สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
วิวัฒนาการของการเล่นเพรสซิ่ง ในกีฬาฟุตบอล (สรุปจากที่อ่านใน คห.4)
< 1960s - รูปแบบเพรสซิ่งยังทำได้ยาก เนื่องจากสภาพของฟิตของร่างกายนักฟุตบอลเวลานั้นยังไม่ดีพอ
1966 - การเพรสซิ่งยุคแรกเริ่ม บอลวิ่งควาย - วิคตอร์ มาสลอฟ (ดินาโม เคียฟ)
(ใช้ความฟิตของร่างกายที่เหนือกว่า เข้าไล่บี้แย่งบอล ไม่ให้คู่แข่งมีเวลาเล่นมากนัก จนคว้าแชมป์ลีกโซเวียต 3สมัยติดในเวลานั้น)
1970 - เพรสซิ่งที่ใช้ควบคู่กับดักล้ำหน้า - เอิร์นสท์ แฮปเปิล (เฟเยนูร์ด)
(ต่อยอดจากมาสลอฟ โดยใช้แผงหลังดันสูงดักเช็คล้ำหน้า ควบคู่ไปกับการวิ่งไล่บี้ เพื่อแก้ทางการวางบอลยาวทะลุเพรสซิ่ง
จนสามารถพาเฟเยนูร์ดคว้าแชมป์ยุโรปครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของทีมได้ และเริ่มเป็นที่นิยมในวงการฟุตบอลฮอลแลนด์)
1974 - total football - ไรนุส มิทเชล (ทีมชาติฮอลแลนด์)
(พัฒนาขึ้นจากด้านบน ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบจากผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงทั้งทีม ของทีมชาติฮอลแลนด์ในเวลานั้น
โดยจะใช้ผู้เล่น1-2คนไล่แย่งคนมีบอล และที่เหลือแยกประกบตัวอื่นที่ว่าง พร้อมเปลี่ยนจากรับเป็นรุกทันทีที่แย่งบอลได้
ซึ่งระบบนี้ไม่มีตำแหน่งที่ fix ตายตัว แต่จะปรับไปตามตำแหน่งที่คู่แข่งอยู่ แยกประกบรายคน
จึงกลายเป็นที่มาของโททัลฟุตบอล ที่ดูเผินๆเหมือนว่ากองหน้า กองกลาง กองหลัง ทุกคนพร้อมสลับตำแหน่งกันได้หมด
วิธีนี้นักเตะต้องเก่งทั้งทีม โดนมิทเชลได้เขียนไว้ในหนังสือตำราฟุตบอลว่า "คุณต้องมีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกเพื่อเล่นเกมเพรสซิ่ง")
1988 - zone pressing - อาริโก้ ชาคคี่ (เอซีมิลาน)
(ใช้การเพรสซิ่งทั้งโซน เข้าบีบพื้นที่กดดันคู่แข่ง ... วิธีนี้คือการทำลายความเชื่อของมิทเชล ที่ว่าเพรสซิ่งต้องใช้นักเตะเก่งทั้งทีมลงได้
โดยชาคคี่ ใช้การบีบด้วยระบบทีม+การบีบพื้นที่ ซึ่งสำคัญกว่าความสามารถส่วนบุคคล
แต่ทีมก็ยังต้องการแผงกองหลัง4คนระดับเทพ เพราะต้องดันสูงครึ่งสนามทั้งเกม เพื่อบีบพื้นที่โซนของคู่แข่งให้เหลือแคบที่สุด)
2009 - tiki-taka - เป๊ป กวาดิโอลาร์ (บาร์เซโลน่า)
2015 - gegen pressing - เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)
< 1960s - รูปแบบเพรสซิ่งยังทำได้ยาก เนื่องจากสภาพของฟิตของร่างกายนักฟุตบอลเวลานั้นยังไม่ดีพอ
1966 - การเพรสซิ่งยุคแรกเริ่ม บอลวิ่งควาย - วิคตอร์ มาสลอฟ (ดินาโม เคียฟ)
(ใช้ความฟิตของร่างกายที่เหนือกว่า เข้าไล่บี้แย่งบอล ไม่ให้คู่แข่งมีเวลาเล่นมากนัก จนคว้าแชมป์ลีกโซเวียต 3สมัยติดในเวลานั้น)
1970 - เพรสซิ่งที่ใช้ควบคู่กับดักล้ำหน้า - เอิร์นสท์ แฮปเปิล (เฟเยนูร์ด)
(ต่อยอดจากมาสลอฟ โดยใช้แผงหลังดันสูงดักเช็คล้ำหน้า ควบคู่ไปกับการวิ่งไล่บี้ เพื่อแก้ทางการวางบอลยาวทะลุเพรสซิ่ง
จนสามารถพาเฟเยนูร์ดคว้าแชมป์ยุโรปครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของทีมได้ และเริ่มเป็นที่นิยมในวงการฟุตบอลฮอลแลนด์)
1974 - total football - ไรนุส มิทเชล (ทีมชาติฮอลแลนด์)
(พัฒนาขึ้นจากด้านบน ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบจากผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงทั้งทีม ของทีมชาติฮอลแลนด์ในเวลานั้น
โดยจะใช้ผู้เล่น1-2คนไล่แย่งคนมีบอล และที่เหลือแยกประกบตัวอื่นที่ว่าง พร้อมเปลี่ยนจากรับเป็นรุกทันทีที่แย่งบอลได้
ซึ่งระบบนี้ไม่มีตำแหน่งที่ fix ตายตัว แต่จะปรับไปตามตำแหน่งที่คู่แข่งอยู่ แยกประกบรายคน
จึงกลายเป็นที่มาของโททัลฟุตบอล ที่ดูเผินๆเหมือนว่ากองหน้า กองกลาง กองหลัง ทุกคนพร้อมสลับตำแหน่งกันได้หมด
วิธีนี้นักเตะต้องเก่งทั้งทีม โดนมิทเชลได้เขียนไว้ในหนังสือตำราฟุตบอลว่า "คุณต้องมีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกเพื่อเล่นเกมเพรสซิ่ง")
1988 - zone pressing - อาริโก้ ชาคคี่ (เอซีมิลาน)
(ใช้การเพรสซิ่งทั้งโซน เข้าบีบพื้นที่กดดันคู่แข่ง ... วิธีนี้คือการทำลายความเชื่อของมิทเชล ที่ว่าเพรสซิ่งต้องใช้นักเตะเก่งทั้งทีมลงได้
โดยชาคคี่ ใช้การบีบด้วยระบบทีม+การบีบพื้นที่ ซึ่งสำคัญกว่าความสามารถส่วนบุคคล
แต่ทีมก็ยังต้องการแผงกองหลัง4คนระดับเทพ เพราะต้องดันสูงครึ่งสนามทั้งเกม เพื่อบีบพื้นที่โซนของคู่แข่งให้เหลือแคบที่สุด)
2009 - tiki-taka - เป๊ป กวาดิโอลาร์ (บาร์เซโลน่า)
2015 - gegen pressing - เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)
palovema ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 751525 ถูกใจ, บ้านสวนริมกรุง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3612507 ถูกใจ, bow_gerrard ถูกใจ, buddybulldog ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
การเพรสซิ่ง มีมานานรึยังครับ
คือผมได้ยินมาตั้งแต่อ่านการ์ตูนเรื่องแสลมดังค์แล้ว(อันนั้นเรียกโซนเพรส) แต่ในฟุตบอลเห็นมีพูดกันไม่ถึงสิบปีนี่เอง
แล้วอย่างตำแหน่งบางตำแหน่งเช่น ลิเบอโร่ หรือสวีปเปอร์ ทำไมเดี๋ยวนี้หายไป ไม่เห็นพูดถึงกัน