❤️มาลาริน/ไทยเนื้อหอมค่าา..มาเยือนกันอีกแล้ว..หัวบันไดยังไม่ทันแห้ง...รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯมาพบนายกฯลุงตู่

เพี้ยนแคปเจอร์"นายกฯ" ถก รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์ เดินหน้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์


นายกฯ" เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ "แอนโทนี บลิงเกน" รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ หวัง มีโอกาสต้อนรับ "ไบเดน" เวที "เอเปค" ไทยเจ้าภาพปลายปี พร้อมเดินหน้าความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ กระชับสัมพันธ์ ฟื้นศก. ขยายการลงทุน ร่วมมือต้านค้ามนุษย์ จ่อประกาศ TIP Report เร็วๆนี้
 
เมื่อเวลา 14.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแอนโทนี บลิงเกน (H.E. Mr. Antony J. Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับ พร้อมได้กล่าวฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีไบเดน พร้อมขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในโอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียน -สหรัฐฯ สมัยพิเศษ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับในช่วงการประชุมระดับผู้นำเอเปค ที่กรุงเทพฯ ปลายปีนี้ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ มีพลวัตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิด โดยในปีหน้า จะร่วมฉลองครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ และยินดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-สหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน


ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาพบในวันนี้  แถลงการณ์ที่ได้ลงนามไปในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นพันธมิตรสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะเป็นบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ไปอีก 190 ปีข้างหน้า พร้อมย้ำถึงสหรัฐฯให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทย ชื่นชมบทบาทของนายกรัฐมนตรีและไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปค และเมื่อสหรัฐฯ รับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพในปีถัดไป ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด 

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือ สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศหุ้นส่วนสำคัญของไทย แม้ในช่วงประสบกับสถานการณ์โควิด-19 การค้าระหว่างกันยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทย-สหรัฐฯ พร้อมที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทาน ทั้งสองร่วมยินดีที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน หวังว่าความร่วมมือนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและยั่งยืน โดยเฉพาะการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน และอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง 


ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาพลังงานสะอาด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนี้ โดยสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาดจึงหวังที่จะเดินหน้าความร่วมมือในด้านนี้กับไทยให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และหวังว่าสหรัฐฯ จะได้มีส่วนสนับสนุนไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมสีเขียว 

ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยสหรัฐฯ ชื่นชมและขอบคุณไทยสำหรับความมุ่งมั่นในการดำเนินการที่ผ่านมาของไทย เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับให้หมดสิ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยที่ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะประกาศรายงาน TIP Report ประจำปีในเร็วๆ นี้ไทยหวังจะได้รับข่าวดี และรายงานจะสะท้อนพัฒนาการและการดำเนินงานที่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของไทย
ความร่วมมือในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือและสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ระหว่างกันในภูมิภาค โดยไทยได้เข้าร่วมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนและครอบคลุมของภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบาย BCG ของรัฐบาล 

นอกจากนี้ ไทยยินดีที่สหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 ต่อจากไทย โดยไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ช่วงเปลี่ยนผ่านวาระการเป็นเจ้าภาพเป็นไปอย่างราบรื่นและนำไปสู่ผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในภูมิภาค 


ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นที่สนใจ โดยในส่วนของสถานการณ์ในเมียนมานั้น ประเทศไทยชี้แจงว่าได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามที่เหมาะสมผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในกรอบทวิภาคี อาเซียนและองค์การระหว่างประเทศ 

https://www.bangkokbiznews.com/politics/1014698

เพี้ยนปักหมุดรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนไทย เตรียมพบนายกฯ


เพี้ยนแคปเจอร์"บลิงเคน" หารือ "ดอน" ลงนามข้อตกลงความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เตรียมพบนายกฯ

วันนี้ (10 ก.ค.2565) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยครั้งแรก หลังจากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา มีกำหนดเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือในประเด็นต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค ครอบคลุมตั้งแต่การจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ และการยกระดับความร่วมมือในด้านสาธารณสุขไปจนถึงการแก้ปัญหาค้ามนุษย์
ก่อนหน้านี้บลิงเคน ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้หารือร่วมกับหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน นานกว่า 5 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 คนเห็นพ้องที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน

การหารือของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากทั้ง 2 ชาติในครั้งนี้ ถือเป็นการพบหน้ากันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนทยอยจัดการประชุมเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

https://news.thaipbs.or.th/content/317383


เพี้ยนแคปเจอร์รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ หารือกับรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศของไทย ระหว่างการเดินทางเยือนไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

วันนี้ (10 ก.ค.2565) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการหารือกับ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศของไทย



รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯและไทย ร่วมไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของ ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากถูกยิงระหว่างการปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครจากพรรคลิเบอรัล เดโมแครต หรือ แอลดีพี ในจังหวัดนารา ทางภาคตะวันตกของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังร่วมลงนามในข้อตกลงความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (U.S.-Thailand Communiqué on Strategic Alliance and Partnership) ระหว่างสหรัฐฯ กับไทยด้วย

ก่อนหน้านี้ บลิงเคนได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม จี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย และหารือระดับทวิภาคีร่วมกับหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน นานกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน


https://news.thaipbs.or.th/content/317387



...นายกฯลุงตู่คือ..ผู้นำไทยที่พบกับผู้นำต่างชาติและบุคคลสำคัญของต่างประเทศมากที่สุดค่ะ

เขามาเยือนเรา และเชิญเราไปบ้านเขา ในรอบ8ปีของลุงนี้ไม่รู้กี่ครั้ง

ไทยเป็นประเทศที่ยึดความเป็นกลางที่สุด แม้ในยุคสงครามรัสเซีย-ยูเครน  เพราะนายกฯมีภาวะผู้นำทางความมั่นคงของชาติ  ด้วยมีความสุขุมรอบคอบในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ สอดรับกับกระทรวงกต.ที่มีบุคคลที่ทำงานเก่งมีความสามารถ

ใครมาคุยกับไทยก็สบายใจกลับไปค่ะ.....นานาโอเค

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่