วิธีการเลือกใช้ เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ( Blenders ) ให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี จะได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือก ว่ามันมีปัจจัยอะไรกันบ้างที่ทำให้เราได้เครื่องปั่นที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานได้ยาวนาน
ผู้คนนั้นเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นว่า การที่เราจะมีสุขภาพที่ดีได้นั้น นอกจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หมั่นออกกำลังกายแล้วล่ะก็ การกินก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คำพูดที่ผู้คนมักพูดกันว่า กินอย่างไรได้อย่างนั้น เป็นจริงเสมอ ก็เพราะว่าโรคภัย ไข้เจ็บ โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการกินแทบทั้งสิ้น
ทางออกที่ดีในการหันมาดูแลใส่ใจในเรื่องของสุขภาพก็คือ การเลือกที่จะรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เมืองไทยของเรานั้นอุดมสมบูรณ์ มีพืชผักผลไม้ตามฤดูกาลมากมายให้เลือกรับประทาน การรับประทานผักผลไม้สดเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อาจจะมีผักบางชนิดที่จะต้องปรุงสุก เพื่อที่จะได้ปลอดภัยในการรับประทาน
บางคนนั้นไม่ชอบที่จะเคี้ยวพืชผักและผลผลไม้ อาจจะเพราะสุขภาพฟันไม่ดี หรือขี้เกียจที่จะเคี้ยวเฉยๆนี่แหละ ก็ต้องมีวิธีจัดการกับปัญหานี้ เราอยากกินผักผลไม้มากขึ้นแต่ขี้เกียจเคี้ยว ฟันไม่ดี หรือชอบทำเป็นเครื่องดื่มมากกว่า ดังนั้นทางออกสำหรับปัญหานี้ก็คือการเลือกใช้เครื่องปั่นสำหรับน้ำผักและผลไม้ ( Blenders )
เราอยากจะได้เครื่องปั่นผักและผลไม้ดีๆสักเครื่อง เราควรที่จะมีวิธีการเลือกอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอาล่ะมาอ่านไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
วิธีการเลือกเครื่องปั่นน้ำผักและผลไม้
1. โถปั่น
โดยส่วนใหญ่จะมีวัสดุที่ใช้ทำโถปั่นด้วยกัน 2 แบบคือ พลาสติก และแก้ว มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเลยว่าเราชอบที่จะใช้วัสดุประเภทไหน สามารถเลือกได้ตามความพอใจได้เลย
2. เครื่องปั่นแบบทั่วไป หรือแบบมาตรฐาน กับเครื่องปั่นแบบพกพา ( Portable Blenders )
ถ้าเราอยากได้แบบที่ทำปั่นครั้งเดียวได้หลายๆแก้ว หรืออยากจะใช้สำหรับปั่นน้ำผลไม้ขายที่ร้านของเราเอง ก็ควรที่จะเลือกใช้แบบมาตรฐานเพราะว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่า แต่ถ้าเราต้องการแบบใช้ส่วนตัวของเรา พกพาได้สะดวก ปั่นได้ทีละ 1 แก้ว ก็เลือกแบบพกพา
3. กำลังวัตต์ ( W )
ยิ่งกำลังของมอเตอร์ของเครื่องปั่นของเรามีมากเท่าไหร่ ก็จะรองรับการใช้งานการปั่นน้ำผักและผลไม้มากขึ้นเท่านั้น หากคุณต้องการใช้งานสำหรับร้านน้ำปั่นของคุณแนะนำว่าให้ใช้กำลังวัตต์ 600 วัตต์ขึ้นไป หรือถ้ามากว่านั้นได้จะยิ่งดี
4. วัสดุการผลิต
โดยภาพรวมแล้ววัสดุการผลิต ต้องทนทานแข็งแรง สามารถใช้งานได้ยาวนาน เช่น ใบมีดปั่นทำจากสแตนเลสอย่างดี ตัววัสดุของโถปั่นผลิตจากพลาสติกคุณภาพดีไม่แตกหักง่าย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีการเลือกเครื่องปั่นน้ำผักและผลไม้ สำหรับเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆนี้ทุกท่านสามารถนำไปเป็นข้อพิจารณาในการเลือกใช้เครื่องปั่นของท่านได้เลย
สามารถติดตามเรื่องราวสูตรน้ำผักและผลไม้ต่างๆ และเครื่องปั่นและเครื่องสกัดน้ำผลไม้ ( Blenders Vs Juicers ) ได้ที่
https://www.blendersvsjuicers.com
วิธีเลือก เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ( Blenders ) ให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี
ผู้คนนั้นเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นว่า การที่เราจะมีสุขภาพที่ดีได้นั้น นอกจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หมั่นออกกำลังกายแล้วล่ะก็ การกินก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คำพูดที่ผู้คนมักพูดกันว่า กินอย่างไรได้อย่างนั้น เป็นจริงเสมอ ก็เพราะว่าโรคภัย ไข้เจ็บ โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการกินแทบทั้งสิ้น
ทางออกที่ดีในการหันมาดูแลใส่ใจในเรื่องของสุขภาพก็คือ การเลือกที่จะรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เมืองไทยของเรานั้นอุดมสมบูรณ์ มีพืชผักผลไม้ตามฤดูกาลมากมายให้เลือกรับประทาน การรับประทานผักผลไม้สดเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อาจจะมีผักบางชนิดที่จะต้องปรุงสุก เพื่อที่จะได้ปลอดภัยในการรับประทาน
บางคนนั้นไม่ชอบที่จะเคี้ยวพืชผักและผลผลไม้ อาจจะเพราะสุขภาพฟันไม่ดี หรือขี้เกียจที่จะเคี้ยวเฉยๆนี่แหละ ก็ต้องมีวิธีจัดการกับปัญหานี้ เราอยากกินผักผลไม้มากขึ้นแต่ขี้เกียจเคี้ยว ฟันไม่ดี หรือชอบทำเป็นเครื่องดื่มมากกว่า ดังนั้นทางออกสำหรับปัญหานี้ก็คือการเลือกใช้เครื่องปั่นสำหรับน้ำผักและผลไม้ ( Blenders )
เราอยากจะได้เครื่องปั่นผักและผลไม้ดีๆสักเครื่อง เราควรที่จะมีวิธีการเลือกอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอาล่ะมาอ่านไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
วิธีการเลือกเครื่องปั่นน้ำผักและผลไม้
1. โถปั่น
โดยส่วนใหญ่จะมีวัสดุที่ใช้ทำโถปั่นด้วยกัน 2 แบบคือ พลาสติก และแก้ว มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเลยว่าเราชอบที่จะใช้วัสดุประเภทไหน สามารถเลือกได้ตามความพอใจได้เลย
2. เครื่องปั่นแบบทั่วไป หรือแบบมาตรฐาน กับเครื่องปั่นแบบพกพา ( Portable Blenders )
ถ้าเราอยากได้แบบที่ทำปั่นครั้งเดียวได้หลายๆแก้ว หรืออยากจะใช้สำหรับปั่นน้ำผลไม้ขายที่ร้านของเราเอง ก็ควรที่จะเลือกใช้แบบมาตรฐานเพราะว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่า แต่ถ้าเราต้องการแบบใช้ส่วนตัวของเรา พกพาได้สะดวก ปั่นได้ทีละ 1 แก้ว ก็เลือกแบบพกพา
3. กำลังวัตต์ ( W )
ยิ่งกำลังของมอเตอร์ของเครื่องปั่นของเรามีมากเท่าไหร่ ก็จะรองรับการใช้งานการปั่นน้ำผักและผลไม้มากขึ้นเท่านั้น หากคุณต้องการใช้งานสำหรับร้านน้ำปั่นของคุณแนะนำว่าให้ใช้กำลังวัตต์ 600 วัตต์ขึ้นไป หรือถ้ามากว่านั้นได้จะยิ่งดี
4. วัสดุการผลิต
โดยภาพรวมแล้ววัสดุการผลิต ต้องทนทานแข็งแรง สามารถใช้งานได้ยาวนาน เช่น ใบมีดปั่นทำจากสแตนเลสอย่างดี ตัววัสดุของโถปั่นผลิตจากพลาสติกคุณภาพดีไม่แตกหักง่าย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีการเลือกเครื่องปั่นน้ำผักและผลไม้ สำหรับเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆนี้ทุกท่านสามารถนำไปเป็นข้อพิจารณาในการเลือกใช้เครื่องปั่นของท่านได้เลย
สามารถติดตามเรื่องราวสูตรน้ำผักและผลไม้ต่างๆ และเครื่องปั่นและเครื่องสกัดน้ำผลไม้ ( Blenders Vs Juicers ) ได้ที่ https://www.blendersvsjuicers.com