หน.เพื่อไทย ชี้เลือกตั้งซ่อมลำปาง สะท้อนความนิยม ปชต. ปัดแลนด์สไลด์ฟีเวอร์เทียบชัชชาติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3447468
‘ชลน่าน’ เตือน ผู้มีอำนาจอย่าเหิมเกริม จะทำอะไรต้องระวัง ชี้ เลือกตั้งซ่อมลำปาง สะท้อนกระแสนิยมฝ่าย ปชต. ปัดเทียบแลนด์สไลด์ฟีเวอร์เท่า “ชัชชาติ” บอกประเมินตัวเองตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดลำปาง เขต 4 ที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง ว่า กรณีนี้จะเรียกว่าเป็นการแลนด์สไลด์ก็ได้ เพราะว่าผลการเลือกตั้งชนะทุกเขต ซึ่งสะท้อนชัดถึงกระแสความนิยมมาอยู่ที่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เฉพาะพื้นที่ กทม. แต่ขยายขอบเขตไปถึงพื้นที่ต่างจังหวัด
ทั้งนี้ เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะกับที่พรรค พท.ประกาศตัวส่งผู้สมัครภาคเหนือพอดี ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม 1 สัปดาห์ ซึ่งก็มองว่าประชาชนจะเทใจมาให้พรรคฝั่งประชาธิปไตยมากขึ้น ทั้งนี้ พรรค พท.จะไม่ส่งเลือกตั้งซ่อม เราส่งเลือกตั้งจริง ฉะนั้น สิ่งที่พี่น้องประชาชนเขารัก พท. ก็จะเปลี่ยนใจไปเทพรรคฝั่งที่รักประชาธิปไตยได้ โดยไม่มีข้อกังขา
นพ.
ชลน่านกล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนไปถึงผู้มีอำนาจว่า ไม่ว่าจะคิดอะไรออกมา สิ่งสำคัญที่สุดคือพี่น้องประชาชน เพราะพวกเขาคือเจ้าของอำนาจที่แท้จริง แม้พลังในอดีตจะไม่พอที่จะต่อสู้กับผู้มีอำนาจ แต่จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และเลือกตั้งซ่อมลำปาง เชื่อว่าคะแนนเสียงที่ได้มา ไม่ใช่พลังเล็กๆ ดังนั้น ผู้มีอำนาจจะคิดอะไรต้องระมัดระวัง เช่น การจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญถือเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
“คุณคิดว่า คุณจะอยู่ได้หรือ ในเมื่อประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจเขาไม่เอา ศรีลังกาเป็นภาพตัวอย่าง ยกตัวอย่าง การบริหารล้มเหลวมาก ทำให้พี่น้องประชาชนลำบาก ทำให้ประชาชนล้มละลาย สุดท้ายเขาก็ต้องแสดงออกต่อผู้มีอำนาจว่า อย่าได้เหิมเกริมการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ” นพ.
ชลน่านกล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า กระแสของพรรค พท.จะแลนด์สไลด์ ทำให้มีความฟีเวอร์เหมือนกรณีของนาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ได้หรือไม่ นพ.
ชลน่านกล่าวว่า พยายามใช้หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์เป็นตัวกำหนด โดยที่ไม่ได้คิดเองทำเอง มองว่า ทั้งสองกรณีมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ทำให้กระบวนการ วิธีการก็ต่างกัน พรรค พท.ทำการประเมินตนเองมาโดยตลอด
“เราไม่ทึกทักหรอก เราก็ประเมินตัวเองว่า อยู่ระดับไหน กระแสที่อยู่มาตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และมีแนวโน้มว่าถ้าเราทำให้ดีกว่านี้ ตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ดีกว่านี้ ทำให้เขาเห็นทางออกของชีวิตเขา ก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เขาเชื่อมั่นมาอยู่กับเราได้” นพ.
ชลน่านกล่าว
‘อมรัตน์’ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ เคาะหาร 500 ซื้อใจพรรคเล็ก ดิ้นเฮือกสุดท้ายให้รอดซักฟอก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3447651
‘อมรัตน์’ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ เคาะหาร 500 ซื้อใจพรรคเล็ก ดิ้นเฮือกสุดท้ายให้รอดซักฟอก เตือน ส.ส.รัฐบาล ดู ‘ลำปางโมเดล’ ระวังปชช. จะลงโทษอย่างสาสม ไม่ได้เข้าสภาฯ อีก
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นาง
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรค ก.ก. ว่า พรรค ก.ก. เตรียมการคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว โดยมีขุนพลประมาณ 10 กว่าคน แบ่งเป็นทัพหน้า ทัพกลาง และทัพหลัง เรามีความมั่นใจในข้อมูลที่จะใช้อภิปรายรัฐมนตรี จึงเชื่อว่าจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ทั้งนี้ จะมุ่งเป้าอภิปรายรัฐมนตรีกลุ่ม 3 ป. และรัฐมนตรีจากพรรคแกนนำรัฐบาล ถ้าเป็นโชคดีของประชาชน และถ้าส.ส.รัฐบาลช่วยกัน ก็อาจจะคว่ำพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีที่ พล.อ.
ประยุทธ์ ส่งสัญญาณใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 500 เพื่อเอาใจพรรคเล็กให้ช่วยโหวตไว้วางใจ นาง
อมรัตน์ กล่าวว่า ตนก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะนายกฯ ต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่คิดว่าส.ส.เหล่านั้นมีวิจารณญาณที่จะเรียนรู้จากผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต 4 ที่นาย
วัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครจากพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) แพ้ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคเสรีรวมไทย ถึงขั้นที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค ศท. ยังยอมรับความพ่ายแพ้ และพร้อมเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของประชาชน ฉะนั้น ตนคิดว่าถือเป็นการตัดสินอย่างเจ็บแสบของประชาชน กลายเป็นลำปางโมเดล ที่ต่อเนื่องจากการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จึงอยากบอกส.ส.ในสภาฯ ว่าถ้าไม่อยากสอบตก ก็ให้ดูลำปางโมเดล เพราะตอนนี้เขากระโดดออกมาหมดแล้ว
เมื่อถามว่า หากพล.อ.
ประยุทธ์ รอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สวนทางกับคะแนนความนิยมที่ตกต่ำลง จะยิ่งสร้างความไม่พอใจ และความอึดอัดให้กับประชาชนหรือไม่ นาง
อมรัตน์ กล่าวว่า ถ้าบังเอิญว่าพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านไปได้ จะเป็นการเร่งปฏิกิริยา และสร้างแรงโต้แรงต้าน ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านนำออกมาแฉได้ทำให้ประชาชนตาสว่างขึ้นเยอะ ไม่เหมือนกับเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะบริบททางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ตนจึงเชื่อว่า ประชาชนจะตอบแทนอย่างสาสมแน่นอน
‘ลุงตู่’มีสะดุ้ง! กลุ่ม 16 ทบทวนท่าทีอยู่ร่วมรัฐบาล ฟันธงไปต่อลำบาก!
https://www.dailynews.co.th/news/1240638/
'พิเชษฐ สถิรชวาล' เผยกลุ่ม 16 จ่อทบทวนท่าทีร่วมรัฐบาล 18 ก.ค. หลังความนิยมรัฐบาลตกต่ำอย่างหนัก สะท้อนจากผลเลือกตั้งซ่อมลำปาง ปชช.เลือกฝ่ายค้าน ฟันธงรัฐบาลไปต่อลำบาก
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นาย
พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ลำปาง เขต 4 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ชนะเลือกตั้งอย่างพลิกความคาดหมาย สะท้อนให้เห็นว่า เป็นคะแนนจากความรู้สึกของประชาชนจริงๆ ไม่มีการซื้อเสียงมาเกี่ยวข้อง เพราะซื้อไปก็ไม่คุ้ม เนื่องจากไม่รู้อายุรัฐบาลจะอยู่ครบวาระเดือน ก.พ.2566 หรือไม่ ประชาชนลงคะแนนโดยยึดหลักการเลือกข้างฝ่ายค้าน ไม่เอาฝ่ายรัฐบาล ส่งใครมาก็ไม่เลือก สะท้อนความนิยมรัฐบาลตกต่ำอย่างหนัก
หากตนเป็น ร.อ.
ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และคิดเล่นการเมืองต่อไป จะประกาศตัวให้ชัดเจน ไม่ยืนอยู่ฝ่ายรัฐบาลอีกต่อไป ส่วนท่าทีกลุ่ม 16 นัดหารือวันที่ 18 ก.ค. เพื่อประเมินผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง และท่าทีจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ แม้จะแก้ไขกติกาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้หารด้วย 500 ช่วยพรรคเล็กมีโอกาสต่อสู้มากขึ้นในการเลือกตั้งสมัยหน้า แต่ไม่ได้การันตีพรรคเล็กจะได้ ส.ส.กลับมาอีก
“ผลเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ปรากฏชัดเจน ประชาชนเลือกข้างฝ่ายค้าน ไม่เอารัฐบาล ดังนั้นต่อให้เปลี่ยนกติกาเป็นหาร 500 พรรคเล็กก็ลำบากมาก ไม่ต้องคิดไปถึง 70,000 คะแนน เอาแค่ 4-5 หมื่นคะแนน ก็ยังลำบาก ในสถานการณ์ที่ประชาชนเลือกอยู่ขั้วฝ่ายค้าน เท่าที่คุยกันเบื้องต้น โอกาสไปต่อของรัฐบาลคงลำบาก พรรคเล็กต้องทบทวนท่าทีให้ดีถึงการอยู่ร่วมรัฐบาลต่อในขณะนี้” นาย
พิเชษฐ กล่าว.
'หมอธีระ' ชี้ผลศึกษา 'โอมิครอน BA.5' ติดเชื้อในเซลล์ปอดมากขึ้น ยันชัดไม่กระจอก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7156434
‘หมอธีระ’ ชี้ผลศึกษา ‘โอมิครอน BA.5’ ติดเชื้อในเซลล์ปอดมากขึ้น แนวโน้มทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างได้คล้ายเดลต้า ยันชัดไม่กระจอก
วันที่ 11 ก.ค.65 นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความว่า
สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
อัพเดต Omicron BA.5
“BA.5 มีแนวโน้มติดเชื้อในเซลล์ปอดมากขึ้นและแพร่ได้ไวกว่าสายพันธุ์ย่อยเดิม (BA.1, BA.2)” ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เผยแพร่ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการ ลงใน medRxiv เมื่อวานนี้ 10 กรกฎาคม 2565
สาระสำคัญคือ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้นมีกลไกการเข้าสู่เซลล์ที่ต่างไปจาก BA.1, BA.2 โดยผ่านตัวรับ TMPRSS2 คล้ายคลึงกับสายพันธุ์เดลต้าการใช้กลไกตัวรับ TMPRSS2 นี้สะท้อนแนวโน้มที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างได้มากขึ้น คล้ายกับสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดมาก่อนหน้า Omicron
นี่อาจใช้เป็นอีกหนึ่งคำอธิบายสำหรับปรากฏการณ์ที่เราเห็นการติดเชื้อ BA.5 แล้วทำให้มีอัตราการเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก การระมัดระวังตัว ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีกว่าการใช้ชีวิตด้วยความประมาท โควิด-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่กระจอก
แม้ฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แต่หากไม่ป้องกันตัวให้ดี ก็ยังติดเชื้อได้ ยังป่วยรุนแรงได้ เสียชีวิตได้ และเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติอย่าง Long COVID ตามมา
สถานะปัจจุบัน ความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับ Long COVID นั้นยังไม่แจ่มชัดเรื่องธรรมชาติของโรค รวมถึงการรักษาและการป้องกัน แต่องค์การอนามัยโลกก็ยังคอนเฟิร์มว่า Long COVID is real ซึ่งส่งผลทำให้บั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน รวมถึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคมในระยะยาวได้
ใช้ชีวิตได้ ทำมาหากิน ค้าขาย ศึกษาเล่าเรียนได้ แต่ต้องมีสติ ไม่ประมาท และป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรงมงายกับวาทกรรมแบบดราม่าว่า “ยอมติดดีกว่ายอมอดตาย” เพราะปัจจุบันรัฐเค้าเปิดให้ใช้ชีวิตทำมาหากินได้
แต่ต้องคอยเตือนให้ป้องกัน เพื่อให้รักตัวเอง ป้องกันตัวเองขณะทำมาหากินด้วย จะได้อยู่รอดปลอดภัย ทำมาหากินไปได้นานๆ ไม่ต้องเจ็บป่วยจนเสียงาน เสียการ เสียเงิน และพาลนำเชื้อไปแพร่ให้ครอบครัว ลูกหลาน และคนสูงอายุในบ้าน
ควรระลึกไว้ว่า หากตัวเองติด ไม่ใช่แค่ตัวเองที่เป็น แต่คนใกล้ชิดและคนอื่นในสังคมก็พลอยที่จะต้องรับผลกระทบไปด้วย การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0369LaNePbkbpDe7LCe1Ga6yhcKsJBMGKWdy77JNHZ9QbNhioVRgGQEVrCzdfZDM7el
JJNY : 5in1 หน.เพื่อไทยชี้ลต.ซ่อมลำปาง│‘อมรัตน์’เย้ย‘ตู่’│‘ตู่’มีสะดุ้ง!│'หมอธีระ' ชี้ BA.5ไม่กระจอก│ไก่สดสงขลาราคาพุ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3447468
‘ชลน่าน’ เตือน ผู้มีอำนาจอย่าเหิมเกริม จะทำอะไรต้องระวัง ชี้ เลือกตั้งซ่อมลำปาง สะท้อนกระแสนิยมฝ่าย ปชต. ปัดเทียบแลนด์สไลด์ฟีเวอร์เท่า “ชัชชาติ” บอกประเมินตัวเองตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดลำปาง เขต 4 ที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง ว่า กรณีนี้จะเรียกว่าเป็นการแลนด์สไลด์ก็ได้ เพราะว่าผลการเลือกตั้งชนะทุกเขต ซึ่งสะท้อนชัดถึงกระแสความนิยมมาอยู่ที่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เฉพาะพื้นที่ กทม. แต่ขยายขอบเขตไปถึงพื้นที่ต่างจังหวัด
ทั้งนี้ เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะกับที่พรรค พท.ประกาศตัวส่งผู้สมัครภาคเหนือพอดี ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม 1 สัปดาห์ ซึ่งก็มองว่าประชาชนจะเทใจมาให้พรรคฝั่งประชาธิปไตยมากขึ้น ทั้งนี้ พรรค พท.จะไม่ส่งเลือกตั้งซ่อม เราส่งเลือกตั้งจริง ฉะนั้น สิ่งที่พี่น้องประชาชนเขารัก พท. ก็จะเปลี่ยนใจไปเทพรรคฝั่งที่รักประชาธิปไตยได้ โดยไม่มีข้อกังขา
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนไปถึงผู้มีอำนาจว่า ไม่ว่าจะคิดอะไรออกมา สิ่งสำคัญที่สุดคือพี่น้องประชาชน เพราะพวกเขาคือเจ้าของอำนาจที่แท้จริง แม้พลังในอดีตจะไม่พอที่จะต่อสู้กับผู้มีอำนาจ แต่จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และเลือกตั้งซ่อมลำปาง เชื่อว่าคะแนนเสียงที่ได้มา ไม่ใช่พลังเล็กๆ ดังนั้น ผู้มีอำนาจจะคิดอะไรต้องระมัดระวัง เช่น การจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญถือเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
“คุณคิดว่า คุณจะอยู่ได้หรือ ในเมื่อประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจเขาไม่เอา ศรีลังกาเป็นภาพตัวอย่าง ยกตัวอย่าง การบริหารล้มเหลวมาก ทำให้พี่น้องประชาชนลำบาก ทำให้ประชาชนล้มละลาย สุดท้ายเขาก็ต้องแสดงออกต่อผู้มีอำนาจว่า อย่าได้เหิมเกริมการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ” นพ.ชลน่านกล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า กระแสของพรรค พท.จะแลนด์สไลด์ ทำให้มีความฟีเวอร์เหมือนกรณีของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า พยายามใช้หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์เป็นตัวกำหนด โดยที่ไม่ได้คิดเองทำเอง มองว่า ทั้งสองกรณีมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ทำให้กระบวนการ วิธีการก็ต่างกัน พรรค พท.ทำการประเมินตนเองมาโดยตลอด
“เราไม่ทึกทักหรอก เราก็ประเมินตัวเองว่า อยู่ระดับไหน กระแสที่อยู่มาตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และมีแนวโน้มว่าถ้าเราทำให้ดีกว่านี้ ตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ดีกว่านี้ ทำให้เขาเห็นทางออกของชีวิตเขา ก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เขาเชื่อมั่นมาอยู่กับเราได้” นพ.ชลน่านกล่าว
‘อมรัตน์’ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ เคาะหาร 500 ซื้อใจพรรคเล็ก ดิ้นเฮือกสุดท้ายให้รอดซักฟอก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3447651
‘อมรัตน์’ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ เคาะหาร 500 ซื้อใจพรรคเล็ก ดิ้นเฮือกสุดท้ายให้รอดซักฟอก เตือน ส.ส.รัฐบาล ดู ‘ลำปางโมเดล’ ระวังปชช. จะลงโทษอย่างสาสม ไม่ได้เข้าสภาฯ อีก
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรค ก.ก. ว่า พรรค ก.ก. เตรียมการคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว โดยมีขุนพลประมาณ 10 กว่าคน แบ่งเป็นทัพหน้า ทัพกลาง และทัพหลัง เรามีความมั่นใจในข้อมูลที่จะใช้อภิปรายรัฐมนตรี จึงเชื่อว่าจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ทั้งนี้ จะมุ่งเป้าอภิปรายรัฐมนตรีกลุ่ม 3 ป. และรัฐมนตรีจากพรรคแกนนำรัฐบาล ถ้าเป็นโชคดีของประชาชน และถ้าส.ส.รัฐบาลช่วยกัน ก็อาจจะคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 500 เพื่อเอาใจพรรคเล็กให้ช่วยโหวตไว้วางใจ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ตนก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะนายกฯ ต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่คิดว่าส.ส.เหล่านั้นมีวิจารณญาณที่จะเรียนรู้จากผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต 4 ที่นายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครจากพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) แพ้ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคเสรีรวมไทย ถึงขั้นที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค ศท. ยังยอมรับความพ่ายแพ้ และพร้อมเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของประชาชน ฉะนั้น ตนคิดว่าถือเป็นการตัดสินอย่างเจ็บแสบของประชาชน กลายเป็นลำปางโมเดล ที่ต่อเนื่องจากการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จึงอยากบอกส.ส.ในสภาฯ ว่าถ้าไม่อยากสอบตก ก็ให้ดูลำปางโมเดล เพราะตอนนี้เขากระโดดออกมาหมดแล้ว
เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ รอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สวนทางกับคะแนนความนิยมที่ตกต่ำลง จะยิ่งสร้างความไม่พอใจ และความอึดอัดให้กับประชาชนหรือไม่ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ถ้าบังเอิญว่าพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านไปได้ จะเป็นการเร่งปฏิกิริยา และสร้างแรงโต้แรงต้าน ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านนำออกมาแฉได้ทำให้ประชาชนตาสว่างขึ้นเยอะ ไม่เหมือนกับเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะบริบททางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ตนจึงเชื่อว่า ประชาชนจะตอบแทนอย่างสาสมแน่นอน
‘ลุงตู่’มีสะดุ้ง! กลุ่ม 16 ทบทวนท่าทีอยู่ร่วมรัฐบาล ฟันธงไปต่อลำบาก!
https://www.dailynews.co.th/news/1240638/
'พิเชษฐ สถิรชวาล' เผยกลุ่ม 16 จ่อทบทวนท่าทีร่วมรัฐบาล 18 ก.ค. หลังความนิยมรัฐบาลตกต่ำอย่างหนัก สะท้อนจากผลเลือกตั้งซ่อมลำปาง ปชช.เลือกฝ่ายค้าน ฟันธงรัฐบาลไปต่อลำบาก
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ลำปาง เขต 4 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ชนะเลือกตั้งอย่างพลิกความคาดหมาย สะท้อนให้เห็นว่า เป็นคะแนนจากความรู้สึกของประชาชนจริงๆ ไม่มีการซื้อเสียงมาเกี่ยวข้อง เพราะซื้อไปก็ไม่คุ้ม เนื่องจากไม่รู้อายุรัฐบาลจะอยู่ครบวาระเดือน ก.พ.2566 หรือไม่ ประชาชนลงคะแนนโดยยึดหลักการเลือกข้างฝ่ายค้าน ไม่เอาฝ่ายรัฐบาล ส่งใครมาก็ไม่เลือก สะท้อนความนิยมรัฐบาลตกต่ำอย่างหนัก
หากตนเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และคิดเล่นการเมืองต่อไป จะประกาศตัวให้ชัดเจน ไม่ยืนอยู่ฝ่ายรัฐบาลอีกต่อไป ส่วนท่าทีกลุ่ม 16 นัดหารือวันที่ 18 ก.ค. เพื่อประเมินผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง และท่าทีจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ แม้จะแก้ไขกติกาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้หารด้วย 500 ช่วยพรรคเล็กมีโอกาสต่อสู้มากขึ้นในการเลือกตั้งสมัยหน้า แต่ไม่ได้การันตีพรรคเล็กจะได้ ส.ส.กลับมาอีก
“ผลเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ปรากฏชัดเจน ประชาชนเลือกข้างฝ่ายค้าน ไม่เอารัฐบาล ดังนั้นต่อให้เปลี่ยนกติกาเป็นหาร 500 พรรคเล็กก็ลำบากมาก ไม่ต้องคิดไปถึง 70,000 คะแนน เอาแค่ 4-5 หมื่นคะแนน ก็ยังลำบาก ในสถานการณ์ที่ประชาชนเลือกอยู่ขั้วฝ่ายค้าน เท่าที่คุยกันเบื้องต้น โอกาสไปต่อของรัฐบาลคงลำบาก พรรคเล็กต้องทบทวนท่าทีให้ดีถึงการอยู่ร่วมรัฐบาลต่อในขณะนี้” นายพิเชษฐ กล่าว.
'หมอธีระ' ชี้ผลศึกษา 'โอมิครอน BA.5' ติดเชื้อในเซลล์ปอดมากขึ้น ยันชัดไม่กระจอก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7156434
‘หมอธีระ’ ชี้ผลศึกษา ‘โอมิครอน BA.5’ ติดเชื้อในเซลล์ปอดมากขึ้น แนวโน้มทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างได้คล้ายเดลต้า ยันชัดไม่กระจอก
วันที่ 11 ก.ค.65 นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความว่า
สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
อัพเดต Omicron BA.5
“BA.5 มีแนวโน้มติดเชื้อในเซลล์ปอดมากขึ้นและแพร่ได้ไวกว่าสายพันธุ์ย่อยเดิม (BA.1, BA.2)” ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เผยแพร่ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการ ลงใน medRxiv เมื่อวานนี้ 10 กรกฎาคม 2565
สาระสำคัญคือ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้นมีกลไกการเข้าสู่เซลล์ที่ต่างไปจาก BA.1, BA.2 โดยผ่านตัวรับ TMPRSS2 คล้ายคลึงกับสายพันธุ์เดลต้าการใช้กลไกตัวรับ TMPRSS2 นี้สะท้อนแนวโน้มที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างได้มากขึ้น คล้ายกับสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดมาก่อนหน้า Omicron
นี่อาจใช้เป็นอีกหนึ่งคำอธิบายสำหรับปรากฏการณ์ที่เราเห็นการติดเชื้อ BA.5 แล้วทำให้มีอัตราการเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก การระมัดระวังตัว ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีกว่าการใช้ชีวิตด้วยความประมาท โควิด-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่กระจอก
แม้ฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แต่หากไม่ป้องกันตัวให้ดี ก็ยังติดเชื้อได้ ยังป่วยรุนแรงได้ เสียชีวิตได้ และเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติอย่าง Long COVID ตามมา
สถานะปัจจุบัน ความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับ Long COVID นั้นยังไม่แจ่มชัดเรื่องธรรมชาติของโรค รวมถึงการรักษาและการป้องกัน แต่องค์การอนามัยโลกก็ยังคอนเฟิร์มว่า Long COVID is real ซึ่งส่งผลทำให้บั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน รวมถึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคมในระยะยาวได้
ใช้ชีวิตได้ ทำมาหากิน ค้าขาย ศึกษาเล่าเรียนได้ แต่ต้องมีสติ ไม่ประมาท และป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรงมงายกับวาทกรรมแบบดราม่าว่า “ยอมติดดีกว่ายอมอดตาย” เพราะปัจจุบันรัฐเค้าเปิดให้ใช้ชีวิตทำมาหากินได้
แต่ต้องคอยเตือนให้ป้องกัน เพื่อให้รักตัวเอง ป้องกันตัวเองขณะทำมาหากินด้วย จะได้อยู่รอดปลอดภัย ทำมาหากินไปได้นานๆ ไม่ต้องเจ็บป่วยจนเสียงาน เสียการ เสียเงิน และพาลนำเชื้อไปแพร่ให้ครอบครัว ลูกหลาน และคนสูงอายุในบ้าน
ควรระลึกไว้ว่า หากตัวเองติด ไม่ใช่แค่ตัวเองที่เป็น แต่คนใกล้ชิดและคนอื่นในสังคมก็พลอยที่จะต้องรับผลกระทบไปด้วย การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0369LaNePbkbpDe7LCe1Ga6yhcKsJBMGKWdy77JNHZ9QbNhioVRgGQEVrCzdfZDM7el