คือผมคาใจมากว่า คนโสดตอนนี้คิดแบบเรื่องในหัวข้อที่ผมว่าจริงๆไหม แล้วรู้สึกคิดมากไปเองหรือเปล่า รู้สึกเริ่มอยู่ยากขึ้นๆเรื่อยๆ
1.โสดถ้าไม่มีเงิน ให้ตายยังไงก็อยู่ลำบาก
เมื่อคุณโสด คุณมีเวลา คุณมีความอยากได้ แต่คุณไม่มีเงิน เอ๊ะ คุณจะทำไง ถูกต้องครับ คุณก็เหมือนถูกขัง คุณมีเวลากินนอนทำงาน วนแค่นั้นหละ ตราบใดที่ถ้ากิจกรรมมันไม่สามารถทำได้ฟรีๆหละนะ หรือมีสังคมดีๆ
แต่สุดท้ายเมื่อชีวิตคุณมาถึงจุดที่ คุณควรจะมีสิ่งที่ ชีวิตควรจะมีไว้ให้ตัวเองได้อยู่อย่างสบายเช่น ที่พัก รถ เงินเกษียร คนโสด แค่เจออัตราก่อนผ่อน 2-3 อย่างในช็อตเดียว เงินหายหมด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องผ่อนคอนโดเพราะมันจำเป็นไหมถ้าคุณทำงานที่จังหวะเดียวโซนเดียวนานๆ คุณจะยอมเช่าฟรี หรือ ยอมเจ็บดอกแต่ได้อสังหามาครอบครอง ในเวลาตั้ง 10 - 20 ปีเงินเดือนบางท่านอาจจะไม่พอก็ถูกครับ เงินมันไม่พอทำไรไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลอื่น แต่สำหรับคนที่เงินเยอะ พอจะผ่อนคนเดียวได้ก็คิดว่าเลือกที่จะผ่อนแน่นอนครับ ดอกเบี้ยถูกกว่าค่าเช่าอีก แต่มันก็ทำให้คุณได้สิทธิจับจองทำเลงามๆ ทำงานไม่ต้องเหนื่อยมาก เดินทางใกล้ๆ ในระยะเวลายาวๆ สุขภาพและเวลาคุณจะทรงประสิทธิภาพมากครับ
2.เป็นโสดมีอิสระ
การมีอิสระที่จะทำนั้นใช่ครับทำได้หลากหลาย แต่สุดท้ายคุณจะถูกจำกัดไว้ไม่ให้ทำหรือไม่สามารถทำได้ง่ายๆ ด่านแรกคือเงิน
ด่านที่สองคือ ความรู้สึกครับ เมื่อคุณรู้สึกเคว้งเป็นเหมือนอากาศธาตุเมื่อไหร่ในสถานที่ๆ ผู้คนต่างรายล้อมมาเป็นหมู่คณะ เพื่อนมั่ง แฟน และด่านสุดท้ายนั่นคือสมองครับ เมื่อคุณเก็บมาคิด คุณจะอึดอีดทันทีครับ นั่นคือ ไม่รู้สึกฟิวGoodแล้ว เพราะทุกคนดูเฮฮาแต่เรารู้สึกแปลกใจหรือปรับใจไม่ได้ ไม่สามารถถอดสมองสนุกได้เต็มที่ แต่ถ้าคุณเป็นคนเฟลนลี่ก็อาจจะได้เพื่อนใหม่นั่นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่เชื่อเถอะการวิ่งดุ่มๆไม่เซ็ตติ้งตัวเองให้มีจังหวะเข้าไปทักเขาก็ไม่ค่อยต้อนรับคุณเข้าพวกหลอกครับ ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เฟลนลี่เหมือนกัน เพราะคุณเป็นแค่ ซัมวันที่ไม่ได้สำคัญ ณ เวลานั้น หรือเวลาไหนๆถ้าไม่มี การเซ็ตติ้ง หรือ บทละครที่ดีทำให้เจริญความสัมพันธ์ โอกาศยากมาก เว้นแต่ คุณจะเห็นอีคนประเภทเดียวกันมาโซโล่เพลยเหมือนกัน นั่นหละเป็นไปได้ง่ายกว่าอีก แล้วเมื่อถ้าคุณไม่ชนะทั้งสามด่านเก่งจริงๆ คุณจะรู้สึกเหมือนอิสระภาพมันก็แค่เรื่องหลอกลวงสุดๆไปเลย ยิ่งถ้าคุณเป็นพวกมีความชอบเฉพาะ หรือไม่มีเรื่องไปคุยกับชาวบ้าน หูย เหมือนดับฝันครับ ต้องลุ้นๆว่าจะเจอคนเฟลนลี่เท่านั้นหละว่าง่าย ถึงจะรู้ึสกว่าอิสระมันคุ้มค่า
3. 1 แรง ก็สู้ 2 แรงไม่ค่อยได้ ถ้าไม่เก่งระดับเทพจริงๆ
อันนี้จะเป็นเรื่อง สวัสดิการพื้นฐานตัวเองนั่นหละครับ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เจ็บไข้ได้ป่วย ธุระด่วนที่อาจจะต้องฝากฝัง 2 คนย่อมดีกว่า 1 เมื่อคุณมีคนที่ไว้ใจได้ สามารถฝากเรื่องเล็กๆน้อยๆให้จัดการ และตัวคุณต้องไปทำธุระใหญ่ๆ ก็วิ่งกันเหนื่อยละครับ ยิ่งถ้าตอนป่วยนะ หูยถ้าป่วยหนัก ชีวิตแบบต้องลากสังขารไปหาโทรศัพท์ หรือ ลากตัวเองไปซื้อยาไปหาหมอ แค่จะเดินลงลิพท์จากคอนโดไปขึ้น grab ทรมานเอาเรื่อง ยิ่งถ้าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่หรือมีเพื่อนที่ดี แวะมาทรมานใจสุดๆ คุณต้องใช้พลังใจสูงมากในการเอาชีวิตรอดยามป่วย แล้วถ้าดั้นไปเกิดอุบัติเหตุจากการออกไปหาอิสระ แล้วคุณสลบ หายไปติดต่อไม่ได้ แล้วไม่มีคนเอ๊ะใจถามหามันหายไปไหน แววจูบลาชีวิตสูงครับ เพื่อนแม้งไม่รู้หลอกว่าอยู่ๆมันหายไปไหนเพราะต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่ถ้าคุณมีคนที่คอยคิดถึงถามหา มันจะไม่ปล่อยเราหายไปนานๆเกินวันหลอก
สำหรับเรื่องผ่อนบ้านผ่อนรถ ก็ของมันแน่นอนครับสำหรับคนมีคู่ยิ่งถ้าแต่งงานไว้ใจกันยิ่งดีเลย ภาระก็แทบจะหาร 2 แต่จะไม่ดีแค่เรื่องเดียวคือ ถ้าคุณเลิกกันดังนั้นข้อนี้อาจจะมองวินปนความไม่วินถ่วงๆกันไป แต่ส่วนใหญ่แต่งแล้วก็แทบจะต้องช่วย แต่ถ้าระยะคบหาเป็นแฟนนี่ให้ช่วยคงจะเห็นแก่ตัวเกินไป แล้วภาระผ่อนบ้านหรือรถ ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ โดนไปก้อนนึง 6000-10000 ถ้าไม่เงินเดือนสูงพอ ผมเชื่อว่าสำหรับบางคน เลือกผ่อนได้แค่อย่างเดียวหรือไม่ได้เลยด้วย
4. แรงกดดันจากคนมีคู่ และ พ่อแม่
ทุกคนพร้อมจะแต่งงาน อวดนั่นนี่ อวดของขวัญครบรอบ อวดลูก อวดแม้งทุกสิ่งอย่าง ไม่ต้องห่วงครับในยุคโซเชียลขนาดนั้น คนโพสไม่ได้เจตนาอวดหลอก แต่คนเห็นนี่หละต้องมาจัดการกิเลสความอิจฉาตัวเอง เมื่อคุณเป็นเพียง 1 ที่อาจจะอยากทำแบบคนมี 2 บ้างแต่ไม่สามารถทำได้บอกเลยว่า จุดๆนี้ชีวิตมันจะมีคำถามทำไมต้องมาเหม็นอะไรแบบนี้ แต่ถ้าคุณเก่งพอที่จะจัดการความคิดได้ก็คงไม่ใช่ปัญหา
หลังจากผ่านด่านแรก ย่อมมีด่านสอง ระบบเขาออกแบบมาดี
พ่อแม่จะถามเสมอครับเมื่อไหร่จะได้อุ้มมั่ง จะได้หลาน จะได้เห็นแฟน จะนั่นนี่ แพสชั่นของความเป็นพ่อแม่มันจะ ลงมาเต็มเมื่อเลขอายุมันเยอะขึ้นๆ มันไม่ใช่เรื่องของความเป็นห่วงหรือกลัวลำบากหลอกครับ
5. ความพยายามหลุดพ้นความโสด
บนโลกมันมีดวงและโชคอยู่ ถ้าหน้าตาคุณไม่ได้ระดับเทพ สกิลคารมไม่ได้ระดับไหลลื่นจนหลงกลง่ายๆ เป็นแค่ซัมวันที่ไม่ได้มีอะไรดี เกือบจูบลาการหาคู่คบหาไปเลย ถ้าไม่ใช้โชคช่วย เพราะถ้าคุณเดินดุ่มๆไปทักมึนๆ ด้วยหน้าตามึนๆ ไม่เซ็ตติ้งไม่วางบทละครใดๆ เสล่อมากครับในสายตาคนยุคนี้ จริงๆที่ผ่านมาเพื่อนฝูงหรือหลายๆคน การคบหามันไม่ได้ยากนะจริงๆ ถ้าไม่ได้แย่เกินอะ แต่ส่วนใหญ่ถ้ารู้กว่าถ้าคบจริงๆแล้วอนาคตไม่เวริค เราจะเสี่ยงทำไม ยิ่งโสดนานขึ้นๆ ความพยายามหลุดโสดจะถูกความเลือกให้ดีมาดึงทำให้เกิดความเหนื่อยในการหาใครคบหาจริงๆจังๆ จะมีความกลัวเกิดขึ้นยิ่งผิดหวังมากครั้งยิ่งกลัว ถึงจะหรือสภาพสังคมมันจะบอกก็คบๆไปเหอะอย่าเลือก
สำหรับตัวผมต้องเก่งขั้น เก่งเกินคนปกติไปเลย บางทีเหมือนคนผิดปกติในสายตา เช่น
1.คุณต้องหาเงินเก่ง ระดับเทพ เพราะการรวยแล้วด้วยตัวคนเดียว ต้องเก่งขนาดไหนที่มี บ้าน รถหรู และเงินเกษียร ผมตีหยาบๆเงินเดือนสัก 100000 ขึ้นครับ นึกออกไม่กี่อาชีพจริงๆ
2.คุณต้องจัดการอารมณ์เก่ง เพราะถ้าคุณทำไม่ได้ คุณจะรู้สึกเศร้า โดดเดี่ยวในใจลึกๆ บ้างถึงขั้นซึมเศร้าซึ่งนั่นหละครับ ถ้าไม่เก่งที่จะแบกอารมณ์หรือจัดการมันได้ คุณอาจจะใช้ชีวิตได้ลำบากใจ
3.คุณต้องฉลาด เพราะถ้าเก่งอย่างเดียวแต่ไม่ฉลาดเลย มันจะไม่รู้ว่าจังหวะไหนควรทำไร ฉลาดคิดฉลาดทำฉลาดเข้าใจ คุณจะวินมากๆ
4.ข้อนี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ถ้ามีก็ดี หน้าตาดีมีชัยกว่าคลึ่ง มันจบในตัวถ้าคุณหน้าตาดี แล้วคุณมีข้อ 1-3 สักข้อ คนวิ่งเข้าหาตรึมครับ
ณ จุดๆนี้ถ้าคุณเก่งทุกอย่างลองนึกหรือมโนตัวคุณเองดู คุณเก่งคนปกติไปแล้ว แล้วเวลาคุณพยายามไม่คิดมากลดความเรี่องมากมาคบคน เจ้าปัญหาหน่อยๆ คุณก็ฝืนใจแล้ว เพราะโดยพื้นฐานคุณเก่งเกินคน ไม่ว่าจะคิดเก่ง ฉลาด ทำงานเก่ง ทำอาหารก็เก่ง เก่ง

เก่งแบบเทพ คุณจะเริ่มถูกครอบงำด้วย อีโก้แปลกๆครับ ถึงแม้ว่าจะรู้ตัว แต่นั่นหละมันคือ อีโก้ที่ชื่อว่า มาตรฐานที่คู่ควรนั่นหละครับ ผมเข้าใจเลยทำไมคนเก่งๆถึงแตะต้องได้ยากมาก เพราะเขามีมาตรฐานความสูงที่คนคู่ควรเท่านั้นจะแตะถึง หรือยืนขึ้นไปอยู่ข้างๆกันได้
เป็นโสดยุคนี้เหนื่อยไปไหมครับ หรือคิดมากไปเอง
1.โสดถ้าไม่มีเงิน ให้ตายยังไงก็อยู่ลำบาก
เมื่อคุณโสด คุณมีเวลา คุณมีความอยากได้ แต่คุณไม่มีเงิน เอ๊ะ คุณจะทำไง ถูกต้องครับ คุณก็เหมือนถูกขัง คุณมีเวลากินนอนทำงาน วนแค่นั้นหละ ตราบใดที่ถ้ากิจกรรมมันไม่สามารถทำได้ฟรีๆหละนะ หรือมีสังคมดีๆ
แต่สุดท้ายเมื่อชีวิตคุณมาถึงจุดที่ คุณควรจะมีสิ่งที่ ชีวิตควรจะมีไว้ให้ตัวเองได้อยู่อย่างสบายเช่น ที่พัก รถ เงินเกษียร คนโสด แค่เจออัตราก่อนผ่อน 2-3 อย่างในช็อตเดียว เงินหายหมด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องผ่อนคอนโดเพราะมันจำเป็นไหมถ้าคุณทำงานที่จังหวะเดียวโซนเดียวนานๆ คุณจะยอมเช่าฟรี หรือ ยอมเจ็บดอกแต่ได้อสังหามาครอบครอง ในเวลาตั้ง 10 - 20 ปีเงินเดือนบางท่านอาจจะไม่พอก็ถูกครับ เงินมันไม่พอทำไรไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลอื่น แต่สำหรับคนที่เงินเยอะ พอจะผ่อนคนเดียวได้ก็คิดว่าเลือกที่จะผ่อนแน่นอนครับ ดอกเบี้ยถูกกว่าค่าเช่าอีก แต่มันก็ทำให้คุณได้สิทธิจับจองทำเลงามๆ ทำงานไม่ต้องเหนื่อยมาก เดินทางใกล้ๆ ในระยะเวลายาวๆ สุขภาพและเวลาคุณจะทรงประสิทธิภาพมากครับ
2.เป็นโสดมีอิสระ
การมีอิสระที่จะทำนั้นใช่ครับทำได้หลากหลาย แต่สุดท้ายคุณจะถูกจำกัดไว้ไม่ให้ทำหรือไม่สามารถทำได้ง่ายๆ ด่านแรกคือเงิน
ด่านที่สองคือ ความรู้สึกครับ เมื่อคุณรู้สึกเคว้งเป็นเหมือนอากาศธาตุเมื่อไหร่ในสถานที่ๆ ผู้คนต่างรายล้อมมาเป็นหมู่คณะ เพื่อนมั่ง แฟน และด่านสุดท้ายนั่นคือสมองครับ เมื่อคุณเก็บมาคิด คุณจะอึดอีดทันทีครับ นั่นคือ ไม่รู้สึกฟิวGoodแล้ว เพราะทุกคนดูเฮฮาแต่เรารู้สึกแปลกใจหรือปรับใจไม่ได้ ไม่สามารถถอดสมองสนุกได้เต็มที่ แต่ถ้าคุณเป็นคนเฟลนลี่ก็อาจจะได้เพื่อนใหม่นั่นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่เชื่อเถอะการวิ่งดุ่มๆไม่เซ็ตติ้งตัวเองให้มีจังหวะเข้าไปทักเขาก็ไม่ค่อยต้อนรับคุณเข้าพวกหลอกครับ ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เฟลนลี่เหมือนกัน เพราะคุณเป็นแค่ ซัมวันที่ไม่ได้สำคัญ ณ เวลานั้น หรือเวลาไหนๆถ้าไม่มี การเซ็ตติ้ง หรือ บทละครที่ดีทำให้เจริญความสัมพันธ์ โอกาศยากมาก เว้นแต่ คุณจะเห็นอีคนประเภทเดียวกันมาโซโล่เพลยเหมือนกัน นั่นหละเป็นไปได้ง่ายกว่าอีก แล้วเมื่อถ้าคุณไม่ชนะทั้งสามด่านเก่งจริงๆ คุณจะรู้สึกเหมือนอิสระภาพมันก็แค่เรื่องหลอกลวงสุดๆไปเลย ยิ่งถ้าคุณเป็นพวกมีความชอบเฉพาะ หรือไม่มีเรื่องไปคุยกับชาวบ้าน หูย เหมือนดับฝันครับ ต้องลุ้นๆว่าจะเจอคนเฟลนลี่เท่านั้นหละว่าง่าย ถึงจะรู้ึสกว่าอิสระมันคุ้มค่า
3. 1 แรง ก็สู้ 2 แรงไม่ค่อยได้ ถ้าไม่เก่งระดับเทพจริงๆ
อันนี้จะเป็นเรื่อง สวัสดิการพื้นฐานตัวเองนั่นหละครับ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เจ็บไข้ได้ป่วย ธุระด่วนที่อาจจะต้องฝากฝัง 2 คนย่อมดีกว่า 1 เมื่อคุณมีคนที่ไว้ใจได้ สามารถฝากเรื่องเล็กๆน้อยๆให้จัดการ และตัวคุณต้องไปทำธุระใหญ่ๆ ก็วิ่งกันเหนื่อยละครับ ยิ่งถ้าตอนป่วยนะ หูยถ้าป่วยหนัก ชีวิตแบบต้องลากสังขารไปหาโทรศัพท์ หรือ ลากตัวเองไปซื้อยาไปหาหมอ แค่จะเดินลงลิพท์จากคอนโดไปขึ้น grab ทรมานเอาเรื่อง ยิ่งถ้าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่หรือมีเพื่อนที่ดี แวะมาทรมานใจสุดๆ คุณต้องใช้พลังใจสูงมากในการเอาชีวิตรอดยามป่วย แล้วถ้าดั้นไปเกิดอุบัติเหตุจากการออกไปหาอิสระ แล้วคุณสลบ หายไปติดต่อไม่ได้ แล้วไม่มีคนเอ๊ะใจถามหามันหายไปไหน แววจูบลาชีวิตสูงครับ เพื่อนแม้งไม่รู้หลอกว่าอยู่ๆมันหายไปไหนเพราะต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่ถ้าคุณมีคนที่คอยคิดถึงถามหา มันจะไม่ปล่อยเราหายไปนานๆเกินวันหลอก
สำหรับเรื่องผ่อนบ้านผ่อนรถ ก็ของมันแน่นอนครับสำหรับคนมีคู่ยิ่งถ้าแต่งงานไว้ใจกันยิ่งดีเลย ภาระก็แทบจะหาร 2 แต่จะไม่ดีแค่เรื่องเดียวคือ ถ้าคุณเลิกกันดังนั้นข้อนี้อาจจะมองวินปนความไม่วินถ่วงๆกันไป แต่ส่วนใหญ่แต่งแล้วก็แทบจะต้องช่วย แต่ถ้าระยะคบหาเป็นแฟนนี่ให้ช่วยคงจะเห็นแก่ตัวเกินไป แล้วภาระผ่อนบ้านหรือรถ ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ โดนไปก้อนนึง 6000-10000 ถ้าไม่เงินเดือนสูงพอ ผมเชื่อว่าสำหรับบางคน เลือกผ่อนได้แค่อย่างเดียวหรือไม่ได้เลยด้วย
4. แรงกดดันจากคนมีคู่ และ พ่อแม่
ทุกคนพร้อมจะแต่งงาน อวดนั่นนี่ อวดของขวัญครบรอบ อวดลูก อวดแม้งทุกสิ่งอย่าง ไม่ต้องห่วงครับในยุคโซเชียลขนาดนั้น คนโพสไม่ได้เจตนาอวดหลอก แต่คนเห็นนี่หละต้องมาจัดการกิเลสความอิจฉาตัวเอง เมื่อคุณเป็นเพียง 1 ที่อาจจะอยากทำแบบคนมี 2 บ้างแต่ไม่สามารถทำได้บอกเลยว่า จุดๆนี้ชีวิตมันจะมีคำถามทำไมต้องมาเหม็นอะไรแบบนี้ แต่ถ้าคุณเก่งพอที่จะจัดการความคิดได้ก็คงไม่ใช่ปัญหา
หลังจากผ่านด่านแรก ย่อมมีด่านสอง ระบบเขาออกแบบมาดี
พ่อแม่จะถามเสมอครับเมื่อไหร่จะได้อุ้มมั่ง จะได้หลาน จะได้เห็นแฟน จะนั่นนี่ แพสชั่นของความเป็นพ่อแม่มันจะ ลงมาเต็มเมื่อเลขอายุมันเยอะขึ้นๆ มันไม่ใช่เรื่องของความเป็นห่วงหรือกลัวลำบากหลอกครับ
5. ความพยายามหลุดพ้นความโสด
บนโลกมันมีดวงและโชคอยู่ ถ้าหน้าตาคุณไม่ได้ระดับเทพ สกิลคารมไม่ได้ระดับไหลลื่นจนหลงกลง่ายๆ เป็นแค่ซัมวันที่ไม่ได้มีอะไรดี เกือบจูบลาการหาคู่คบหาไปเลย ถ้าไม่ใช้โชคช่วย เพราะถ้าคุณเดินดุ่มๆไปทักมึนๆ ด้วยหน้าตามึนๆ ไม่เซ็ตติ้งไม่วางบทละครใดๆ เสล่อมากครับในสายตาคนยุคนี้ จริงๆที่ผ่านมาเพื่อนฝูงหรือหลายๆคน การคบหามันไม่ได้ยากนะจริงๆ ถ้าไม่ได้แย่เกินอะ แต่ส่วนใหญ่ถ้ารู้กว่าถ้าคบจริงๆแล้วอนาคตไม่เวริค เราจะเสี่ยงทำไม ยิ่งโสดนานขึ้นๆ ความพยายามหลุดโสดจะถูกความเลือกให้ดีมาดึงทำให้เกิดความเหนื่อยในการหาใครคบหาจริงๆจังๆ จะมีความกลัวเกิดขึ้นยิ่งผิดหวังมากครั้งยิ่งกลัว ถึงจะหรือสภาพสังคมมันจะบอกก็คบๆไปเหอะอย่าเลือก
สำหรับตัวผมต้องเก่งขั้น เก่งเกินคนปกติไปเลย บางทีเหมือนคนผิดปกติในสายตา เช่น
1.คุณต้องหาเงินเก่ง ระดับเทพ เพราะการรวยแล้วด้วยตัวคนเดียว ต้องเก่งขนาดไหนที่มี บ้าน รถหรู และเงินเกษียร ผมตีหยาบๆเงินเดือนสัก 100000 ขึ้นครับ นึกออกไม่กี่อาชีพจริงๆ
2.คุณต้องจัดการอารมณ์เก่ง เพราะถ้าคุณทำไม่ได้ คุณจะรู้สึกเศร้า โดดเดี่ยวในใจลึกๆ บ้างถึงขั้นซึมเศร้าซึ่งนั่นหละครับ ถ้าไม่เก่งที่จะแบกอารมณ์หรือจัดการมันได้ คุณอาจจะใช้ชีวิตได้ลำบากใจ
3.คุณต้องฉลาด เพราะถ้าเก่งอย่างเดียวแต่ไม่ฉลาดเลย มันจะไม่รู้ว่าจังหวะไหนควรทำไร ฉลาดคิดฉลาดทำฉลาดเข้าใจ คุณจะวินมากๆ
4.ข้อนี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ถ้ามีก็ดี หน้าตาดีมีชัยกว่าคลึ่ง มันจบในตัวถ้าคุณหน้าตาดี แล้วคุณมีข้อ 1-3 สักข้อ คนวิ่งเข้าหาตรึมครับ
ณ จุดๆนี้ถ้าคุณเก่งทุกอย่างลองนึกหรือมโนตัวคุณเองดู คุณเก่งคนปกติไปแล้ว แล้วเวลาคุณพยายามไม่คิดมากลดความเรี่องมากมาคบคน เจ้าปัญหาหน่อยๆ คุณก็ฝืนใจแล้ว เพราะโดยพื้นฐานคุณเก่งเกินคน ไม่ว่าจะคิดเก่ง ฉลาด ทำงานเก่ง ทำอาหารก็เก่ง เก่ง