อาการเริ่มแรกและความผิดปกติจนนำไปสู่การผ่าตัดอยากให้ผู้หญิงทุกคนหมั่นสังเกตตัวเองค่ะ
เพราะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะปล่อยผ่านเอาการเหล่านี้ไปเพราะ ไม่อยากมาหาหมอเพราะต้องตรวจภายใน
ว่าง่ายๆคือ อายหมอนั่นเอง เราจะขอให้ประสบการณ์ของเราเป็นแนวทางในการตัดสินใจว่า หากมัวแต่
คิดว่าอายท้ายที่สุดแล้วเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะ ซีสต์อาจบิดขั้วแตกอันตรายมากค่ะ
1.ปวดประจำเดือน มากถึงขั้นนอนบิดจนต้องทานยามาตลอดตั้งแต่เป็นสาว
2.ประจำเดือนมาไม่ปกติ เดือนเว้นเดือนหรือ 2 เดือนมาที และมาไม่มาก
3.มีก้อนนูนตรงท้องน้อยเป็นก้อนแข็งๆรู้สึกได้
4.ปวดฉี่บ่อยเนื่องจากซีสต์มีขนาดใหญ่ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ
เท้าความก่อนว่า ปกติจะตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกปีน่ะค่ะ กันเหนียวไว้ก่อนโชคยังดี ไม่มีเชื้อหรือเซลส์ผิดปกติ
มีแค่ 4 อาการนี้ เอาจริงว่าควรไปหาหมอสูติเพื่อตรวจได้แล้วแต่ เรามีลูก2 คนค่ะ วันเวลาผ่านไปแม้จะปวดแทบจะตาย
เราก็แค่กินยาแก้ปวดไปจนเวลาล่วงเลย มาจน 39 ปี ขอบอก
และแล้ววันหนึ่งอาการปวดท้องก็กำเริบแต่ไม่มีประจำเดือนเริ่มสงสัย ว่า เกิดจากอะไร และ ปวดเป็นระยะ กินยาค่ะ
ไม่คิดเยอะกินยาต่อไป สองสามวัน ปวดมาอีก เริ่มไม่สบายใจล่ะ จะลุกจะนั่งปวดค่ะ
ตัดสินใจไปหาหมอที่แผนกสูตินารีจำได้แม่นว่า เป็นวันที่ 23 ม.ค 65เวลา 17.00 น. เงียบมากกริบเชียว รอหมอประมาณ 10 นาทีหน่อยๆ คุณหมอก็มาค่ะดูแล้วยังสาวๆอยู่ใจชื้นมาหน่อย
คุณหมอสอบถามอาการเบื้องต้น และ ขอตรวจภายใน ดู เราก็ขึ้นขาหยั่ง ไม่องไม่อายแล้ว ปวดมากค่ะ
จำอุปกรณ์ไม่ได้แต่ต้องสอดเข้าไปในช่องคลอดเนาะ คุณหมอบอกไม่ต้องเกรง แล้วก็เลื่อนดูในจออย่างละเอียดทั้งมดลูก2ข้างเจอแล้วคุณหมอบอก ซีสต์ ขนาด 10 cm ด้านขวาพลิกหน้าพลิกหลังพังพืดอีกไม่แน่ใจว่าจะเลาะได้มั้ยขอบเรียบ
เบียดกระเพาะฉี่ โถเราใช้ชีวิตมาได้ยังไง โดยที่มันไม่แตกแล้วก่อนหน้านี้ ทำไมไม่เจอ มันอาจจะโตตอนที่เลี้ยงลูกสาวคนเล็กในช่วง 5 ปีนี้ หมอบกอะไรไม่รู้รู้แต่ ต้องผ่านะค่ะ ลงคิวจองประกันสังคมไว้ ตั้งแต่วันนั้นเลย
ก็ใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ จนเดือน7 ก็ได้คิวผ่า บอกเลยว่า คนจองคิวผ่าเยอะมากเราก็ โทรเช็ค ที่รพ.ตลอดว่าได้คิวผ่ารึยังแต่ช่วงที่เราลงคิวผ่าคือ คนที่ผ่าเยอะจริงๆ หมอบอก1ใน5 คนที่เห็นมาแผนกสูติ ไม่ผ่าซีสต์ก็ผ่ามะเร็ง เย้ยยยยย
อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ รพ.พญาไทศรีราชาคือ เราผ่าคลอด 2ท้อง ผ่าริดสีดวง และ ผ่าซีสต์ ยอมรับเลยว่าการจัดการตลอดจนการทำงานของหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่ค่อนข้างรวดเร็วแม้จำนวนผู้ป่วยที่มา รพ.จะเยอะมาก
ทีนี้ เมื่อได้คิว ผ่าแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด
1.หลังเที่ยงคืนงดอาหารน้ำ
2.เจาะเลือด หาความสมบูรณ์ของเกรดเลือด ตรวจHIV
3.x-ray ปอด
4.ตรวจคลื่นหัวใจ
ระหว่างรอผลเลือดออกก็ไปทานข้าวค่ะ เรียบร้อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
5.กลับมาพบหมอที่จะผ่าตัดเพราะยังไม่ได้ วันผ่า
หมอกางตารางการผ่าตัดออกมา โห เต็มไปหมด แต่ละวันไม่ต่ำกว่า 3 คิว แล้วเราจะเลือกวันไหนได้
สรุป เอาวันที่ 12 เพราะ เร็วสุดละบอกตามตรงว่าเรารู้สึกว่า ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว
อาการ คือ ปวดร้าวช่วงหลัง ไม่สามารถนั่งนานได้ และมีเหงื่อซึม เหนื่อยง่าย
หมอบอกว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะ ซีสต์มันอยู่ด้านหน้าอ้าว ก็เรามีอาการแบบนี้จริงๆ
เอาล่ะงั้นช่างมัน ขอให้ผ่าอันนี้เสร็จก่อน รักษาทีละอย่าง
เมื่อได้วันผ่าเรียบร้อยพยาบาลก็ให้ น้ำยาอาบน้ำ ตัดเล็บ สระผม ให้เรียบร้อย และแจ้งวันเวลาให้ทราบว่าต้องมาถึง รพ.07.00 น ลงทะเบียนที่แผนกฉุกเฉินเดี่ยวเจ้าหน้าที่จะพาไปเตรียมตัวที่ห้องพัก เพื่อรอเวลาผ่า คือ 11.00 น
ห้องพักเนื่องจาก เราต้องเลี้ยงลูกกกันเองไม่มีใครเฝ้านอกจากลูกและสามีเราจึงเลือกห้องพักแบบ ห้องเดี่ยว
และการผ่าซีสต์นี้ ต้องนอนรพ.3 คืน4 วัน
วันผ่าตัด 12 กรกฏาคม 2565
มาถึง รพ.ยิ่นลงทะเบียนที่แผนกฉุกเฉิน ทางแผนกให้ตรวจโควิดก่อนผ่า จ่ายเงินสดไป 280บาท และ จ่ายมัดจำค่าห้องพิเศษไป 3 คืน 11,160 บาท ทางรพ.ให้ใบมัดจำมา หากวันที่เราออกจากรพ.มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินใดใดที่หักจากสิทธิประกันที่เรามีอยู่ จะแจ้งให้เราไป ชำระ และ หากตรวจสอบแล้ว ทางรพ.ต้องคืนเราจะโอนเข้าบัญชีภายใน14 วันทำการ
เจ้าหน้าที่ส่งขึ้นห้องพักเพื่อเตรียมตัวผ่าตัดด้วยเราได้ห้อง 708A เป็นวอร์ดเฉพาะทางสูตินารี
ลูกและสามีเตรียมของมานอนเฝ้าเรียบร้อยพร้อมมากยังกะมาเที่ยวเพราะผ่ารพ.นี้จนชิน
การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัดคือ
1.เช็คชื่อ นามสกุล โรคที่จะมาผ่า หมอผ่าชื่ออะไร โรคประจำมั้ย
2.ตรวจเล็บ คอนแทคเลนส์ ฟันปลอม เครื่องประดับ ยางมัดผมก็ห้ามค่ะ
3.เจ้าหน้าที่จะโกนขนให้ด้วย เหมือนตอนผ่าคลอด
4.สำคัญมาก หากเราไม่ได้ถ่ายมา ต้องบอกพยาบาลให้สวนก้นเพื่อให้ถ่ายนะค่ะ จะได้ไม่มีของเสียในท้อง
5.ตรวจปัสสะวะหาการตั้งครรภ์ด้วยในกรณีเคสของหมอ จุฑาทิพย์ ค่าใช้จ่ายจะแจ้งตอน กลับบ้าน
6.เจาะสายน้ำเกลือ แต่ เจาะไม่ได้เส้นเลือดดันแตก พรุนสิคะพรุนทั้งสองแขนข้างละ 2 ครั้งสรุปต้องให้ห้องผ่าตัดเจาะให้
ประหนึ่งดาราเจ้าหน้าที่บอกโห ต้องให้คนที่จิตแข็งเจาะ จนได้ ในใจคือ พรุนนะค่ะ มือมีแต่รอยเข็ม 555
เวลาผ่า 11.00 น.แต่ได้ผ่าจริง11.50 น.เนื่องจากมีเคสผ่าที่เรารอต่อคิวค่ะก็นอนรอไปชิวๆหมอวิสัญญีก็มาแจ้งว่าต้องบล็อคหลังและดมยาใช้เวลาในการผ่าประมาณ 3-4 ชม.นะค่ะ ผ่าซีสต์ ตัดท่อรังไข่ เลาะผังพืด และ ตัดปีกมดลูก
ฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าสายน้ำเกลือ แสบมากมีท่อครอบออกซิเจนให้ลืมตาเป็นครั้งคราวมีฉากเขียวๆมาบังไว้เวลาผ่านไปตื่นอีกที
เจ้าหน้าที่เข็นเราออกจากห้องผ่าปากไวมากอยากเห็นซีสต์ที่ตัดค่ะหมอได้ถ่ายรูปไว้มั้ยค่ะเจ้าหน้ายกโหที่ใส่ซีสต์ให้ดูปาด
เหมือนกำปั้นเลยออกมารอดูอาการก่อนขึ้นห้องพักอีก1ชม.อ้อเราทำหมันด้วยเลยในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่มาเข็นกลับห้องพักลูกและสามีรออยู่ รู้สึกคันยิบๆทั้งตัว พยาบาลแจ้งว่า ต้องนอนราบจนถึง23.00 น.จิบน้ำได้เล็กน้อยน่ะ ห้ามเยอะ คำถามสำคัญคือ ทานอะไรได้มั้ย คำตอบคือ ไม่ได้ มีอาการเวียนหัวคลื่นไส้ อ้วกไปเล็กน้อย
นอนยาวเลยค่ะ ลืมตามองหาลูกเป็นระยะ พยาบาลมาวัดไข้ วัดความดันเป็นครั้งคราวเนื่องจากเราไม่มีไข้
แม้ร่างกายจะพะอืดพะอม ก็ถามว่า ลูกได้กินข้าวรึยัง อาบน้ำรึยัง เด็กๆก็ ไม่งอแง มาเฝ้าขอบเตียงเป็นระยะ
เช้าวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 พยาบาลมาวัดไข้ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จุดพีคคือ ถอดสายน้ำเกลือและถอดถุงฉี่
อาหารเช้ามื้อแรก คือ น้ำซุป ค่อยๆทาน พอไหว ไม่ได้ปวดมาก เมื่อเทียบกับตอนผ่าคลอดคือ ห่างไกลมาก
พยาบาลให้ลุกนั่งแล้วหย่อนขา 1 ชม.เพื่อให้ลุกเดิน และเข้าห้องน้ำฉี่เองให้ได้ไม่มีปัญหาเราทำตามได้ก็ปวดนิดหน่อยทนไว ไม่ต้องทานยาหมอมาเยี่ยมบอก บอกพรุ่งนี้กลับบ้านได้ ดูทรงแล้วสบายมากไปพักฟื้นบ้านเถอะ
จังหวะที่ทานข้าวเที่ยงจู่ๆเกิดจามขึ้นมา โพละ ไส้แตกรึเปล่าเนี่ยเรียกพยายาลมาเปิดแผล เลือดสาดหมอมาดูบอกภายในไม่มีทางแตกเย็บอย่างดีค่ะ อ่อ แต่ ภายนอกต้องทำแผลใหม่ วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 หมอมาเยี่ยมและสรุปว่าให้กลับบ้านได้ทางแผนกการเงินก็เคลียร์เอกสาร สรุปต้องคืนเงินเรามา 4,399 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้
ประเมินราคาผ่าตัดซีสต์ ตัดท่อรังไข่ ตัดปีกมดลูก เลาะผังพืด ประมาณ 145,000 บาท ประกันสังคมจ่ายไม่ต้องสำรองจ่ายใดใด ทั้งนี้ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบสิทธิในการรักษาของตัวเองค่ะ ถามให้ละเอียด
ทำหมัน 5,900 บาท ประกันสังคมจ่ายไม่ต้องสำรองจ่ายใดใด
ค่าตรวจโควิด 280 บาท จ่ายเงินสด
ค่าห้อง ประกันสังคม จ่าย2 คืน 1,400 บาท ส่วนเกิน 3,240 บาท จ่ายเอง ปล.เราเลือกห้องพิเศษค่ะ
ค่ายา ประกันสังคมจ่าย
ค่าตรวจร่างกายเบื้องต้น
ตรวจหามะเร็งปากมดลูก 1,490 บาท จ่ายเงินสด
ตรวจร่างกายเบื้องต้น 3,305 บาท เพื่อวินิจฉัยโรค ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท
ตรวจร่างกายเบื้องต้นและฉีดฮอโมน 2เข็ม 3,099 บาท ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท
ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด xray ปอดเจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ 4, 504 บาท ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท
อาการหลังผ่าตัดเข้าวันที่ 3 ก็ตึงแผลนิดหน่อยแต่ทนไหวลุกเดินทำอะไรได้เล็กน้อยขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้
หวังว่า จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็น โรคเดียวกัน ขอบคุณค่ะ
รีวิว ผ่าตัดซีสต์ในรังไข่แบบเปิดหน้าท้อง ด้วยประกันสังคมและประกันกลุ่มของบริษัท รพ.พญาไทศรีราชา
รีวิว ผ่าตัดซีสต์ในรังไข่แบบเปิดหน้าท้อง ด้วยประกันสังคมและประกันกลุ่มของบริษัท รพ.พญาไทศรีราชา
เพราะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะปล่อยผ่านเอาการเหล่านี้ไปเพราะ ไม่อยากมาหาหมอเพราะต้องตรวจภายใน
ว่าง่ายๆคือ อายหมอนั่นเอง เราจะขอให้ประสบการณ์ของเราเป็นแนวทางในการตัดสินใจว่า หากมัวแต่
คิดว่าอายท้ายที่สุดแล้วเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะ ซีสต์อาจบิดขั้วแตกอันตรายมากค่ะ
1.ปวดประจำเดือน มากถึงขั้นนอนบิดจนต้องทานยามาตลอดตั้งแต่เป็นสาว
2.ประจำเดือนมาไม่ปกติ เดือนเว้นเดือนหรือ 2 เดือนมาที และมาไม่มาก
3.มีก้อนนูนตรงท้องน้อยเป็นก้อนแข็งๆรู้สึกได้
4.ปวดฉี่บ่อยเนื่องจากซีสต์มีขนาดใหญ่ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ
เท้าความก่อนว่า ปกติจะตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกปีน่ะค่ะ กันเหนียวไว้ก่อนโชคยังดี ไม่มีเชื้อหรือเซลส์ผิดปกติ
มีแค่ 4 อาการนี้ เอาจริงว่าควรไปหาหมอสูติเพื่อตรวจได้แล้วแต่ เรามีลูก2 คนค่ะ วันเวลาผ่านไปแม้จะปวดแทบจะตาย
เราก็แค่กินยาแก้ปวดไปจนเวลาล่วงเลย มาจน 39 ปี ขอบอก
และแล้ววันหนึ่งอาการปวดท้องก็กำเริบแต่ไม่มีประจำเดือนเริ่มสงสัย ว่า เกิดจากอะไร และ ปวดเป็นระยะ กินยาค่ะ
ไม่คิดเยอะกินยาต่อไป สองสามวัน ปวดมาอีก เริ่มไม่สบายใจล่ะ จะลุกจะนั่งปวดค่ะ
ตัดสินใจไปหาหมอที่แผนกสูตินารีจำได้แม่นว่า เป็นวันที่ 23 ม.ค 65เวลา 17.00 น. เงียบมากกริบเชียว รอหมอประมาณ 10 นาทีหน่อยๆ คุณหมอก็มาค่ะดูแล้วยังสาวๆอยู่ใจชื้นมาหน่อย
คุณหมอสอบถามอาการเบื้องต้น และ ขอตรวจภายใน ดู เราก็ขึ้นขาหยั่ง ไม่องไม่อายแล้ว ปวดมากค่ะ
จำอุปกรณ์ไม่ได้แต่ต้องสอดเข้าไปในช่องคลอดเนาะ คุณหมอบอกไม่ต้องเกรง แล้วก็เลื่อนดูในจออย่างละเอียดทั้งมดลูก2ข้างเจอแล้วคุณหมอบอก ซีสต์ ขนาด 10 cm ด้านขวาพลิกหน้าพลิกหลังพังพืดอีกไม่แน่ใจว่าจะเลาะได้มั้ยขอบเรียบ
เบียดกระเพาะฉี่ โถเราใช้ชีวิตมาได้ยังไง โดยที่มันไม่แตกแล้วก่อนหน้านี้ ทำไมไม่เจอ มันอาจจะโตตอนที่เลี้ยงลูกสาวคนเล็กในช่วง 5 ปีนี้ หมอบกอะไรไม่รู้รู้แต่ ต้องผ่านะค่ะ ลงคิวจองประกันสังคมไว้ ตั้งแต่วันนั้นเลย
ก็ใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ จนเดือน7 ก็ได้คิวผ่า บอกเลยว่า คนจองคิวผ่าเยอะมากเราก็ โทรเช็ค ที่รพ.ตลอดว่าได้คิวผ่ารึยังแต่ช่วงที่เราลงคิวผ่าคือ คนที่ผ่าเยอะจริงๆ หมอบอก1ใน5 คนที่เห็นมาแผนกสูติ ไม่ผ่าซีสต์ก็ผ่ามะเร็ง เย้ยยยยย
อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ รพ.พญาไทศรีราชาคือ เราผ่าคลอด 2ท้อง ผ่าริดสีดวง และ ผ่าซีสต์ ยอมรับเลยว่าการจัดการตลอดจนการทำงานของหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่ค่อนข้างรวดเร็วแม้จำนวนผู้ป่วยที่มา รพ.จะเยอะมาก
ทีนี้ เมื่อได้คิว ผ่าแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด
1.หลังเที่ยงคืนงดอาหารน้ำ
2.เจาะเลือด หาความสมบูรณ์ของเกรดเลือด ตรวจHIV
3.x-ray ปอด
4.ตรวจคลื่นหัวใจ
ระหว่างรอผลเลือดออกก็ไปทานข้าวค่ะ เรียบร้อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
5.กลับมาพบหมอที่จะผ่าตัดเพราะยังไม่ได้ วันผ่า
หมอกางตารางการผ่าตัดออกมา โห เต็มไปหมด แต่ละวันไม่ต่ำกว่า 3 คิว แล้วเราจะเลือกวันไหนได้
สรุป เอาวันที่ 12 เพราะ เร็วสุดละบอกตามตรงว่าเรารู้สึกว่า ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว
อาการ คือ ปวดร้าวช่วงหลัง ไม่สามารถนั่งนานได้ และมีเหงื่อซึม เหนื่อยง่าย
หมอบอกว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะ ซีสต์มันอยู่ด้านหน้าอ้าว ก็เรามีอาการแบบนี้จริงๆ
เอาล่ะงั้นช่างมัน ขอให้ผ่าอันนี้เสร็จก่อน รักษาทีละอย่าง
เมื่อได้วันผ่าเรียบร้อยพยาบาลก็ให้ น้ำยาอาบน้ำ ตัดเล็บ สระผม ให้เรียบร้อย และแจ้งวันเวลาให้ทราบว่าต้องมาถึง รพ.07.00 น ลงทะเบียนที่แผนกฉุกเฉินเดี่ยวเจ้าหน้าที่จะพาไปเตรียมตัวที่ห้องพัก เพื่อรอเวลาผ่า คือ 11.00 น
ห้องพักเนื่องจาก เราต้องเลี้ยงลูกกกันเองไม่มีใครเฝ้านอกจากลูกและสามีเราจึงเลือกห้องพักแบบ ห้องเดี่ยว
และการผ่าซีสต์นี้ ต้องนอนรพ.3 คืน4 วัน
วันผ่าตัด 12 กรกฏาคม 2565
มาถึง รพ.ยิ่นลงทะเบียนที่แผนกฉุกเฉิน ทางแผนกให้ตรวจโควิดก่อนผ่า จ่ายเงินสดไป 280บาท และ จ่ายมัดจำค่าห้องพิเศษไป 3 คืน 11,160 บาท ทางรพ.ให้ใบมัดจำมา หากวันที่เราออกจากรพ.มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินใดใดที่หักจากสิทธิประกันที่เรามีอยู่ จะแจ้งให้เราไป ชำระ และ หากตรวจสอบแล้ว ทางรพ.ต้องคืนเราจะโอนเข้าบัญชีภายใน14 วันทำการ
เจ้าหน้าที่ส่งขึ้นห้องพักเพื่อเตรียมตัวผ่าตัดด้วยเราได้ห้อง 708A เป็นวอร์ดเฉพาะทางสูตินารี
ลูกและสามีเตรียมของมานอนเฝ้าเรียบร้อยพร้อมมากยังกะมาเที่ยวเพราะผ่ารพ.นี้จนชิน
การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัดคือ
1.เช็คชื่อ นามสกุล โรคที่จะมาผ่า หมอผ่าชื่ออะไร โรคประจำมั้ย
2.ตรวจเล็บ คอนแทคเลนส์ ฟันปลอม เครื่องประดับ ยางมัดผมก็ห้ามค่ะ
3.เจ้าหน้าที่จะโกนขนให้ด้วย เหมือนตอนผ่าคลอด
4.สำคัญมาก หากเราไม่ได้ถ่ายมา ต้องบอกพยาบาลให้สวนก้นเพื่อให้ถ่ายนะค่ะ จะได้ไม่มีของเสียในท้อง
5.ตรวจปัสสะวะหาการตั้งครรภ์ด้วยในกรณีเคสของหมอ จุฑาทิพย์ ค่าใช้จ่ายจะแจ้งตอน กลับบ้าน
6.เจาะสายน้ำเกลือ แต่ เจาะไม่ได้เส้นเลือดดันแตก พรุนสิคะพรุนทั้งสองแขนข้างละ 2 ครั้งสรุปต้องให้ห้องผ่าตัดเจาะให้
ประหนึ่งดาราเจ้าหน้าที่บอกโห ต้องให้คนที่จิตแข็งเจาะ จนได้ ในใจคือ พรุนนะค่ะ มือมีแต่รอยเข็ม 555
เวลาผ่า 11.00 น.แต่ได้ผ่าจริง11.50 น.เนื่องจากมีเคสผ่าที่เรารอต่อคิวค่ะก็นอนรอไปชิวๆหมอวิสัญญีก็มาแจ้งว่าต้องบล็อคหลังและดมยาใช้เวลาในการผ่าประมาณ 3-4 ชม.นะค่ะ ผ่าซีสต์ ตัดท่อรังไข่ เลาะผังพืด และ ตัดปีกมดลูก
ฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าสายน้ำเกลือ แสบมากมีท่อครอบออกซิเจนให้ลืมตาเป็นครั้งคราวมีฉากเขียวๆมาบังไว้เวลาผ่านไปตื่นอีกที
เจ้าหน้าที่เข็นเราออกจากห้องผ่าปากไวมากอยากเห็นซีสต์ที่ตัดค่ะหมอได้ถ่ายรูปไว้มั้ยค่ะเจ้าหน้ายกโหที่ใส่ซีสต์ให้ดูปาด
เหมือนกำปั้นเลยออกมารอดูอาการก่อนขึ้นห้องพักอีก1ชม.อ้อเราทำหมันด้วยเลยในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่มาเข็นกลับห้องพักลูกและสามีรออยู่ รู้สึกคันยิบๆทั้งตัว พยาบาลแจ้งว่า ต้องนอนราบจนถึง23.00 น.จิบน้ำได้เล็กน้อยน่ะ ห้ามเยอะ คำถามสำคัญคือ ทานอะไรได้มั้ย คำตอบคือ ไม่ได้ มีอาการเวียนหัวคลื่นไส้ อ้วกไปเล็กน้อย
นอนยาวเลยค่ะ ลืมตามองหาลูกเป็นระยะ พยาบาลมาวัดไข้ วัดความดันเป็นครั้งคราวเนื่องจากเราไม่มีไข้
แม้ร่างกายจะพะอืดพะอม ก็ถามว่า ลูกได้กินข้าวรึยัง อาบน้ำรึยัง เด็กๆก็ ไม่งอแง มาเฝ้าขอบเตียงเป็นระยะ
เช้าวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 พยาบาลมาวัดไข้ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จุดพีคคือ ถอดสายน้ำเกลือและถอดถุงฉี่
อาหารเช้ามื้อแรก คือ น้ำซุป ค่อยๆทาน พอไหว ไม่ได้ปวดมาก เมื่อเทียบกับตอนผ่าคลอดคือ ห่างไกลมาก
พยาบาลให้ลุกนั่งแล้วหย่อนขา 1 ชม.เพื่อให้ลุกเดิน และเข้าห้องน้ำฉี่เองให้ได้ไม่มีปัญหาเราทำตามได้ก็ปวดนิดหน่อยทนไว ไม่ต้องทานยาหมอมาเยี่ยมบอก บอกพรุ่งนี้กลับบ้านได้ ดูทรงแล้วสบายมากไปพักฟื้นบ้านเถอะ
จังหวะที่ทานข้าวเที่ยงจู่ๆเกิดจามขึ้นมา โพละ ไส้แตกรึเปล่าเนี่ยเรียกพยายาลมาเปิดแผล เลือดสาดหมอมาดูบอกภายในไม่มีทางแตกเย็บอย่างดีค่ะ อ่อ แต่ ภายนอกต้องทำแผลใหม่ วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 หมอมาเยี่ยมและสรุปว่าให้กลับบ้านได้ทางแผนกการเงินก็เคลียร์เอกสาร สรุปต้องคืนเงินเรามา 4,399 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้
ประเมินราคาผ่าตัดซีสต์ ตัดท่อรังไข่ ตัดปีกมดลูก เลาะผังพืด ประมาณ 145,000 บาท ประกันสังคมจ่ายไม่ต้องสำรองจ่ายใดใด ทั้งนี้ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบสิทธิในการรักษาของตัวเองค่ะ ถามให้ละเอียด
ทำหมัน 5,900 บาท ประกันสังคมจ่ายไม่ต้องสำรองจ่ายใดใด
ค่าตรวจโควิด 280 บาท จ่ายเงินสด
ค่าห้อง ประกันสังคม จ่าย2 คืน 1,400 บาท ส่วนเกิน 3,240 บาท จ่ายเอง ปล.เราเลือกห้องพิเศษค่ะ
ค่ายา ประกันสังคมจ่าย
ค่าตรวจร่างกายเบื้องต้น
ตรวจหามะเร็งปากมดลูก 1,490 บาท จ่ายเงินสด
ตรวจร่างกายเบื้องต้น 3,305 บาท เพื่อวินิจฉัยโรค ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท
ตรวจร่างกายเบื้องต้นและฉีดฮอโมน 2เข็ม 3,099 บาท ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท
ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด xray ปอดเจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ 4, 504 บาท ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท
อาการหลังผ่าตัดเข้าวันที่ 3 ก็ตึงแผลนิดหน่อยแต่ทนไหวลุกเดินทำอะไรได้เล็กน้อยขอจบรีวิวไว้เพียงเท่านี้
หวังว่า จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็น โรคเดียวกัน ขอบคุณค่ะ
รีวิว ผ่าตัดซีสต์ในรังไข่แบบเปิดหน้าท้อง ด้วยประกันสังคมและประกันกลุ่มของบริษัท รพ.พญาไทศรีราชา