เจษฎาภรณ์กลางแปลง – พี่ติ๊กกับภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง – ตำนานหนึ่งของหนังไทย ร่วมเปิดงาน #กรุงเทพกลางแปลง

เจษฎาภรณ์กลางแปลง  'หล่อยันเงา'ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง


ภาพจาก FB สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย 


ภาพบรรยากาศงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพกลางแปลง วันแรก (7ก.ค.65) เปิดงาน ณ ลานคนเมือง ด้วยภาพยนตร์เรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง (ปี 2540) มีพี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ พระเอกของเรื่อง และพี่อุ๋ย-นนทรีย์ ผู้กำกับ ร่วมพูดคุยก่อนหนังฉาย เล่าย้อนวันวานถึงเบื้องหลังการถ่ายทำหนัง 2499 เมื่อกว่า 25 ปีก่อน โดยมีทราย เจริญปุระ เป็นผู้ดำเนินรายการ

ในการพูดคุย มีเนื้อหาส่วนที่น่าสนใจก็คือ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้      -เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของพี่อุ๋ย ซึ่งเมื่อวางแผนจะสร้างก็ตั้งใจจะใช้นักแสดงหน้าใหม่เป็นพระเอก แต่เมื่อไปเสนอผู้ใหญ่ กลับถูกสั่งให้ใช้พระเอกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก แต่พี่อุ๋ยยืนยันที่จะแคสหาพระเอกหน้าใหม่มาเป็นแดงไบเล่ ถ้าไม่ได้ก็จะไม่ทำ ด้วยเหตุผลที่ต้องการพระเอกที่มีความสดใหม่ ไม่มีภาพจำมาก่อน 

      - พี่อุ๋ยเปิดแคสติ้งเพื่อหาคนมาเป็นแดงไบเล่ มีคนมาแคสเยอะมาก รวมทั้งมีนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาแคสด้วยหลายคน แต่แคสไปประมาณ 80 กว่าคน ก็ยังหาแดงไบเล่ที่ถูกใจไม่ได้ จนกระทั่งมาเจอพี่ติ๊ก (ที่ไม่ได้มาแคสหนัง) 
 (ในการพูดคุยบนเวทีนี้ พี่อุ๋ยไม่ได้ระบุจำนวนคนที่ได้แคสไป แต่ได้ทราบข้อมูลจำนวนที่แคสนี้จากที่ The Standard NOW สัมภาษณ์พี่อุ๋ยเพิ่มหลังลงจากเวทีแล้ว อ้างอิงนาทีที่ 29:25 ตาม Link  https://www.youtube.com/watch?v=0jwBjLmlsf0 )
 
      - ครั้งแรกที่พี่อุ๋ยเห็นพี่ติ๊ก ก็รู้สึกว่าคนนี้มีออร่า และมีความเหมือนแดงไบเล่ที่มองหาอยู่มาก ทั้งๆที่ตอนนั้นพี่ติ๊กผมยาวรุงรังประบ่า สิวเต็มหน้า ใส่เหล็กดัดฟัน  โดยพี่อุ๋ยได้พยายามจินตนาการผู้ชายคนนี้ที่ตัดผมสั้น ไม่มีสิว ถอดเหล็กดัดฟันออก แล้วคิดว่าคนนี้แหละใช่แดงไบเล่ที่ตามหา เลยเอาบทให้อ่านและชวนมาแคส ซึ่งทีแรกพี่ติ๊กปฏิเสธ แต่ในที่สุดก็ยอมลองแคสดู และรับแสดงในที่สุด
 
      - พี่อุ๋ยเล่าว่า เมื่อรับแสดงแล้ว พี่ติ๊กก็ทำงานให้ด้วยความตั้งใจเต็มร้อยโดยตลอด ซึ่งพี่ติ๊กก็เล่าถึงการทำการบ้านในการรับบทแดงไบเล่ โดยได้อ่านหนังสือเรื่องเส้นทางมาเฟียเป็น Reference และทำตามคำแนะนำต่างๆของพี่อุ๋ย รวมถึงไปหัดยิงปืน และฝึกจับปืน-พกปืนให้คล่อง โดยพี่อุ๋ยบอกพี่ติ๊กว่าให้ทำยังไงก็ได้ให้เหมือนว่าปืนเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย ซึ่งพี่ติ๊กก็ใช้วิธีพกปืนเทียมที่มีขนาดและน้ำหนักเหมือนจริงตลอดเวลา โดยพกตอนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วย 
 
      - สิ่งพี่อุ๋ยชอบที่สุดในการแสดงของพี่ติ๊กคือ พี่ติ๊กเป็นคนยิงปืนไม่กระพริบตา โดยทุกครั้งที่ยิงปืน สายตาของพี่ติ๊กจะมองล็อกเป้า นิ่ง และพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย 
โดยเฉพาะในฉากยิงผู้ใหญ่เต็กที่เป็นท่ายิงปืนที่นิ่งและสุดยอดมาก
 
      - พี่ติ๊กเล่าว่าตลอดระยะเวลาที่การถ่ายทำเรื่องนี้ พี่ติ๊กจะบอกตัวเองให้รู้สึกตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นแดงไบเล่ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกนึกคิด การกระทำ การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือการมองใคร หรือความรู้สึกกับใคร จะเป็นแบบแดงไบเล่ ไม่ใช่ติ๊ก เจษฎาภรณ์
 
      - ซีนที่พี่ติ๊กชอบมีหลายซีน นอกจากซีนยิงผู้ใหญ่เต็กที่พูดถึงไปแล้ว ก็มีอีกซีนคือฉากยิงเฮียหมา ที่หยิบปืนออกมาจากถุงป๊อบคอร์นแล้วยิง ...”แล้วแดงไบเล่ก็แจ้งเกิดในคืนนั้น”...  [จขกท.ก็ชอบฉากนี้ที่สุดเช่นกัน ภาพแดงไบเล่ยิงปืน-ป็อบคอร์นกระจาย-แก้วตกแตกกระจายบนพื้น เป็นภาพที่ติดตามากของซีนนั้น]
 
      - ซีนที่พี่อุ๋ยชอบที่สุด คือ (1) ซีนในบ่อนที่แดงไบเล่หักกับปุ๊ระเบิดขวด ที่พี่อุ๋ยรู้สึกชอบการแสดงของพี่ติ๊กฉากนี้มาก เป็นช่วงถ่ายทำไปเกินครึ่งเรื่องแล้ว พี่อุ๋ยบอกว่าตอนนั้นพี่ติ๊กได้กลายเป็นแดงไปแบบไม่ต้องจูนแล้ว  
และ (2) อีกซีนคือฉากที่แดงไปช่วยน้องผู้หญิงที่ถูกขังทรมานไว้เพื่อบังคับให้ขายตัว แล้วแดงโกรธจัดแบบสุดขีดที่เห็นผู้หญิงถูกทำร้ายขนาดนั้น โดยหลังจากแสดงเสร็จพี่ติ๊กถึงกับอ้วกออกมา  [จขกท.ก็ชอบฉากนี้มากที่สุดเช่นกัน รู้สึกว่าพี่ติ๊กเล่นดีเล่นถึงมาก เพิ่งรู้ว่าพี่ติ๊กอินกับบทซีนนี้มากถึงกับอ้วกเลย]

ฟังการพูดคุยบนเวทีกับพี่อุ๋ย พี่ติ๊ก และทราย แบบเต็มได้จากคลิป :
YouTube THE STANDARD  https://www.youtube.com/watch?v=3wt6w3ch8t4


ในคลิปข้างบนการพูดคุยบางตอนเสียงเบามาก อาจฟังเพิ่มเติมจากคลิปข้างล่าง นาทีที่ 2:50:00 เป็นต้นไป
YouTube VOICE TV    https://www.youtube.com/watch?v=qH6Mayo1qxY


ภาพบรรยากาศงาน ตอนหนังฉาย






เครดิตภาพตามโลโก้ในภาพ ขอบคุณแหล่งภาพทุกท่านค่ะ