เมื่อบ้านและแม่ไม่ใช่safe zone อีกต่อไป จะตัดขาดกัน มันเกินไปไหม?

ปัญหาครอบครัวของเรามันสะสมมานานหลายปี
เล่าก่อนว่าพ่อกับแม่หย่าร้างและแยกกันอยู่กันตั้งแต่เราอยู่ ป.2
 จนกระทั้งเราอยู่ ป.6 แม่ได้คบกับผู้ชายคนนึง ผู้ชายคนนี้ไปๆมาๆไม่ได้มาอยู่กินกันฉันสามีภรรยากับแม่

จนกระทั่งเรา ขึ้น ม.1 วัยกำลังเริ่มเป็นสาว แฟนของแม่ 
ขอเรียกมันว่า(อห) มันพูดจาลวนลามเรา ตอนที่แม่ไม่อยู่ เช่น
-เธอยังซิง บริสุทธิ์อยู่มั้ย
-ฉันไม่ทำอะไรเธอ ขอแค่จับนม หอมแก้ม จูบ
-ถ้าอยากมีเงินใช้ไม่ต้องล็อกห้องเดียวฉันไปเคาะเรียก
-เวลาฉันมีอะไรกับแม่เธอ ฉันนึกถึงแต่หน้าเธอ
ตอนนั้นเรายังเด็ก รู้สึกกลัว ทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าบอกแม่ ณ ตอนนั้น

จนกระทั่งวันนึงเรานั่งรีดผ้าอยู่บนบ้าน ไม่รู้ว่า อห มาตอนไหน 
มันโผล่กอดเราและกอดแก้มเราจากด้านหลัง เราตกใจมาก รีบวิ่งลงมาเลย
บางทีก็มาเคาะห้องเรา หลายครั้งมาก เคาะๆพอเราถามว่าใคร มันไม่ตอบ
เราปิดล็อกกลอนแน่นหนา จะไม่เปิดให้ใครถ้าไม่ใช่เสียงแม่
ครั้งนี้เลยตัดสินใจบอกแม่กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผลตอบกลับคือ แม่เฉยๆยังคบกับมันต่อ 
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราเสียใจมากเลยไม่ค่อยอยากอยู่บ้านเวลา 
อห มันมา หลังๆเราย้ายมาอยู่บ้านตายาย

พอเวลาผ่านไปหลายปี เราอยู่ ม.ปลาย แม่เราตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ 
เราดีใจมากที่แม่เราจะหลุดพ้นจาก อหนี้สักที แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด แม่ยังติดต่อมัน 
ส่งเงินมาให้มัน และมันก็ไปเที่ยวผู้หญิง ญาติพี่น้องเราเห็นและรู้หลายอย่าง ก็เตือนแม่ แต่ไม่ก็ไม่ฟัง

จนทั้งผ่านมาหลายปี เราเรียนจบ ป.ตรี เหมือนแม่เราจะเลิกยุ่งกับ อห แล้ว
เพราะฟีตแบคด้านลบเยอะเราจึงวางใจว่าแม่จะไม่กลับไปหามันอีก
 เราทำงานสักพัก ซื้อบ้านกู้เป็นชื่อเรา ช่วยส่งกับแม่ พอเราแต่งงานก็แต่งออกไปอยู่บ้านสามี

วันนึงแม่เรากลับมาไทย เราพาหลานไปเที่ยวหาแม่ บังเอิญคนรู้จักติดโควิด 
แม่เลยให้เรารีบพาลูกกลับบ้านสามี พอกลับมาบ้านสามี เราวิดีโอคอลหาแม่ 
รู้อีกที คือ แม่เราพา อห เข้ามานอนบ้าน วินาทีที่เรารู้ว่าแม่กลับไปคบมัน ใจเราสั่นไปหมด ใจแตกสลาย

เราจึงพิมพ์ไลน์ไปว่า “แม่เห็นมันดีกว่าลูก สิ่งที่ อห มันเคยทำกับลูกมันเกินไป แม่ยังมีความเป็นแม่อยู่ไหม?
 ต่อไปนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวที่นี่” 

จากนั้นเราบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ คิดว่าจะตัดขาดกับแม่และจะไม่กลับไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีก 
เพราะคิดว่าบ้านและแม่ ไม่ใช่ safe zone เราอีกต่อไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่