หลังจากพายุใต้หล้าผ่านพ้นไป
ก็เหลือเวลาให้บุพเพร้อยร้ายอีก 2 อาทิตย์ได้ดำเนินต่อไป
ก่อนที่ละครจะลาจอไป
จังหวะละครเรื่องนี้ออกอากาศ
ของการกลับมาในรอบ 5 ปีของ เต้ย เชียร์
ถ้าวันออกอากาศพอดีเป๊ะ ๆ
ก็คงไปชนวันเริ่มออกอากาศของใต้หล้า 19 พ.ค.
เรื่องนี้เลยเหลื่อมเวลาเริ่มออกอากาศ 26 พ.ค.
การกลับมาของพ่อหมี แม่หมี
อาจไม่ร้อนแรงซึ่งเป็นธรรมดาของการเปลี่ยนแปลงเกือบ 5 ปี
ผลงานที่มีความร้อยร้าย ที่ออกมาเป็นล้อเล่นไปหมด
ทั้งที่เป้าหมายของตัวละครจริงจังแค่ไหน
ก็ทำเป็นเล่นไปหมด สมชื่อเพลงประกอบละคร
จนดูบางทีทำไปทำไม เป็นแฟนหลอก ๆ ปลอมตัวแบบคิดว่าเขาจะจับไม่ได้
ถ้าไม่มัวเสียเวลาเล่นเล่ห์กันไปมา ช่วยกันสืบคดีไปด้วยกัน
มันอาจจะเป็นวิธีดีกว่าก็ได้ และคนดูก็น่าเข้าใจกันได้มากกว่านี้
แต่เรื่องชื่อ บุพเพร้อยร้าย มันก็คงตามเรื่องที่ออกอากาศแบบนั้น
ละครพยายามให้ตัวเอกทำเรื่องหลอก ๆ เล่น ๆ ไปหมด
เพราะความไม่เชื่อใจของตัวละคร เลยเลือกที่จะทำแบบนี้
เป็นการสะท้อนปมตัวละคร ที่ละครค่อย ๆ เล่ากันไป
รวมถึงบอกผ่านกลุ่มเพื่อนของตัวละครหลักที่มากมายและมาเกี่ยวกัน
ทั้งเพื่อนนางเอก และ พระเอก ต่างมีบทบาทในชุดนิยายเดียวกับเรื่องนี้
เส้นเรื่องรองของเรื่องนี้ ก็มาจากเรื่องของเพื่อน ๆ เขาทั้งนั้น
ที่บางครั้งมันอาจเยอะไปกับละครแนวนี้ที่ทำจากนิยาย chick lit แบบนี้
บทบาทพระเอกที่เป็นทนายในเรื่องก็เบาบางไปตามสภาพ
เพราะเป็นทนายความที่ปรึกษา ไม่ได้ออกว่าความเท่าไหร่
ตามสถานการณ์การถ่ายทำที่มีเงื่อนไข ในเรื่องจึงมีฉาก ออฟฟิซ บ้าน คอนโด
การกลับมาตามการเรียกร้องของผู้จัดที่สมใจเสียที
หลังจากคลาดกันไป แต่ไม่รู้ว่ามันช้าเกินไปไหมสำหรับคนดู
การกลับมามันดูไม่ร้อนแรง หรือร้อยร้ายสมชื่อ
อาจจะเรียกว่าเป็นการปิดตำนานกันไปอีกเรื่องก็ตาม
แต่ความสามารถของ เต้ย เชียร์ ที่กลับมาร่วมงานกัน
ดูลื่นไหลกว่าซ่อนรักกามเทพเยอะ บทเรื่องนี้ไม่ได้ปั้นแต่งเหมือนเรื่องนั้น
แต่ทั้งคู่ก็เล่นลื่นไปด้วยกัน สมที่เคยเป็นคู่จิ้นพ่อหมีแม่หมี
บางคนแอบเสียดาย เชียร์ ฑิฆัมพร ที่มารับบทแบบนี้
ทั้งการแสดงที่มีหลายช่องส่งบทที่ท้าทายให้ทำ
แต่ส่วนตัวกลับคิดว่า บทนี้ก็เป็นปัจจุบันของเชียร์ที่เป็นอยู่
คงเป็นความตั้งใจของผู้จัดที่มอบความเป็นปัจจุบันของเชียร์กับคนดู
เหมือนบทออย ที่เป็นบทบาทแรกในฐานะนักแสดงอิสระ
ที่คนดูเปิดรับและมองเชียร์ ฑิฆัมพร กว้างขึ้นจนเห็นเธอโลดเล่นทุกบทบาทในปัจจุบัน
แม้โอกาสการกลับมาของเชียร์กับบรอดคาซท์หรือเจอกันอีกของพระนาง
คงอีกนานหรือไม่มีอีกแล้ว ถ้ามองจากผลงานในปัจจุบัน
แต่ทั้งสองก็ทำหน้าที่สร้างความบันเทิงครั้งนี้
ที่อาจไม่ร้อนแรง ร้อยร้าย ดูล้อเล่น แต่ก็ยังลื่นไหลที่เขาทั้งสองได้แสดงด้วยกัน
บุพเพร้อยร้าย การกลับมาที่ลื่นไหลแต่ไม่ร้อนแรง
ก็เหลือเวลาให้บุพเพร้อยร้ายอีก 2 อาทิตย์ได้ดำเนินต่อไป
ก่อนที่ละครจะลาจอไป
จังหวะละครเรื่องนี้ออกอากาศ
ของการกลับมาในรอบ 5 ปีของ เต้ย เชียร์
ถ้าวันออกอากาศพอดีเป๊ะ ๆ
ก็คงไปชนวันเริ่มออกอากาศของใต้หล้า 19 พ.ค.
เรื่องนี้เลยเหลื่อมเวลาเริ่มออกอากาศ 26 พ.ค.
การกลับมาของพ่อหมี แม่หมี
อาจไม่ร้อนแรงซึ่งเป็นธรรมดาของการเปลี่ยนแปลงเกือบ 5 ปี
ผลงานที่มีความร้อยร้าย ที่ออกมาเป็นล้อเล่นไปหมด
ทั้งที่เป้าหมายของตัวละครจริงจังแค่ไหน
ก็ทำเป็นเล่นไปหมด สมชื่อเพลงประกอบละคร
จนดูบางทีทำไปทำไม เป็นแฟนหลอก ๆ ปลอมตัวแบบคิดว่าเขาจะจับไม่ได้
ถ้าไม่มัวเสียเวลาเล่นเล่ห์กันไปมา ช่วยกันสืบคดีไปด้วยกัน
มันอาจจะเป็นวิธีดีกว่าก็ได้ และคนดูก็น่าเข้าใจกันได้มากกว่านี้
แต่เรื่องชื่อ บุพเพร้อยร้าย มันก็คงตามเรื่องที่ออกอากาศแบบนั้น
ละครพยายามให้ตัวเอกทำเรื่องหลอก ๆ เล่น ๆ ไปหมด
เพราะความไม่เชื่อใจของตัวละคร เลยเลือกที่จะทำแบบนี้
เป็นการสะท้อนปมตัวละคร ที่ละครค่อย ๆ เล่ากันไป
รวมถึงบอกผ่านกลุ่มเพื่อนของตัวละครหลักที่มากมายและมาเกี่ยวกัน
ทั้งเพื่อนนางเอก และ พระเอก ต่างมีบทบาทในชุดนิยายเดียวกับเรื่องนี้
เส้นเรื่องรองของเรื่องนี้ ก็มาจากเรื่องของเพื่อน ๆ เขาทั้งนั้น
ที่บางครั้งมันอาจเยอะไปกับละครแนวนี้ที่ทำจากนิยาย chick lit แบบนี้
บทบาทพระเอกที่เป็นทนายในเรื่องก็เบาบางไปตามสภาพ
เพราะเป็นทนายความที่ปรึกษา ไม่ได้ออกว่าความเท่าไหร่
ตามสถานการณ์การถ่ายทำที่มีเงื่อนไข ในเรื่องจึงมีฉาก ออฟฟิซ บ้าน คอนโด
การกลับมาตามการเรียกร้องของผู้จัดที่สมใจเสียที
หลังจากคลาดกันไป แต่ไม่รู้ว่ามันช้าเกินไปไหมสำหรับคนดู
การกลับมามันดูไม่ร้อนแรง หรือร้อยร้ายสมชื่อ
อาจจะเรียกว่าเป็นการปิดตำนานกันไปอีกเรื่องก็ตาม
แต่ความสามารถของ เต้ย เชียร์ ที่กลับมาร่วมงานกัน
ดูลื่นไหลกว่าซ่อนรักกามเทพเยอะ บทเรื่องนี้ไม่ได้ปั้นแต่งเหมือนเรื่องนั้น
แต่ทั้งคู่ก็เล่นลื่นไปด้วยกัน สมที่เคยเป็นคู่จิ้นพ่อหมีแม่หมี
บางคนแอบเสียดาย เชียร์ ฑิฆัมพร ที่มารับบทแบบนี้
ทั้งการแสดงที่มีหลายช่องส่งบทที่ท้าทายให้ทำ
แต่ส่วนตัวกลับคิดว่า บทนี้ก็เป็นปัจจุบันของเชียร์ที่เป็นอยู่
คงเป็นความตั้งใจของผู้จัดที่มอบความเป็นปัจจุบันของเชียร์กับคนดู
เหมือนบทออย ที่เป็นบทบาทแรกในฐานะนักแสดงอิสระ
ที่คนดูเปิดรับและมองเชียร์ ฑิฆัมพร กว้างขึ้นจนเห็นเธอโลดเล่นทุกบทบาทในปัจจุบัน
แม้โอกาสการกลับมาของเชียร์กับบรอดคาซท์หรือเจอกันอีกของพระนาง
คงอีกนานหรือไม่มีอีกแล้ว ถ้ามองจากผลงานในปัจจุบัน
แต่ทั้งสองก็ทำหน้าที่สร้างความบันเทิงครั้งนี้
ที่อาจไม่ร้อนแรง ร้อยร้าย ดูล้อเล่น แต่ก็ยังลื่นไหลที่เขาทั้งสองได้แสดงด้วยกัน