาสได้อ่านบทความ New Seven Wonder of the World 2022 ซึ่งเล่ารายละเอียดสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง หนึ่งในลิสต์นั้นเล่าถึง ดินแดนแห่งความลับที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ห่างจากโลกภายนอกนานนับพันปี

     ยิ่งศึกษารายละเอียดข้อมูลของเมืองเพตรา ก็ยิ่งทึ่งในความมหัศจรรย์ของมนุษย์เราไม่น้อย หน้าผาหินสีชมพูสลับสีขาวแดง สรรสร้างสถาปัตยกรรมให้กลมกลืนเข้ากับธรรมชาติเป็นอย่างดี
     สำหรับเราเอง ไม่กล้าหวังภาพถ่ายสวยๆอะไรมากนัก เพราะจำนวนนักเดินทางที่มากมาย มากแบบมากๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะ ใครต่อใครที่มาประเทศจอร์แดนก็ต้องอยากมาสัมผัส เรานึกเหตุผลไม่ออกเลยสำหรับใครที่จะไม่เข้าเพตรา
     เช้าอันสดใสกลางเดือนพฤษภา เรียกได้ว่าเป็นหน้าร้อนของจอร์แดนค่ะ เราเดินเท้าจากทางเข้า Visitor Center โดยเส้นทางเดินจะเป็นหินลูกรังตามภาพเลย อ่อ…ลืมบอกไปว่าเราขับรถมาถึงเพตราตั้งแต่เมื่อวาน และชม Petra by night เมื่อคืนแล้วหนึ่งรอบ ไว้เดี๋ยวขอเล่าเป็นลำดับถัดไปนะคะ
     เดินเข้ามาไม่ถึง 200 เมตร ด้านซ้ายมือจะเจอกลุ่มนักจูงม้า จริงๆสามารถนั่งม้าฟรีจากจุดทางเข้าไปจนถึงช่องแคบทางเข้า The Siq ได้เลย ไม่ไกลมาก ใครจะเดินก็ได้ แต่เราชอบน้องม้าสีขาวน่ารัก เลยตัดสินใจให้น้องไปส่งค่ะ แพลนเดินทางของเราในเพตราค่อนข้างน้อย ประมาณ 4-5 ชม. เพราะต้องขับรถไป Wadi Rum ต่ออีกในช่วงบ่าย เอาเป็นว่าได้เดินเข้า Al-Siq ปีนขึ้นเส้นเทรลสั้นๆง่ายๆ เพื่อชม The Treasury ก็พอใจแล้ว

   คนจูงม้าให้เราชื่อคุณ Mamood ค่ะ และคนเดียวกันนี้แหละที่เป็นไกด์ให้เราใน 10 นาทีถัดมา
   Mamood ยื่นภาพ The Treasury จากมุมสูงในมือถือให้เราดู ซึ่งแน่นอนเราสนใจมากๆ กว่าจะตกลงราคากันได้ก็นานพอสมควรเลย เราได้ราคา 30 JOD
       เส้นทางที่ Mamood พาเดิน ไม่ใช่เส้นหลักทั่วไป แต่เป็นเส้นที่เบี่ยงขึ้นเขามาทางฝั่งซ้าย เรียกเส้น Al-Madras Trail ถือเป็น Mini Trek เล็กๆที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน สำหรับเราผู้ซึ่งนั่งเครื่องมาไกล ต่อด้วยขับรถเองคนเดียว แล้วยังนอนดึกอีก ปีนหินไม่กี่ก้าวก็เหนื่อยแล้ว
    น่าแปลกตรงที่พลังงานมันเริ่มมากขึ้นตอนเจอวิวสวยอลังการเนี่ยแหละ ยิ่งปีนยิ่งเดินยิ่งตื่นเต้น ตอนนี้คือตื่นเต็มที่ละ ไม่เหนื่อยแล้ว ทุกอย่างสดชื่นมากๆ

     ลัดเลาะมาเรื่อยๆระหว่างทางจะเจอบ้านของชาวพื้นเมือง ร้านค้าแผงขายของที่ระลึกเรียงราย ส่วนใหญ่ทำจากหิน มีชาร้อน เครื่องดื่มขายบ้างตามรายทางค่ะ
    เดินเพลินๆก็ถึงจุดชม The Treasury (al-Khazneh) จากมุมสูงแล้วค่ะ จริงๆมีทางขึ้นจากสองทางซ้ายขวา  จะเดินขึ้นจากด้านซ้ายของ The Treasury ก็ได้ ตรงนั้นมีป้ายบอกอยู่ ส่วนตัวเราชอบมุมนี้ที่ไกด์พามามากกว่าค่ะ วิวยิ่งใหญ่คู่ควรกับรางวัล ระดับ UNESCO World Heritage site จะว่าไปเหมือนได้ดู Indiana Jones เลย แต่นี้แบบฉบับ 2022 นะคะ


   มีมุมสูงจากจุดนี้อีก ใครมีเวลาขึ้นไปสูงกว่านี้ได้ ส่วนเราขอนั่งจิบชาร้อน ชมวิว เล่นกับน้องแมวไปพลางๆ
    เราว่าเราทำเวลาได้ดีทีเดียว ใช้เวลา Mini trek มาตรงนี้แค่ชั่วโมงกว่าเอง…. Mamood เลยยื่นข้อเสนอใหม่ที่น่าสนใจอีกครั้ง เรากับ Mamood ตกลงราคากันอีกรอบ คือถ้าเพิ่มอีก 40 JOD จะพาขี่ลาไปจนถึง The Monastery เลย มาขนาดนี้แล้ว ลุยต่อข้างหน้าอย่างเดียวเลยค่ะ


    ปีนขึ้นเขากันต่อ โขดหินแล้วโขดหินเล่า ทางลัดที่ขึ้นเขาค่อนข้างชันนะคะ เมื่อยขามาก แต่ทำให้ได้นึกย้อนกลับไปตอน Trekking ในหลายๆประเทศก่อนหน้านี้ หลังจากดั้นด้นหนีไปเรียน Scuba จนจบ Advance มาซะนาน ตอนนี้ปิ๊งไอเดียหาที่ Trekking ใหม่ๆอีกแล้ว ไว้จะมาแวะเล่าสู่กันฟังอีกทีนะคะ

    ไกด์ Mamood พาเรามาเส้นทางที่เรียกว่า Wadi al-Farasa ใครมาทางนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หลังจากขึ้นเขามาจนสุด จะเจอ landscape อันกว้างใหญ่ ผนังกำแพงหินซ้อนเป็นชั้น ด้านบนเป็นทางเดินเรียบสลับเนินเขาเตี้ย สบายๆแต่ร้อนไปหน่อย
     ถ้าเปิดแผนที่ เทรลเส้นนี้จะอยู่จุด High Place of Sacrifice Trail เราชอบมาก ผู้คนไม่พลุกพล่าน สงบเงียบต่างจากเส้นหลักด้านล่างอย่างสิ้นเชิง โดยตลอดเส้นเทรลนี้จะมีสถานที่ให้ได้ชมหลายที่เลยค่ะ เช่น Lion Monument , The Garden Tomb , The Roman Soldier Tomb


                      (The Garden Tomb)


                (The Roman Soldier Tomb)


    ใกล้ช่วงเที่ยงแล้ว ยังทำเวลาได้ดีอยู่ อากาศร้อนมาก แนะนำพกน้ำติดตัวมาด้วย และระวัง Dehydrate ให้มาก เท่าที่เดินมาเส้นทางนี้เจอชาวบ้านแบกน้ำขายแค่ครั้งเดียวเอง ราคาแพงด้วย ขวดเล็ก 1 JOD

   ในที่สุดไกด์ น้องลาและคนเลี้ยงลา ก็พาเรามาจนสุดทางของเทรลสายนี้ที่ Temenos Gate ค่ะ จะเห็นคนใส่ชุดทหารโรมันตีกลองเดินขบวนโชว์อยู่ด้านหลัง คอยหมุนเวียนสับเปลี่ยนเวรกันเฝ้าประตู โดยบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของ Winged lion temple , Qasr al-Bint

                  Winged lion temple


                          Qasr al-Bint

   ไปกันต่อด้วยเส้น Monastery Trail บันไดหินเรียงลำดับขั้นสูงชันขึ้นๆ ระยะทางประมาณ 2.5 กม. และเพิ่มความท้าทายยิ่งขึ้นโดยขี่ลาค่ะ เจ้าลาตัวนี้ชอบอยู่สองอย่าง กระโดดขึ้นบันได กับเดินริมหน้าผา จริงๆเค้าหลบคนค่ะ เข้าใจอยู่ แต่แอบหวาดเสียวเล็กน้อย



      ถึงแล้วค่ะ The Monastery (Ad-Deir) ใหญ่มากกว้างมาก ทึ่งที่มนุษย์มีความสามารถสร้างหินให้อลังการสวยงามขนาดนี้ได้ยังไงกัน
     แต่สำหรับใครที่ยังเดินไม่เหนื่อยพอ มีเส้น Hiking รอบๆ The Monastery ให้ลองกัน ส่วนเราเหนื่อยแล้วนั่งเล่นคาเฟ่ด้านหน้าก่อนนะคะ อ้อ…ไกด์บอกว่าเนินเขาหลังคาเฟ่ฝั่งตะวันตกสามารถมองเห็นประเทศเพื่อนบ้านอิสราเอลได้เลยค่ะ

    ขากลับเราใช้เส้นทาง Main หลัก เรียกว่า The Colonnaded Street คนละฟีลกับเส้นขามาอย่างสิ้นเชิง มีร้านค้าขายของ เครื่องดื่ม ผลไม้ จุดนั่งพักผ่อนตลอดริมทาง ยาวต่อไปจนถึง Street of Facades แถวๆ The Treasury ค่ะ

   Trails Guide ข้อมูลจาก Map ด้านหน้า Visitor Center เผื่อใครสนใจค่ะ
1.Main Trail : Level Easy
  ระยะทางไป-กลับ 8 กม. ใช้เวลา 3.5-4 ชม.
2.Al-Khubtha Trail : Level Hard
  ระยะทางไป-กลับ 3.5 กม. ใช้เวลา 2.5-3 ชม.
3.High Place of Sacrifice Trail : Level Hard
  ระยะทางไป-กลับ 3 กม. ใช้เวลา 3.5-4 ชม.
4. Ad-Deir (Monastery) Trail : Level Hard
  ระยะทางไป-กลับ 2.5 กม. ใช้เวลา 2.5-3 ชม.
5.Umm Al-Biyara Trail : Level Hard
  ระยะทางไป-กลับ 4 กม. ใช้เวลา 3.5-4 ชม.
6.Jabal Haroun Trail : Level Hard
  ระยะทางไป-กลับ 7.5 กม. ใช้เวลา 5-6 ชม.
7.Sabra Trail : Level Moderate
  ระยะทางไป-กลับ 10 กม. ใช้เวลา 6-7 ชม.
8.AL-Madras Trail : Level Moderate
  ระยะทางไป-กลับ 1.5 กม. ใช้เวลา 1.5 ชม.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่