ขอแชร์ประสบการณ์ และขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยครับ (ขออภัยที่เนื้อหายาว)
เนื่องจากเราได้มีบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมติดต่อเรามาสัมภาษณ์งานในวันที่ 23 มิ.ย. และตกลงรับเราเข้าทำงาน โดยให้เริ่มงานวันที่ 29 มิ.ย. และก่อนเริ่มงานให้เราให้เราศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเค้า และทำแผนการตลาดในภาพรวมมาให้
พอเริ่มงานวันแรกก็รู้สึกผิดปกติเนื่องจากในบริษัทไม่มีพนักงานที่เคยทำงานเกิน 1 เดือนอยู่เลย และมีพนักงานแค่ 7 (มีการตลาด 1 คน(ตัวผม), การตลาดออนไลน์(ขายสินค้าและตอบคำถาม) 1 คน,เซล 2 คน (ช่องทางละ 1 คน), บัญชี 3 คน) พอช่วงบ่างผมได้นำเสนอข้อมูลต่างๆที่ทำมา ทางบริษัทเห็นชอบทุกอย่างให้เราไปลงรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงนำเสนอแพ็คเกจการขาย และโปรโมชั่นต่างๆ ให้แล้วนำเสนออีกครั้ง โดยเราได้มีการขอข้อมูลของบริษัทเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับต้นทุนสินค้า ยอดขายแต่ละเดือนย้อนหลัง สินค้าที่บริษัทต้องการให้ทำการตลาดโดยจัดเรียงตามลำดับความสำคัญที่ผู้บริหารต้องการก่อนหลัง คอนแท็คติดต่อร้านค้าหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เราจะต้องทำการตลาดให้ ฯลฯ แต่ทางบริษัทรให้แค่ใบปลิว 1 ใบ กับแพ็คเกจขายสินค้าปัจจุบันที่ไม่ใช่ราคาต้นทุน (ราคาขายทั่วไป) โดยทางบริษัทแจ้งว่าเดี๊ยวส่งข้อมูลให้ภายหลัง (แต่ไม่มีการส่ง) โดยเบื้องต้นได้มีการแจ้งว่าเราจำดำเนิการอะไรก่อนหลังให้ทราบโดยวาจาแล้วทางบริษัททับทราบและให้ดำเนินการตามนี้ โดยทางบริษัทแจ้งว่าจะมีการประชุมเกี่ยวกับความคืบหน้าของงานทุกวัน จันทร์ กับวันศุกร์
พอเริ่มทำงานแต่ละวันทางผู้บริหารจะมาแจ้งเปลี่ยนให้ทำงานอย่างอื่นก่อน เช่น วันนี้ทำงาน A พรุ่งนี้ให้ทำงาน B ก่อน มะรื่นให้ทำงาน C ก่อน วันถัดมาก็มาตามงาน A ว่าทำไมยังไม่เสร็จ (ทุกงานเป็นงานต้องคิดแผนการตลาด และต้องประสานงานกับคนนอกเพื่อขอข้อมูล ซึ่งทางผู้บริหารบอกเค้ามีข้อมูลอยู่แต่ไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย) โดยเราได้ชี้แจงว่างานทั้งหมดที่สั่งเป็นที่ต้องใช้ไอเดีย และติดต่อคนภายนอกซึ่งต้องใช้เวลาไม่สามารถทำทันภายใน 1 วัน แต่ทางผู้บริหารไม่สนใจ และกล่าวว่าตัวเค้าสามารถทำงานได้พร้อมกับเป็นสิบอย่างคุณต้องทำได้ (เวลามีการอัพเดทข้อมูลว่าติดต่ออะไรไปบ้างจะได้ข้อมูลอะไรกลับมาวันไหนเราแจ้งให้ผู้บริหารรับทราบตลอด) ระหว่างนี้ก็ให้งานอื่นเพิ่มเติมมาใหม่โดยเอาด่วน เราก็ทำไปนำเสนอเค้าก็ตกลงและให้ไปลงรายละเอียดเพิ่ม โดยจะเข้าลูปการตามงานแบบเดิมโดยแต่ละวันให้เราไปทำงานอื่นก่อน และทุก 1-2 วันจะเรียกไปอัพเดทงาน โดยทำเป็น paper ส่งไม่ได้ต้องทำเป็น presentation ถ้าไม่ทำจะด่าว่าเราทำงานช้า ทำแพ็คเกจขายไปเสนอทางผู้บริหารก็บอกเคยทำแล้วลูกค้าไม่สนใจ โดยไม่ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ตอบกลับมาแค่ "คุณเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดต้องคิดเองได้" เจ้าหน้าที่การตลาดคนอื่นๆก่อนหน้านี้เค้าเก่งๆ ทั้งนั้นข้อมูลที่เค้าให้มาก็ดีทำเป็นเปิดไฟล์แล้วหันมาให้ดูผ่านๆแวบนึง แต่พอถามกลับไปว่าถ้าดีผมขอดูได้ไหมจะได้ต่อยอดงานของเค้าให้ ผู้บริหารจะบอกว่าไม่มีไฟล์ หรือไม่ให้คุณไปคิดเอาเองตลอด ถ้าทำไม่ได้ก็ให้พิจารณาตนเอง
กรณีผม ผมไม่ยอมออกเพราะจากประสบการณ์ผมมองว่าผมทำงานได้ถ้าผู้บริหารให้ข้อมูล หรือบอกทิศทางว่าต้องการให้ดำเนินการอะไรก่อนหลัง โดยมีระยะเวลาให้ทำงานจริงๆ โดยไม่ให้เปลี่ยนงานไปมาจนไม่มีเวลาทำงานตามที่แจ้ง แต่ผู้บริหารบอกไม่สนใจไม่ฟังเหตุผลต้องการให้ผมลาออก หรือไม่ทำก็ทำแผนการตลาดครึ่งปีหลังอย่างละเอียดมาให้เค้าโดยให้เวลาผม 1 วันในการทำงาน ซึ่งผมได้ชี้แจงไปว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากรายละเอียดมันเยอะมากเวลาทำงานจริงก็แค่ครึ่งวัน ทางผู้บริหารจึงขึ้นเสียงด่า และใช้อารมณ์รุงแรงในการพูดจาและให้สามีที่เป็นตำรวจมาคุยแทน ผมจึงอธิบายให้ทางคุณสามีเข้าใจ ทางคุณสามีจึงยอดออกหนังสือเลิกจ้างให้โดยเขียนเป็นลายมือ แต่มีการระบุว่าผมโต้เถียงเรื่องงานจนผู้บริหารไม่พอใจจนเลิกจ้าง และจ่ายเงินเดือนให้ผมตามวันทำงานจริง แต่จะไม่จ่ายค่าตกใจ โดยในหนังสือระบุว่าบริษัทไม่จ่ายเนื่องจากผมยังอยู่ในช่วงทดลองงาน และตัวผมยังติดในในเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู๋ และบอกเป็นวาจาว่าให้ผมไปติดต่อกรมแรงงานเอาเอง เบื้องต้นผมได้ลงนามไปแล้ว โดยทั้งหมดมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.
จากที่ทำงานโดยรวมเค้าจะเน้นเอาไอเดีย และไม่สนงานที่เราทำจะเปลี่ยนงานให้เราทำทุก 1 - 2 วัน เพื่อให้เราไม่มีเวลาทำงานให้เสร็จเป็นงานๆ ไป โดยกับพนักงานคนอื่นๆ และตำแหน่งอื่นๆ ก็โดนแบบเดียวกัน พอได้ข้อมูลจนพอใจแล้วก็มาบอกว่าคุณทำงานไม่เข้าใจผู้บริหาร คุณทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ให้พิจารณาตนเอง หลังจากบอกให้พิจารณาตนเอง ก็จะมีการเรียกเข้าไปหาเพื่อด่าทุกวันจนและให้พนักงานลาออก โดยบริษัทจะไม่ทำหนังสือเลิกจ้าง โดยคนใกล้ตัวผู้บริหารบอกว่าเค้าทำมาแบบนี้ตลอดหลายปีแล้ว ไม่ถึงเดือนก็ให้พนักงานออก
อยากสอบถามผู้รู้ว่ากรณีของผมสามารถฟ้องร้องบริษัทเรียกร้องค่าตกใจได้หรือไม่ครับ ถ้าได้ควรติดต่อที่หน่วยงานไหนจะรวดเร็วครับ
**ก่อนผมออกมี 2 คนที่ถูกบีบออกไปก่อนแล้ว
ขอบคุณที่รับฟัง และแนะนำครับ
ทำงานได้ 2 สัปดาห์ ถูกบริษัทบีบออกจากงาน ต้องทำอย่างไร
เนื่องจากเราได้มีบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมติดต่อเรามาสัมภาษณ์งานในวันที่ 23 มิ.ย. และตกลงรับเราเข้าทำงาน โดยให้เริ่มงานวันที่ 29 มิ.ย. และก่อนเริ่มงานให้เราให้เราศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเค้า และทำแผนการตลาดในภาพรวมมาให้
พอเริ่มงานวันแรกก็รู้สึกผิดปกติเนื่องจากในบริษัทไม่มีพนักงานที่เคยทำงานเกิน 1 เดือนอยู่เลย และมีพนักงานแค่ 7 (มีการตลาด 1 คน(ตัวผม), การตลาดออนไลน์(ขายสินค้าและตอบคำถาม) 1 คน,เซล 2 คน (ช่องทางละ 1 คน), บัญชี 3 คน) พอช่วงบ่างผมได้นำเสนอข้อมูลต่างๆที่ทำมา ทางบริษัทเห็นชอบทุกอย่างให้เราไปลงรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงนำเสนอแพ็คเกจการขาย และโปรโมชั่นต่างๆ ให้แล้วนำเสนออีกครั้ง โดยเราได้มีการขอข้อมูลของบริษัทเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับต้นทุนสินค้า ยอดขายแต่ละเดือนย้อนหลัง สินค้าที่บริษัทต้องการให้ทำการตลาดโดยจัดเรียงตามลำดับความสำคัญที่ผู้บริหารต้องการก่อนหลัง คอนแท็คติดต่อร้านค้าหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เราจะต้องทำการตลาดให้ ฯลฯ แต่ทางบริษัทรให้แค่ใบปลิว 1 ใบ กับแพ็คเกจขายสินค้าปัจจุบันที่ไม่ใช่ราคาต้นทุน (ราคาขายทั่วไป) โดยทางบริษัทแจ้งว่าเดี๊ยวส่งข้อมูลให้ภายหลัง (แต่ไม่มีการส่ง) โดยเบื้องต้นได้มีการแจ้งว่าเราจำดำเนิการอะไรก่อนหลังให้ทราบโดยวาจาแล้วทางบริษัททับทราบและให้ดำเนินการตามนี้ โดยทางบริษัทแจ้งว่าจะมีการประชุมเกี่ยวกับความคืบหน้าของงานทุกวัน จันทร์ กับวันศุกร์
พอเริ่มทำงานแต่ละวันทางผู้บริหารจะมาแจ้งเปลี่ยนให้ทำงานอย่างอื่นก่อน เช่น วันนี้ทำงาน A พรุ่งนี้ให้ทำงาน B ก่อน มะรื่นให้ทำงาน C ก่อน วันถัดมาก็มาตามงาน A ว่าทำไมยังไม่เสร็จ (ทุกงานเป็นงานต้องคิดแผนการตลาด และต้องประสานงานกับคนนอกเพื่อขอข้อมูล ซึ่งทางผู้บริหารบอกเค้ามีข้อมูลอยู่แต่ไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย) โดยเราได้ชี้แจงว่างานทั้งหมดที่สั่งเป็นที่ต้องใช้ไอเดีย และติดต่อคนภายนอกซึ่งต้องใช้เวลาไม่สามารถทำทันภายใน 1 วัน แต่ทางผู้บริหารไม่สนใจ และกล่าวว่าตัวเค้าสามารถทำงานได้พร้อมกับเป็นสิบอย่างคุณต้องทำได้ (เวลามีการอัพเดทข้อมูลว่าติดต่ออะไรไปบ้างจะได้ข้อมูลอะไรกลับมาวันไหนเราแจ้งให้ผู้บริหารรับทราบตลอด) ระหว่างนี้ก็ให้งานอื่นเพิ่มเติมมาใหม่โดยเอาด่วน เราก็ทำไปนำเสนอเค้าก็ตกลงและให้ไปลงรายละเอียดเพิ่ม โดยจะเข้าลูปการตามงานแบบเดิมโดยแต่ละวันให้เราไปทำงานอื่นก่อน และทุก 1-2 วันจะเรียกไปอัพเดทงาน โดยทำเป็น paper ส่งไม่ได้ต้องทำเป็น presentation ถ้าไม่ทำจะด่าว่าเราทำงานช้า ทำแพ็คเกจขายไปเสนอทางผู้บริหารก็บอกเคยทำแล้วลูกค้าไม่สนใจ โดยไม่ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ตอบกลับมาแค่ "คุณเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดต้องคิดเองได้" เจ้าหน้าที่การตลาดคนอื่นๆก่อนหน้านี้เค้าเก่งๆ ทั้งนั้นข้อมูลที่เค้าให้มาก็ดีทำเป็นเปิดไฟล์แล้วหันมาให้ดูผ่านๆแวบนึง แต่พอถามกลับไปว่าถ้าดีผมขอดูได้ไหมจะได้ต่อยอดงานของเค้าให้ ผู้บริหารจะบอกว่าไม่มีไฟล์ หรือไม่ให้คุณไปคิดเอาเองตลอด ถ้าทำไม่ได้ก็ให้พิจารณาตนเอง
กรณีผม ผมไม่ยอมออกเพราะจากประสบการณ์ผมมองว่าผมทำงานได้ถ้าผู้บริหารให้ข้อมูล หรือบอกทิศทางว่าต้องการให้ดำเนินการอะไรก่อนหลัง โดยมีระยะเวลาให้ทำงานจริงๆ โดยไม่ให้เปลี่ยนงานไปมาจนไม่มีเวลาทำงานตามที่แจ้ง แต่ผู้บริหารบอกไม่สนใจไม่ฟังเหตุผลต้องการให้ผมลาออก หรือไม่ทำก็ทำแผนการตลาดครึ่งปีหลังอย่างละเอียดมาให้เค้าโดยให้เวลาผม 1 วันในการทำงาน ซึ่งผมได้ชี้แจงไปว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากรายละเอียดมันเยอะมากเวลาทำงานจริงก็แค่ครึ่งวัน ทางผู้บริหารจึงขึ้นเสียงด่า และใช้อารมณ์รุงแรงในการพูดจาและให้สามีที่เป็นตำรวจมาคุยแทน ผมจึงอธิบายให้ทางคุณสามีเข้าใจ ทางคุณสามีจึงยอดออกหนังสือเลิกจ้างให้โดยเขียนเป็นลายมือ แต่มีการระบุว่าผมโต้เถียงเรื่องงานจนผู้บริหารไม่พอใจจนเลิกจ้าง และจ่ายเงินเดือนให้ผมตามวันทำงานจริง แต่จะไม่จ่ายค่าตกใจ โดยในหนังสือระบุว่าบริษัทไม่จ่ายเนื่องจากผมยังอยู่ในช่วงทดลองงาน และตัวผมยังติดในในเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู๋ และบอกเป็นวาจาว่าให้ผมไปติดต่อกรมแรงงานเอาเอง เบื้องต้นผมได้ลงนามไปแล้ว โดยทั้งหมดมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.
จากที่ทำงานโดยรวมเค้าจะเน้นเอาไอเดีย และไม่สนงานที่เราทำจะเปลี่ยนงานให้เราทำทุก 1 - 2 วัน เพื่อให้เราไม่มีเวลาทำงานให้เสร็จเป็นงานๆ ไป โดยกับพนักงานคนอื่นๆ และตำแหน่งอื่นๆ ก็โดนแบบเดียวกัน พอได้ข้อมูลจนพอใจแล้วก็มาบอกว่าคุณทำงานไม่เข้าใจผู้บริหาร คุณทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ให้พิจารณาตนเอง หลังจากบอกให้พิจารณาตนเอง ก็จะมีการเรียกเข้าไปหาเพื่อด่าทุกวันจนและให้พนักงานลาออก โดยบริษัทจะไม่ทำหนังสือเลิกจ้าง โดยคนใกล้ตัวผู้บริหารบอกว่าเค้าทำมาแบบนี้ตลอดหลายปีแล้ว ไม่ถึงเดือนก็ให้พนักงานออก
อยากสอบถามผู้รู้ว่ากรณีของผมสามารถฟ้องร้องบริษัทเรียกร้องค่าตกใจได้หรือไม่ครับ ถ้าได้ควรติดต่อที่หน่วยงานไหนจะรวดเร็วครับ
**ก่อนผมออกมี 2 คนที่ถูกบีบออกไปก่อนแล้ว
ขอบคุณที่รับฟัง และแนะนำครับ