การตรวจสุภาพเพื่อใช้สำหรับยื่นขอวีซ่า(ไปศึกษาต่อระดับปริญญาที่ไต้หวัน) Taiwan

การตรวจสุภาพเพื่อใช้สำหรับยื่นขอวีซ่า(ไปศึกษาต่อระดับปริญญาที่ไต้หวัน) 
·         โรงพยาบาลที่ระบุ 28 แห่งเท่านั้น   
https://www.taiwanembassy.org/th/post/10548.html
·         แบบฟอร์มสำหรับการตรวจสุขภาพ   
https://drive.google.com/file/d/1qznkzEqcSYSAWr-Ps7eT2-sUU7WhhxHH/view
·         ผลตรวจสุภาพนี้มีผลภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ผลออก

การเตรียมเอกสารก่อนไปตรวจ
1.      รูปภาพขนาด 2 นิ้ว (ยาว2นิ้ว กว้าง1.5นิ้ว ควรนำรูปไปเผื่อ2-3รูป)  แนะนำให้ถ่ายเป็นพื้นหลังสีขาว จะได้ใช้ในการทำวีซ่าได้อีกด้วย
2.      Passport หนังสือเดินทาง
3.      ID card บัตรประจำตัวประชาชน
4.      ปริ้นแบบฟอร์มสำหรับการตรวจสุภาพ (สำหรับโรงพยาบาลบางแห่ง นั้นอาจไม่สะดวกปริ้นแบบฟอร์มให้เรา ปริ้นเผื่อไว้ก่อนนะคะ)

การเตรียมตัวเตรียมใจตรวจสุขภาพ
1.      ตรวจเลือด (มีการเจาะเลือด)
2.      เอกซเรย์ปอด
3.      ตรวจสุขภาพทั่วไปกับคุณหมอ
4.      ตรวจอุจจาระ (สำหรับคนขับถ่ายยาก เราแนะนำให้เก็บน้องอุนจิของเราไปก่อนที่จะเดินทางไปโรงพยาบาล โดยเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท ตัวอย่างน้องอุนจิที่เก็บมาจากบ้านควรอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง จะช่วยประหยัดเวลาในการตรวจได้มาก) 
อ้างอิงจาก 
https://www.bumrungrad.com/th/health-check-up-bangkok-thailand/home-stool-collection

                    เราเลือกโรงพยาบาลที่จะไปตรวจจากการเดินทางที่สะดวกสำหรับตัวเรา โดยโรงพยาบาลที่เราไปตรวจคือ โรงพยาบาลเจ้าพระยา หรือ Chaophya Hospital Public Company Limited Bangkok ซึ่งส่วนใหญ่จากที่เราทราบมา พวกรุ่นพี่ที่เดินทางไปไต้หวันไปตรวจกันที่  โรงพยาบาลรามา Ramathibodi Hospital และ โรงพยาบาลจุฬา Chulalongkorn Hospital โดยราคาการตรวจประมาณ 1,300 บาท (โดยราคาอาจจะมากกว่านี้ หากมีการฉีดหัดเยอรมัน ตามที่เอเจนซี่แนะนำ **ตอนที่เขียนบทความนี้มีการระบาดของโควิดและโรคฝีดาษลิง)
**สำหรับคนที่เลือกตรวจที่โรงพยาบาลรามา หากเดินทางไปตรวจก่อน 9-11โมง จะได้ผลประมาณบ่ายสองไม่เกินสี่โมงภายในวันนั้นนะคะ

Tell story สำหรับคนที่สนใจจะตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา
เดินไปตรงพี่ๆประชาสัมพันธ์ที่ชั้น 1 (เดินเข้าไปจะอยู่ทางขวา) บอกว่าจะมาตรวจสุขภาพไปศึกษาต่อ  เขาก็จะขอ passport และบัตรประจำตัวประชาชนของเราไปถ่ายเอกสาร แล้วเราก็เซ็นรับรองถูกต้อง เขาก็จะให้ใบเอกสาร(ในใบนั้นจะบอกว่าอายุเท่าไร เลขบัตรปชชแล้วจะมาตรวจอะไร) เสร็จแล้วก็ให้เราขึ้นมาชั้น 2 ตรงศูนย์ตรวจสุภาพ พอถึงศูนย์ก็นำใบเอกสารไปในพี่ๆเคาน์เตอร์ศูนย์ตรวจสุขภาพ พอให้เสร็จแล้วก็รอพี่เค้าเรียกชื่อไปตรวจ **โรงพยาบาลที่เราเลือกไปตรวจไม่มีฟอร์มในการตรวจให้นะคะ ต้องปริ้นไปเอง (ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครมาตรวจที่นี้ เขาเลยดูจากฟอร์มที่เราเอาไป) แล้วก็พี่ๆพยาบาลเขาก็จะมาดูว่าเราต้องตรวจไรบ้างตามฟอร์มและคำนวณราคา เรียกเราไปแจ้งราคาก่อนที่จะตกลงตรวจสุภาพ
สำหรับลำดับการตรวจของเราเป็นดังนี้  
1.     ตรวจเอกซเรย์ปอด – ถอดเสื้อและชุดชั้นใน เปลี่ยนเป็นเสื้อของทางโรงพยาบาล มีห้องสำหรับเปลี่ยนชุดไม่ต้องกังวลในการเปลี่ยนเสื้อ
2.     ตรวจเลือด เจาะเลือด – ขั้นตอนนี้ไม่ค่อยมีไรมาก เตรียมใจให้พร้อมแล้วกัดฟันทน
3.     ตรวจอุจจาระ – ส่วนตัวเราเก็บน้องอุนจิมาจากบ้าน เลยตักน้องในภาชนะที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้เลย
4.     ตรวจสุขภาพทั่วไปกับคุณหมอ – อันนี้คุณหมอจะสอบถามว่ามีอาการแพ้ ตามทั่วไปเลย
พอตรวจสุขภาพทั่วไปกับคุณหมอเสร็จก็จะมีพี่พยาบาลมาบอกวันเวลาที่จะมารับผลตรวจ(ใช้เวลา3วัน โดยเราไปตรวจในวันพุธจะได้ผลในวันอาทิตย์) แล้วพาเราไปยังจุดชำระเงิน โดยเราชำระโดยใช้บัตรเครดิตนะคะ (สำหรับใครที่กังวล ทางโรงพยาบาลรับบัตรจากหลากหลายธนาคารเลย ปล.ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้บัตรไม่ได้เลยค่ะ) สรุปสุดท้ายของการเดินทางมาตรวจสุขภาพในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหาย เท่ากับ 3,763 บาทค่ะ 
 
โดยจะแบ่งให้เข้าใจง่ายๆคือข้อดีและข้อเสีย เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดี
•   แพทย์เพียงพอ พี่พยาบาลน่ารักมากๆ ใจดี ไม่ดุเลย
•   รวดเร็ว เราไปถึงประมาณ 9.30 กลับตอน 11.30
•   ตรวจแค่ที่ตรงศูนย์ตรวจสุขภาพ ไม่ต้องเดินข้ามไปข้ามมา
ข้อเสีย
•   ราคาค่อนข้างแรง
•   รอผลตรวจนาน 3วัน
•   ที่จอดรถปานกลาง ขึ้นอยู่กับที่ดวงแล้วค่ะข้อนี้
 
 เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนโบ๊ะหน้าหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตัดสินใจสำหรับคนที่อยากจะไปเรียนต่อที่ไต้หวันนะคะเพี้ยนแบ๊ว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่