โควิดวันนี้ ป่วยใหม่ 2,424 ราย เสียชีวิต 25 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3466675
โควิดวันนี้ ป่วยใหม่ 2,424 ราย เสียชีวิต 25 ราย
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 2,424 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 2,424 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,347,450 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 1,816 ราย หายป่วยสะสม 2,347,265 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 24,028 ราย เสียชีวิต 25 ราย เสียชีวิตสะสม 9,400 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 868 ราย
ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่ 1 มิ.ย. 65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
รง.น้ำตาลทั่วประเทศเดือด!! ไม่รับร่างกม.อ้อยฯ เพิ่ม ‘กากอ้อย’ ในคำนิยามผลพลอยได้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3466283
โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ ประกาศไม่รับร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยฯ ที่ไม่เป็นธรรม ยืนกรานค้านเพิ่ม ‘กากอ้อย’ ในคำนิยามผลพลอยได้ ย้ำไม่ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนน้ำตาลภายในประเทศ
นาย
ปราโมทย์ วิทยาสุข ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศมีมติร่วมกันในการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนปฏิเสธไม่รับร่างการแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นวุฒิสภา หลังผ่านการเห็นชอบวาระ 3 ของสภาผู้แทนราษฎร ที่เพิ่มคำว่า “
กากอ้อย” ในคำนิยาม “
ผลพลอยได้” เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล ซึ่งถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญในอุตสาหกรรม ไม่ได้รับสิทธิ์แต่งตั้งผู้แทนเข้าร่วมในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งขัดต่อหลักเจตนารมณ์ของการออกกฎหมายอ้อยและน้ำตาลทรายที่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปมีส่วนร่วม และจะนำมาซึ่งความแตกแยกในห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจาก “
กากอ้อย” ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงงานตามข้อตกลงเดิมภายใต้สัญญาซื้อขายอ้อยปี 2525 ซึ่งถือเป็นต้นทุนด้านพลังงานที่โรงงานใช้เป็นเชื้อเพลิง ในการผลิตน้ำตาลทรายเพื่อนำไปจำหน่ายเป็นรายได้แบ่งปันให้ชาวไร่อ้อยร้อยละ 70 และโรงงานร้อย 30 และ “กากอ้อย” ถูกจัดให้เป็นขยะอุตสาหกรรมจากการกระบวนการผลิตที่โรงงานต้องรับผิดชอบภายใต้พ.ร.บ.โรงงาน 2535 โดยฝ่ายโรงงานลงทุนฝ่ายเดียวทั้งหมด เพื่อจัดการของเสียดังกล่าวไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำกากอ้อยไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า ดังนั้น การเพิ่ม “กากอ้อย” ในร่าง พรบ. ดังกล่าว จึงเป็นการเอาประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งฝ่ายที่เสียประโยชน์ไม่มีสิทธิ์ปกป้องสิทธิของตน จึงทำให้ฝ่ายโรงงานไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่สามารถยอมรับร่างกฎหมายฉบับนี้ได้
“เราพยายามเรียกร้องมาตลอดว่าต้องการกฎหมายเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย โดยให้รับฟังข้อเท็จจริงจากฝ่ายผู้ประกอบการในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับแต่อย่างใด ทั้งที่การบริหารอุตสาหกรรมภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายต้องอาศัยทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐ ฝ่ายชาวไร่ และฝ่ายโรงงาน เพื่อให้การบริหารอุตสาหกรรมเกิดเสถียรภาพและเกิดความร่วมมือบริหารอุตสาหกรรมให้เติบโตต่อไป แต่ร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลฉบับนี้ กลับดึงคนนอกเข้ามาร่างกติกาที่พยายามทำลายข้อตกลงและธรรมนูญของกฎหมายเดิม และจะทำให้อุตสาหกรรมเกิดความขัดแย้งไม่สิ้นสุด” นาย
ปราโมทย์ กล่าว
นาย
ปราโมทย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลยืนยันว่า พร้อมจะดูแลพี่น้องชาวไร่อ้อยกว่า 300,000 ครอบครัว ในการส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตเข้าหีบเพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้ของชาวไร่ และดูแลผู้บริโภคในประเทศให้มีน้ำตาลทรายอย่างเพียงพอ โดยพร้อมจะบริหารอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ด้วยข้อตกลงร่วมกันระหว่างชาวไร่และโรงงานเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับบริบทการแข่งขันในเวทีโลก โดยไม่ขัดต่อหลักการของ WTO เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย
‘ครูมานิตย์’ ฉะ ‘ประยุทธ์’ หวงอำนาจ สับขาหลอกสูตรปาร์ตี้ลิสต์ ไร้กึ๋นบริหารประเทศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3466278
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 18.13 น. นาย
ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พล.อ
.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้ไปที่ พล.อ.
ประยุทธ์ น้องเล็ก ว่าคนนี้ปฏิวัติ ทำให้ตนกลัวว่า คนนี้จะปฏิวัติต่อ เพราะชูมือ ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนกับพอใจ นายกฯเป็นไบโพลาร์ ควบคุมตัวเองไม่ได้ และอารมณ์แปรปรวน เราจะเอาคนแบบนี้มาเป็นนายกฯต่ออีกหรือ โม้ตลอดว่าเศรษฐกิจดี ไป จ.สุโขทัย คุยกับวัวรู้เรื่อง แต่คุยกับเราไม่รู้เรื่อง ผู้นำที่ดีต้องแก้ไข ไม่ใช่โยนให้คนอื่น ยิ่งเป็นนายกฯต้องยิ่งสร้างความเจริญ ทั้งนี้ ยุควิกฤตจะมีโอกาสเสมอหากผู้นำมีกึ๋น แต่ตอนนี้ปัญหารุมเร้าประเทศ ความเหลื่อมล้ำสูงมาก และคนจน จนมหาประลัย เพราะท่านปฏิวัติแล้วก็นั่งทำเนียบรัฐบาลเลย
นาย
ครูมานิตย์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำแบบสับขาหลอก ทั้งที่นาย
สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ. … ก็ยังเสนอสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 100 ซึ่งมีคนกระซิบบอกตนว่า พล.อ.
ประวิตรก็เอาด้วย พอโหวตจริงกลับเอาหาร 500 แต่ตอนนี้จะกลับมาหาร 100 อีกแล้ว ทั้งนี้ เป็นเพราะคนรอบข้างท่านบอกว่าเอาอย่างนั้น เอาอย่างนี้นาย แต่เราก็ไม่กลัวว่าจะสูตรไหน เพราะผ่านการเลือกตั้งมา 7-8 ครั้งแล้ว แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองคลองธรรม และทำให้ประเทศน่าเชื่อถือ จูงใจนักลงทุน ท่านกลับหวงแต่อำนาจ จึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมไม่ได้
JJNY : ป่วยใหม่ 2,424 เสียชีวิต 25│รง.น้ำตาลทั่วประเทศเดือด!!│‘ครูมานิตย์’ ฉะ ‘ประยุทธ์’│“ปดิพัทธ์”สับรบ.“ประยุทธ์”
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3466675
โควิดวันนี้ ป่วยใหม่ 2,424 ราย เสียชีวิต 25 ราย
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 2,424 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 2,424 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,347,450 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 1,816 ราย หายป่วยสะสม 2,347,265 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 24,028 ราย เสียชีวิต 25 ราย เสียชีวิตสะสม 9,400 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 868 ราย
ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่ 1 มิ.ย. 65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
รง.น้ำตาลทั่วประเทศเดือด!! ไม่รับร่างกม.อ้อยฯ เพิ่ม ‘กากอ้อย’ ในคำนิยามผลพลอยได้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3466283
โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ ประกาศไม่รับร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยฯ ที่ไม่เป็นธรรม ยืนกรานค้านเพิ่ม ‘กากอ้อย’ ในคำนิยามผลพลอยได้ ย้ำไม่ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนน้ำตาลภายในประเทศ
นายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศมีมติร่วมกันในการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนปฏิเสธไม่รับร่างการแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นวุฒิสภา หลังผ่านการเห็นชอบวาระ 3 ของสภาผู้แทนราษฎร ที่เพิ่มคำว่า “กากอ้อย” ในคำนิยาม “ผลพลอยได้” เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล ซึ่งถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญในอุตสาหกรรม ไม่ได้รับสิทธิ์แต่งตั้งผู้แทนเข้าร่วมในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งขัดต่อหลักเจตนารมณ์ของการออกกฎหมายอ้อยและน้ำตาลทรายที่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปมีส่วนร่วม และจะนำมาซึ่งความแตกแยกในห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจาก “กากอ้อย” ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงงานตามข้อตกลงเดิมภายใต้สัญญาซื้อขายอ้อยปี 2525 ซึ่งถือเป็นต้นทุนด้านพลังงานที่โรงงานใช้เป็นเชื้อเพลิง ในการผลิตน้ำตาลทรายเพื่อนำไปจำหน่ายเป็นรายได้แบ่งปันให้ชาวไร่อ้อยร้อยละ 70 และโรงงานร้อย 30 และ “กากอ้อย” ถูกจัดให้เป็นขยะอุตสาหกรรมจากการกระบวนการผลิตที่โรงงานต้องรับผิดชอบภายใต้พ.ร.บ.โรงงาน 2535 โดยฝ่ายโรงงานลงทุนฝ่ายเดียวทั้งหมด เพื่อจัดการของเสียดังกล่าวไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำกากอ้อยไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า ดังนั้น การเพิ่ม “กากอ้อย” ในร่าง พรบ. ดังกล่าว จึงเป็นการเอาประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งฝ่ายที่เสียประโยชน์ไม่มีสิทธิ์ปกป้องสิทธิของตน จึงทำให้ฝ่ายโรงงานไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่สามารถยอมรับร่างกฎหมายฉบับนี้ได้
“เราพยายามเรียกร้องมาตลอดว่าต้องการกฎหมายเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย โดยให้รับฟังข้อเท็จจริงจากฝ่ายผู้ประกอบการในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับแต่อย่างใด ทั้งที่การบริหารอุตสาหกรรมภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายต้องอาศัยทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐ ฝ่ายชาวไร่ และฝ่ายโรงงาน เพื่อให้การบริหารอุตสาหกรรมเกิดเสถียรภาพและเกิดความร่วมมือบริหารอุตสาหกรรมให้เติบโตต่อไป แต่ร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลฉบับนี้ กลับดึงคนนอกเข้ามาร่างกติกาที่พยายามทำลายข้อตกลงและธรรมนูญของกฎหมายเดิม และจะทำให้อุตสาหกรรมเกิดความขัดแย้งไม่สิ้นสุด” นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลยืนยันว่า พร้อมจะดูแลพี่น้องชาวไร่อ้อยกว่า 300,000 ครอบครัว ในการส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตเข้าหีบเพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้ของชาวไร่ และดูแลผู้บริโภคในประเทศให้มีน้ำตาลทรายอย่างเพียงพอ โดยพร้อมจะบริหารอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ด้วยข้อตกลงร่วมกันระหว่างชาวไร่และโรงงานเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับบริบทการแข่งขันในเวทีโลก โดยไม่ขัดต่อหลักการของ WTO เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย
‘ครูมานิตย์’ ฉะ ‘ประยุทธ์’ หวงอำนาจ สับขาหลอกสูตรปาร์ตี้ลิสต์ ไร้กึ๋นบริหารประเทศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3466278
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 18.13 น. นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้ไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ น้องเล็ก ว่าคนนี้ปฏิวัติ ทำให้ตนกลัวว่า คนนี้จะปฏิวัติต่อ เพราะชูมือ ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนกับพอใจ นายกฯเป็นไบโพลาร์ ควบคุมตัวเองไม่ได้ และอารมณ์แปรปรวน เราจะเอาคนแบบนี้มาเป็นนายกฯต่ออีกหรือ โม้ตลอดว่าเศรษฐกิจดี ไป จ.สุโขทัย คุยกับวัวรู้เรื่อง แต่คุยกับเราไม่รู้เรื่อง ผู้นำที่ดีต้องแก้ไข ไม่ใช่โยนให้คนอื่น ยิ่งเป็นนายกฯต้องยิ่งสร้างความเจริญ ทั้งนี้ ยุควิกฤตจะมีโอกาสเสมอหากผู้นำมีกึ๋น แต่ตอนนี้ปัญหารุมเร้าประเทศ ความเหลื่อมล้ำสูงมาก และคนจน จนมหาประลัย เพราะท่านปฏิวัติแล้วก็นั่งทำเนียบรัฐบาลเลย
นายครูมานิตย์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำแบบสับขาหลอก ทั้งที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ. … ก็ยังเสนอสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 100 ซึ่งมีคนกระซิบบอกตนว่า พล.อ.ประวิตรก็เอาด้วย พอโหวตจริงกลับเอาหาร 500 แต่ตอนนี้จะกลับมาหาร 100 อีกแล้ว ทั้งนี้ เป็นเพราะคนรอบข้างท่านบอกว่าเอาอย่างนั้น เอาอย่างนี้นาย แต่เราก็ไม่กลัวว่าจะสูตรไหน เพราะผ่านการเลือกตั้งมา 7-8 ครั้งแล้ว แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองคลองธรรม และทำให้ประเทศน่าเชื่อถือ จูงใจนักลงทุน ท่านกลับหวงแต่อำนาจ จึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมไม่ได้