ผมแค่อยากระบายเรื่องราวของผมทางไหนซักทางนึงเพราะรู้สึกว่าปีนี้มันสาหัสเหลือเกินครับ
ขออนุญาตใช้ชื่อย่อนะครับ ผมชื่อ ม. ครับ ผมเกิดที่ประเทศไทยในครอบครัวฐานะปานกลาง ผมและพี่ชายโตมาอย่างสุขสบายบนความพยายามของคุณพ่อ และ คุณแม่ที่พยายามถีบตัวออกมาจากครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน แต่ถึงจะโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนพวกท่านก็เติบโตมาได้เป็นอย่างดี พวกท่านทำงานอย่างหนักจนปัจจุบันครอบครัวของเราพูดได้อย่างเต็มปากว่าเราเป็นกลุ่มชนชั้นกลางของประเทศ
ก่อนหน้านี้ผมเรียนจบจากมหาลัยระดับกลางๆของรัฐ ทำงานประจำในบริษัทเอกชนขนาดกลางๆ และ เริ่มทำธุรกิจที่เคยเป็นความฝันของตัวเอง ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพิเศษ เป็นแค่คนธรรมดาๆ ทั้งๆที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ผมไม่มีความสุขที่ประเทศไทยซักเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่มีอยู่มันไม่ใช่ของของเรา ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้สร้างมันขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ผมอยากเป็นอย่างคุณพ่อคุณแม่
ในตอนนั้นความฝันของผมคือการมีครอบครัวของตัวเอง ในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวกับคนรักเป็นบ้านหลังเล็กๆที่อบอุ่น เลี้ยงแมวซักสองถึงสามตัวและสามารถเลี้ยงดูคุณพ่อ คุณแม่ได้ในตอนที่พวกท่านแก่ตัวลง ความฝันของผมไม่ได้ยิ่งใหญ่ ผมแค่อยากอยู่กับใครซักคนและครอบครัวอย่างมีความสุข
ผมรู้สึกว่าที่ประเทศไทยฝันของผมจะไม่มีวันเป็นจริงถ้าผมยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ผมใช้เงินเดือนแบบเดือนชนเดือน เพื่อซื้อความสุขแบบชั่วคราว ผมกินของที่อยากกิน ไปเที่ยวที่ที่อยากไป ซื้อของแค่เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ธุรกิจที่ทำก็ให้กำไรน้อยเกินไปจนรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะทำต่อ
ผมทิ้ง ”ทุกอย่าง” ที่ประเทศไทยเพื่อมาตั้งตัวที่ออสเตรเลีย
ในตอนแรกผมไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทุกอย่างในที่นี้จะรวมไปถึงคนรักด้วย ผมวาดฝันกับเธอไว้ว่าเราทั้งคู่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นที่ประเทศนี้ ผมแพลนอนาคตของเราไว้ด้วยกันอยู่ฝ่ายเดียว ผมชะล่าใจเกินไป ผมมาที่นี่ก่อนเธอด้วยความตั้งใจว่าจะเป็นการเตรียมการเพื่ออนาคตของเรา ผมตั้งใจจะมาเบิกทางให้เธอก่อน แล้วค่อยให้เธอตามผมมาทีหลัง
แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายบอกเลิกเธอก่อนวันเกิดของผม 1 วัน เพราะผมรู้สึกได้ว่าเธอเปลี่ยนไป โดยที่ไม่ได้สำนึกเลยว่าสาเหตุที่เธอเปลี่ยนไปเพราะตัวผมเองก็เป็นฝ่ายที่ละเลยกับความสัมพันธ์นี้เช่นกัน ผมทำร้ายความรู้สึกทั้งของเธอ และ ตัวผมเอง
ในตอนแรกผมโทษเธออยู่ฝ่ายเดียวด้วยซ้ำ ผมรู้สึกหมดไฟในชีวิตที่จะสู้ต่อที่นี่ ผมอยากกลับไทย แต่ทันทีที่ตั้งสติได้ผมขอคุยกับเธอดีดีเป็นครั้งสุดท้าย ผมฟังเหตุผลของเธอ ทำความเข้าใจ และ ยอมรับมัน เธอแค่รักตัวเองมากขึ้นและรักผมน้อยลง แน่นอนว่าผมไม่อยากเสียเธอไปผมพยายามจะยื้อเธอไว้ เพราะผมไม่อยากรู้สึกเสียใจทีหลังว่าตอนนั้นผมพยายามไม่มากพอ ผมอ้อนวอน ผมบอกกับเธอว่าผมขอโอกาสอีกซักครั้ง ถ้าผมทำให้เธอเสียใจอีกแม้แต่นิดเดียวถึงตอนนั้นเธอสามารถไปจากผมได้เลย แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ผมจะไม่ได้รับโอกาสนั้นอีกแล้ว ผมไม่โทษเธอเลยที่เธอเปลี่ยนไป หลายครั้งที่คำพูดของผมค่อยๆทำร้ายจิตใจของเธอ หลายครั้งที่ผมเป็นผู้รับอยู่ฝ่ายเดียว
ผมมาที่ออสเตรเลียเพราะผมเคยมีความฝันร่วมกับใครคนหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนไม่ได้แชร์ฝันนั้นด้วยกันแล้ว
ผมขอให้เธอคนนั้นมีอนาคตที่ดี และ ขอให้มีความสุขกับชีวิตในทุกๆวัน ขอบคุณช่วงเวลาดีดีที่เราเคยมีด้วยกัน และ ขอโทษในทุกๆการกระทำที่เคยทำร้ายเธอ
หลังจากเรื่องนี้ผมรู้ตัวว่ายังต้องปรับปรุงตัวอีกหลายอย่าง ส่วนความฝันในตอนนี้คืออยากให้คุณพ่อคุณแม่และพี่ชายของผมสุขสบายกว่าเดิมไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงผม เพราะฉะนั้นผมจะตั้งใจใช้ชีวิตที่ประเทศนี้ให้ดีต่อไปครับ
ผมมาที่ออสเตรเลียเพราะผมเคยมีความฝันร่วมกับใครคนหนึ่ง
ขออนุญาตใช้ชื่อย่อนะครับ ผมชื่อ ม. ครับ ผมเกิดที่ประเทศไทยในครอบครัวฐานะปานกลาง ผมและพี่ชายโตมาอย่างสุขสบายบนความพยายามของคุณพ่อ และ คุณแม่ที่พยายามถีบตัวออกมาจากครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน แต่ถึงจะโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนพวกท่านก็เติบโตมาได้เป็นอย่างดี พวกท่านทำงานอย่างหนักจนปัจจุบันครอบครัวของเราพูดได้อย่างเต็มปากว่าเราเป็นกลุ่มชนชั้นกลางของประเทศ
ก่อนหน้านี้ผมเรียนจบจากมหาลัยระดับกลางๆของรัฐ ทำงานประจำในบริษัทเอกชนขนาดกลางๆ และ เริ่มทำธุรกิจที่เคยเป็นความฝันของตัวเอง ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพิเศษ เป็นแค่คนธรรมดาๆ ทั้งๆที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ผมไม่มีความสุขที่ประเทศไทยซักเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่มีอยู่มันไม่ใช่ของของเรา ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้สร้างมันขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ผมอยากเป็นอย่างคุณพ่อคุณแม่
ในตอนนั้นความฝันของผมคือการมีครอบครัวของตัวเอง ในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวกับคนรักเป็นบ้านหลังเล็กๆที่อบอุ่น เลี้ยงแมวซักสองถึงสามตัวและสามารถเลี้ยงดูคุณพ่อ คุณแม่ได้ในตอนที่พวกท่านแก่ตัวลง ความฝันของผมไม่ได้ยิ่งใหญ่ ผมแค่อยากอยู่กับใครซักคนและครอบครัวอย่างมีความสุข
ผมรู้สึกว่าที่ประเทศไทยฝันของผมจะไม่มีวันเป็นจริงถ้าผมยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ผมใช้เงินเดือนแบบเดือนชนเดือน เพื่อซื้อความสุขแบบชั่วคราว ผมกินของที่อยากกิน ไปเที่ยวที่ที่อยากไป ซื้อของแค่เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ธุรกิจที่ทำก็ให้กำไรน้อยเกินไปจนรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะทำต่อ
ผมทิ้ง ”ทุกอย่าง” ที่ประเทศไทยเพื่อมาตั้งตัวที่ออสเตรเลีย
ในตอนแรกผมไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทุกอย่างในที่นี้จะรวมไปถึงคนรักด้วย ผมวาดฝันกับเธอไว้ว่าเราทั้งคู่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นที่ประเทศนี้ ผมแพลนอนาคตของเราไว้ด้วยกันอยู่ฝ่ายเดียว ผมชะล่าใจเกินไป ผมมาที่นี่ก่อนเธอด้วยความตั้งใจว่าจะเป็นการเตรียมการเพื่ออนาคตของเรา ผมตั้งใจจะมาเบิกทางให้เธอก่อน แล้วค่อยให้เธอตามผมมาทีหลัง
แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายบอกเลิกเธอก่อนวันเกิดของผม 1 วัน เพราะผมรู้สึกได้ว่าเธอเปลี่ยนไป โดยที่ไม่ได้สำนึกเลยว่าสาเหตุที่เธอเปลี่ยนไปเพราะตัวผมเองก็เป็นฝ่ายที่ละเลยกับความสัมพันธ์นี้เช่นกัน ผมทำร้ายความรู้สึกทั้งของเธอ และ ตัวผมเอง
ในตอนแรกผมโทษเธออยู่ฝ่ายเดียวด้วยซ้ำ ผมรู้สึกหมดไฟในชีวิตที่จะสู้ต่อที่นี่ ผมอยากกลับไทย แต่ทันทีที่ตั้งสติได้ผมขอคุยกับเธอดีดีเป็นครั้งสุดท้าย ผมฟังเหตุผลของเธอ ทำความเข้าใจ และ ยอมรับมัน เธอแค่รักตัวเองมากขึ้นและรักผมน้อยลง แน่นอนว่าผมไม่อยากเสียเธอไปผมพยายามจะยื้อเธอไว้ เพราะผมไม่อยากรู้สึกเสียใจทีหลังว่าตอนนั้นผมพยายามไม่มากพอ ผมอ้อนวอน ผมบอกกับเธอว่าผมขอโอกาสอีกซักครั้ง ถ้าผมทำให้เธอเสียใจอีกแม้แต่นิดเดียวถึงตอนนั้นเธอสามารถไปจากผมได้เลย แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ผมจะไม่ได้รับโอกาสนั้นอีกแล้ว ผมไม่โทษเธอเลยที่เธอเปลี่ยนไป หลายครั้งที่คำพูดของผมค่อยๆทำร้ายจิตใจของเธอ หลายครั้งที่ผมเป็นผู้รับอยู่ฝ่ายเดียว
ผมมาที่ออสเตรเลียเพราะผมเคยมีความฝันร่วมกับใครคนหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนไม่ได้แชร์ฝันนั้นด้วยกันแล้ว
ผมขอให้เธอคนนั้นมีอนาคตที่ดี และ ขอให้มีความสุขกับชีวิตในทุกๆวัน ขอบคุณช่วงเวลาดีดีที่เราเคยมีด้วยกัน และ ขอโทษในทุกๆการกระทำที่เคยทำร้ายเธอ
หลังจากเรื่องนี้ผมรู้ตัวว่ายังต้องปรับปรุงตัวอีกหลายอย่าง ส่วนความฝันในตอนนี้คืออยากให้คุณพ่อคุณแม่และพี่ชายของผมสุขสบายกว่าเดิมไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงผม เพราะฉะนั้นผมจะตั้งใจใช้ชีวิตที่ประเทศนี้ให้ดีต่อไปครับ