ถ้าพูดถึงกิจกรรม Adventure ที่ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก สามารถทำได้ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ คำตอบคงหนีไม่พ้น Zip Line ซึ่งหวาดเสียวหน่อยแต่ไม่ได้น่ากลัว คงพอจะให้พวกเราได้ปลดปล่อยพลัง ตะโกนดังๆกัน ^^

แล้วเราจะไป Zip Line ที่ไหนดีละ ที่วิวสวยๆ อลังๆ และที่สำคัญไม่ต้องลางาน ?
ใช่แล้วครับ The Rock Viewpoint ภูผาม่านคือคำตอบของพวกเรา  

Day1 09/07/2022
     เริ่มต้นด้วยการข้ามด่านพรมแดนนครพนม สำหรับคนที่ขับรถมาสามารถหาฝากรถได้ตามโรงแรมในตัวเมือง โดยพวกเราได้เลือกฝากไว้กับโรงแรม P&B วันละ 50 บาท สถานที่โอเค มีหลังคา และมีบริการรถตู้ไปส่งที่ด่านด้วย
     พวกเราถึงด่านประมาณ 09:30 น. ก็เข้าไปทำ Boarding Pass ที่ สนง.การบริการออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว จะเป็นอาคารชั้นเดียวสีฟ้า อยู่ซ้ายมือหน้าด่าน สำหรับคนที่มี Passport อยู่แล้วก็สามารถทำเรื่องผ่านด่านได้เลย

วันนี้คนใช้บริการค่อนข้างเยอะ ทำให้เราเสียเวลาอยู่ที่นี่เกือบ40 นาที สำหรับใครที่จะทำBoarding Pass เมื่อไปถึงแล้วแนะนำให้เข้าไปกดบัตรคิว ระหว่างรอคิวก็ให้สแกน QR Code ที่ติดประกาศไว้ กรอกรายละเอียดข้อมูลไว้เลย เสร็จแล้วจะได้ QR Code เอาไว้ยื่นให้เจ้าหน้าที่เลย เพราะเมื่อถึงคิว เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราสแกน QR Code ติดประกาศไว้อยู่ดี

     ระหว่างนี้รถตู้ที่ได้จองไว้ก็มาจอดขนกระเป๋าสัมพาระขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อย สำหรับรถตู้ ทางพี่ที่ไปด้วยกัน (ซึ่งเราได้แต่งตั้งเป็นผู้จัดการทริปนี้ 555+) 
ได้ติดต่อจองไว้กับทาง FB : Sisomphong Phothisane (ລົດຕູ້ທ່າແຂກ) ตกราคา 7,500 บาท โอนมัดจำ1,000 บาท ที่เหลือจ่ายวันกลับ แต่เขาไม่ได้มาเองนะครับ เขาให้ทีมงานในกลุ่มเขามาแทน นั่นก็คือ "อ้ายตวน"

ทริปนี้พวกเราก็ฝากความปลอดภัยบนท้องถนนสปป.ลาว ไว้กับอ้ายตวน 

     10:20 น. หลังจากพวกเราทำเรื่องผ่านด่านกันเสร็จ ก็ขึ้นรถพาข้ามโขงทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ซึ่งเชื่อมต่อ จ.นครพนม กับ แขวงคำม่วน ของสปป.ลาว ก่อนขึ้นสะพานจะเสียค่าธรรมเนียมผ่านสะพาน 100 บาท (อ้ายตวนจ่าย) พอข้ามมาถึงด่านลาว พวกเราก็ลงไปทำเรื่องผ่านด่าน เสียค่าผ่านด่านคนละ 40 บาท และค่าล่วงเวลาอีก 40 บาท เขาบอกว่าเป็นวันหยุด เลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลา พวกเราก็งงๆ มีด้วยหรอ 555+ แต่ก็จ่ายๆไป
ตอนนี้สัญญาณโทรศัพท์เริ่มไม่มี แต่บนรถตู้ก็มี WIFI ให้ใช้ด้วยนะ^^

     ตามแพลนแล้วเราจะไปกินข้าวกันที่ท่าฝรั่ง แต่ด้วยเวลาที่เลทกว่าแพลนชั่วโมงครึ่ง พวกเราเลยตัดสินใจไม่ไปท่าฝรั่ง ค่อยไปหากินข้างหน้าเอา 
หลังจากลงสะพานมิตรภาพก็ตรงไป เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 13 แล้วตรงไปกว่า 90 กม. ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 8 เพื่อไปยังภูผาม่าน
 

ระหว่างทางอ้ายตวนก็บ่นเรื่องถนนใหญ่เลย บอกว่ารับส่งลูกค้าเสร็จต้องพารถเช็คช่วงล่างทุกครั้งว่างั้น
เห็นเรายกกล้องถ่ายรูป ก็บอกถ่ายไปเยอะๆ ลงโซเชียลก็ดี จะได้มาพัฒนากันบ้าง

     พวกเราให้อ้ายตวนพาแวะร้านแลกเงิน ซึ่งRate วันนี้ที่ 1บาท= 455บาท และพาไปซื้อซิมโทรศัพท์กัน เป็นซิมเน็ตกัน 5Gb 3วัน ราคาค่าซิม 10.000กีบ ค่าบัตรเติมเงินไว้สมัครเน็ต 10.000กีบ ส่วนเราใช้ซิมเดิมตอนที่ไปหลวงพระบางเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ก็จะซื้อแค่บัตรเติมเงิน 10.000กีบ

เงินพร้อม เน็ตโทรศัพท์พร้อม แต่ท้องเริ่มหิวแล้ว 
อ้ายตวนพาเราแวะร้านอาหาร ไม่แน่ใจชื่อร้านอะไร มองหาป้ายร้านไม่เจอ ร้านจะอยู่ซ้ายมือตรงสามที่เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข8 เส้นทางที่จะไปภูผาม่าน

อาหารอร่อยดี ไม่ผิดหวัง แต่พี่ที่ไปด้วยกันแอบบอกส้มตำออกหวานไปหน่อยย หลังจากอิ่มกันแล้วพวกเราก็ไปกันต่อ 


สองข้างทางเขี่ยวขจี สบายตาดี ^^

ระหว่างมีฝนตกลงมา เริ่มใจคอไม่ค่อยดีแล้ว กลัวจะเล่นซิปไลน์ไม่ได้ ==

     13:30 น. อ้ายตวนก็จอดรถ พวกเราว้าวว จุดชมวิวหรอ สวยจัง ลงไปถ่ายรูปกันเถอะ 
ที่ไหนได้ ถึงแล้วครับบ ถึงแล้ว 5555+ The Rock Viewpoint ที่ที่พวกเราจะมาเล่น Zip Line กัน 

มาถึงก็ขึ้นไปติดต่อเจ้าหน้าที่ สำหรับการจองนั้น ผู้จัดการทริปเราทักแชทไปจองกับทาง FB Page : The Rock at Phuphamarn
ราคา 1,035 บาทต่อคน โดยโอนมัดจำไว้ครึ่งนึง (แต่ตอนนี้ราคาจะปรับขึ้นแล้วนะครับ เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อน)
ก่อนเล่นจะมีให้เซ็นต์เอกสารว่าจะไม่รับผิดชอบใดๆหากเกินอุบัติเหตุกับตัวผู้เล่น 
     พวกเรา    :   เอ่อ มีประกันให้ทำไหม
     จนท.       :   ที่นี่ไม่มีครับ ลูกค้าต้องทำมาจากภายนอก
     พวกเรา    :   ก็เริ่มเลิ่กลั่กๆกันละ 555+
     พวกเรา    :   เอ่ออ แล้วเคยมีใครเป็นอะไรไหม
     จนท.       :   ไม่มีครับ
  โอเค สบายใจขึ้นมาหน่อย 555+ ลุยย ^^


สำหรับกิจกรรมของพวกเราที่ The Rock Viewpoint ก็จะมี
     - Zip Line 5 เส้น รวม 1,280เมตร
     - ปีนหน้าผาไปยังจุด Check Point ต่างๆ
     - สะพาน 51 เมตร
     - Spider Net 62 เมตร ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่
     - เดินป่า 300 เมตร

ขอบคุณภาพรายละเอียดราคาจาก FB Page: The Rock at Phuphamarn ครับ
สำหรับใครที่เล่นตอนเย็นรอชมพระอาทิตย์ตก อาจจะพักที่นี่ก็ได้นะครับ มีที่พักให้บริการด้วย

     ตอนพวกเรามาถึงมีกลุ่มนึงกำลังจะเริ่มเล่น ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถไปพร้อมเขาได้ แต่พวกเราเลือกไปรอบบ่าย 3 จะได้ไม่ร้อนมาก และดู Group Private หน่อย (จริงๆแล้วกลัวไปทำคนอื่นเขาช้า 555+)
     ระหว่างรอ พวกเราก็ขึ้นไปนั่งคาเฟ่ด้านบน พอถึงเวลาทางเจ้าหน้าที่ก็มาเรียกเราไปใส่ชุด อุปกรณ์Safety ต่างๆ และสอนการเล่นZip Line
รวมทั้งข้อห้าม ข้อระมัดระวังต่างๆ จะมีพี่Staff ไปกับพวกเราด้วย 2 คน สามารถฝากของ ฝากกล้องไปกับพี่Staff ได้นะครับ หรือถ้าไม่อยากเอาไปก็เก็บไว้ที่Locker ได้

โอเค พร้อมแล้วว ไปกันเล๊ยย Go Go
แรกๆก็จะตื่นเต้น เสียวๆกันหน่อย



พวกเราก็เล่นไปตาม Rout Line ผ่านวิวที่สวยแปลกตาดี ลักษณะเป็นผาหินปูนแท่งแหลมๆ สีดำทา สลับซับซ้อน หรือที่เรียกกันว่า หินหนามหน่อ


ระหว่างทางพี่ Staff ก็อำนวยความสะดวกให้พวกเรา ถ่ายรูปให้ทุกจุดที่ต้องการเลย
จนมาถึง Spider Net ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ พวกเราก็ใช้เวลาอยู่บนนี้กันพักนึง พี่Staff ก็ถ่ายรูปให้พวกเราตลอด ดูเต็มใจบริการมาก 
ทำเอาพวกเราประทับใจเลย ตอนกลับก็เลยให้ทิปพี่Staff เป็นกำลังใจในการทำงานเล็กๆน้อยๆ ^^



เลยจาก Spider Net ก็ปีนหน้าผาไปยังจุดชมวิว ให้พวกเราได้พักเหนื่อยกันแปบนึง
พี่Staff บอกพวกเราว่าที่นี่มีซิปไลน์ทั้งหมด 25 เส้น เป็นแพคเกจใช้เวลาเล่นประมาณ 8 ชม. แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดบริการ

     หายเหนื่อยแล้วพวกเราก็ไปกันต่อ โหน Zip Line เข้าป่า และเดินเท้าทางชันต่ออีก300 เมตร เล่นเอาสาวๆหอบเลยเลยทีเดียว พวกเราก็เดินมาถึง Zip Line เส้นสุดท้ายโหนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรม สนุกดีครับ ประทับใจ ^^

นั่งพักหายเหนื่อย กินน้ำกินท่าเสร็จ พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ ไปยังที่พัก SpringRiver Resort 
ระหว่างทางพวกเราก็เปิดดูรูปที่ Staff ถ่ายให้ 
โอเคครับทุกคน ใครมาก็อย่าลืมเช็ครูปตอนถ่ายกันด้วยนะครับ 

ดึกแล้ว ไว้จะมาต่อนะครับ