คือ... หนูเติบโตมากับความคาดหวังของคุณแม่ค่ะ คุณแม่ของหนูเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมีปัญหาชีวิตค่อนค่างหนักค่ะ ฐานะทางบ้านก็ถือว่ายากจนค่ะ คุณแม่ของหนูต้องจบแค่ม.3และต้องออกจากบ้านไปทำงานหาเงินส่งใช้หนูกับน้องใช้ค่ะ หนูกับน้องจึงถูกฝากให้คุณตาคุณยายเลี้ยงตั้งแต่หนูอายุแค่3ขวบค่ะ ด้วยความที่หนูเป็นที่ค่อนค่างที่จะเงียบและไม่ดื้อไม่ซนมาก ทุกคนจึงมองว่าหนูเป็นเด็กดีเด็กเรียบร้อย ส่วนน้องของหนูอายุจะห่างกันถึง5ปีได้ค่ะน้องของหนูนั้นตรงกันข้ามกับหนูเลยค่ะ น้องเป็นคนหัวดื้อและก็ซนด้วยค่ะ และถูกคุณตาคุณยายตามใจมาแต่เด็ก น้องเป็นคนพูดตรงๆกับเอาแต่ใจค่ะ ทำให้ความคาดหวังของแม่และคุณตาคุณยายเลยตกมาที่หนูหมดเลย เท่าที่หนูจำความได้คุณยายของหนูเล่าว่าเขาก็เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่มาก่อน และคุณยายก็ชอบเล่าเรื่องราวชีวิตที่แสนเศร้าของคุณยายให้หนูฟัง ชอบเล่าเรื่องราวอดีตของคุณแม่ของหนูให้ฟัง เล่าเหตุการณ์ต้นต่อที่คุณพ่อคุณแม่ของหนูต้องหย่าร้างกันปัญหาของพวกผู้ใหญ่ให้ฟังค่ะ เล่าทุกๆครั้งเลยที่มีโอกาส หนูฟังจนหนูเบื่อไปด้วยเลยค่ะ คุณยายก็จะชอบสอนให้หนูเป็นเด็กดีเด่นให้ฝั่งพ่อของหนูเห็นแบ้วเสียดายหนูกับแม่ ชอบให้หนูเป็นคัวเด่น แต่เพราะว่าหนูเป็นคนเงียบและขี้อายก็เลยทำแบบที่เขาอยากให้เป็นไม่ได้ และจะคอยโดนบ่นอยู่ตลอดเวลาว่าทำใมไม่กล้าแสดงออกหรือมีความสามารถพิเศษอะไรเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง มักจะโดนบอกว่าให้เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนเรียนให้เก่งๆพวกเขาจะได้ชื่นใจ ส่วนทางคุณแม่ก็คาดหวังเหมือนกันค่ะคุณแม่ขอบถามกับหนูตลอดว่าโตขึ้นหนูอยากจะเป็นอะไรแบบนี้บ่อยมากเลยค่ะ ตอนเด็กหนูก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลยตอบไปในสิ่งที่คิดได้ไปก่อนค่ะหรือเรียกว่าสิ่งที่สนใจแค่ชั่ววูบไปก่อน พอหนูอายุ11ปีก็ถูกคุณยายส่งไปเรียนโรงเรียนประจำ หนูอยู่แบบอดๆอยากๆค่ะเพราะคุณแม่มีภาระต้องส่งน้าของหนูเรียนให้จบค่ะซึ่งแม่จะแทบจะไม่ส่งเงินมาใช้หนูได้ใช้เลนค่ะในช่วงนั้น พอแม่ส่งน้าเรียนจบแม่ก็ย้ายให้หนูไปเรียนที่ใหม่เป็นโรงเรียนประจำเหมือนเดิมค่ะ แม่ชอบบอกกับหนูแบะร้องส่าแม่ทำทุกอย่างก็เพื่อพวกหนูทั้งสอง แม่ใช้ความเหน็ดเหนื่อยแทนความรักโดยการส่งเงินมาให้พวกหนูใช้ในทุกๆเดือน เวลาที่พวกเราสามคนจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันมันน้อยมากๆ เลยค่ะแทบไม่ได้รับความอบอุ่นเลยระยะเวลาทำให้พวกเราสามแม่ลูกดูห่างเหินกันมากขึ้น แต่ทุกคนก็ยังคาดหวังกับหนูเหมือนเดิมค่ะ คาดหวังให้หนูเรียนจบเรียนเก่งและขอบถามว่าหนูอยากเป็นอะไรในอนาคต บ่นให้หนูต้องหาความรู้เยอะๆอย่าไร้สาระไปวันๆซึ่งหนูเองก็รุ้ค่ะว่าที่เขาบ่นมาเพราะเขาอยากให้เราได้ดี และในวันนี้หนูอายุ16แล้วแม่ก็ถามหนูอีกว่าหนูอยากเรียนอะไรอยากมีอาชีพอะไรซึ่งหนูเองก็ยังไม้รู้คัวเองเลยด้วยซเำว่าจริงๆแล้วเราชอบอะไรกันแน่.. หนูเลยตอบแม่ไปว่าหนูไม่รู้ค่ะ แต่แท่ก็บอกว่าให้หนูไปหาความรู้เพิ่มเติมอย่างนู้นอย่างนี้อย่ามัวแต่ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมส์ไร้สาระ ถ้าหนูยังไม่รุ้ตัวเองแล้วหนูจะสู้ชีวิตได้เท่าแม่มั้ยแม่บอกอีกว่าขนาดแม่สู้ชีวิตแม่เหนื่อยขนาดนี้แม่ยังไม่ได้ดีเลยสักครั้งและให้หนูช่วยตอบในสิ่งที่ทำให้แม่มีกำลังใจสู้ต่อไปได้มั้ย ทำให้แม่มีกำลังใจหน่อย ปัญหาของหนูก็คือหนูไม่รู้จะตอบแม่ว่ายังไง คือหนูไม่อยากให้ใครมาคาดหวังกับตัวหนูมากจนเกินไป มันเป็นความกดดันของหนูมากมันทำให้หนูไม่อยากจะคุยกับคุ ณแม่เรื่องอย่างนี้อีกเลยค่ะ มันทำให้หนูรู้สึกผิดมากว่าแม่อุจส่าเหนื่อยตั้งมากมายแต่แค่ถามนี้หนูกลับตอบให้เป็นกำลังใจให้แม่ไม่ได้เลยหรอ หนูไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ
ครอบครัวคาดหวังกับเรามากเกินไปทำยังไงดี