JJNY : 5in1 ยิ่งลักษณ์ส่งกำลังใจส.ส.-ส.ว.│ส.ค้าปลีกจี้รัฐ│เคาะแล้ว!ซักฟอก4วัน│ถูก‘อดีตโฆษกปชป.’ ใช้ชื่อซื้อรถ│จีนกุมขมับ

ยิ่งลักษณ์ ส่งกำลังใจ ส.ส.-ส.ว. พิจารณากม.เลือกตั้ง ยึดรธน.-ประโยชน์ประชาชน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7148151
 

 
ยิ่งลักษณ์ ส่งกำลังใจให้สมาชิกรัฐสภา พิจารณากม.เลือกตั้ง ยึดมั่นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
 
วันที่ 6 ก.ค.2565 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ของที่ประชุมร่วมรัฐสภาว่า
 
“ขอส่งกำลังใจให้สมาชิกรัฐสภาที่กำลังพิจารณา พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งอยู่ในขณะนี้ ให้สามารถผ่านกฎหมายสำคัญที่จะส่งผลต่อการได้มาซึ่งตัวแทนของประชาชน โดยยึดมั่นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งค่ะ”
 
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid0DaVtaaQSwXgA1iUeL1mzsFj7bztZLpRhtKpnvE3SKB4MgNNxVfSa49Dg7bqaQ49rl
 

 
“สมาคมค้าปลีก” จี้รัฐ เร่งอัดฉีดเงินเข้าระบบฟื้นกำลังซื้อ
https://www.dailynews.co.th/news/1222573/
  
"สมาคมค้าปลีก" จี้รัฐ เร่งอัดฉีดเงินเข้าระบบ ออกมาตรการช่วยฟื้นกำลังซื้อ
  
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมขอเสนอแนะรัฐบาลใน 4 ข้อหลัก เพื่อช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ 
 
1.ออกนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายอย่างต่อเนื่องให้ตรงเป้าและรวดเร็วในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการช้อปดีมีคืน โครงการริเริ่มสร้างเมืองปลอดภาษีให้ผู้มีกำลังซื้อจับจ่ายในประเทศแทนที่จะนำเงินไปจับจ่ายต่างประเทศ 

2.รัฐต้องกำกับดูแลกลไกตลาดเพื่อให้ราคาสินค้าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตเพราะหากสินค้าปรับราคาสูงขึ้นจำนวนมาก จะเป็นภาระต่อค่าครองชีพที่สูงต่อประชาชน แต่ถ้าไม่อนุญาตให้ปรับราคา ผู้ผลิตก็จะเลี่ยงไม่ขึ้นราคา แต่ไปปรับลดไซส์-ปริมาณสินค้า เพราะทนต่อการแบกต้นทุนไม่ไหว
 
ขณะเดียวกัน 3. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยภาครัฐ ในช่วงไตรมาส4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ โดยต้องเร่งรัดการดำเนินการโครงการทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เพื่อเร่งสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และ4. สนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับศักยภาพภาคการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง รวมถึงพิจารณามาตรการสินเชื่อและมาตรการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้อย่างเต็มที่
 
สำหรับผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.65 ในภาพรวมพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกลดลงมาอยู่ที่ 48.9 ปรับลดลง 4.4 จุด ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่3 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ปรับตัวลดลง จากภาวะค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นซ้ำเติมกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ ผู้ประกอบการไม่มีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ แม้ว่ามีแนวโน้มสัญญาณที่ดีในการออกไปทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น แต่ความถี่ในการจับจ่ายกลับลดลง 
 
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 4.4 จุดเช่นกัน จากระดับ 58.7 จุด ในเดือนพ.ค. มาที่54.3 จุดในเดือนมิ.ย. แสดงให้เห็นถึงความกังวลต่อแนวโน้มต้นทุนการดำเนินธุรกิจและราคาสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่คาดการณ์ว่าจะถูกปรับลดลง ภาวะเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะ   ดีดตัวเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก



เคาะแล้ว! เปิดซักฟอก 4 วันเริ่ม 19 ก.ค.ลงมติ 23 ก.ค.!
https://www.dailynews.co.th/news/1223593/

'วิป 3 ฝ่าย' เคาะซักฟอก 4 วันรวด 19-22 ก.ค. ลงมติ 23 ก.ค. 'ประธานวิปฝ่ายค้าน' พอใจแม้ไม่ได้ 5 วัน แต่ได้เวลาตามต้องการ 45 ชม. กางแผนอภิปราย 3 ระบบ

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย วิปฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
 
จากนั้นนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านวิปฝ่ายค้าน กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะมีทั้งหมด 4 วัน โดยฝ่ายค้านได้เวลาทั้งหมด 45 ชั่วโมง ส่วนอีก 18 ชั่วโมงเป็นของ ครม. ส.ส.รัฐบาล และประธานที่ประชุม โดยการประชุมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ค. 2565 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30-00.30 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันอภิปรายสรุปซึ่งจะให้จบประมาณเวลา 23.30 น. หรือไม่เกิน 24.00 น. และลงมติในวันที่ 23 ก.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ เราพอใจแม้จะไม่ได้วันอภิปราย 5 วัน แต่เราได้ชั่วโมงตามที่เราต้องการคือ 45 ชั่วโมง
 
นายสุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับระบบการอภิปรายจะมี 3 ระบบ 
1.อภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 
2.อภิปรายพ่วง 2 คน โดยมีเป้าหลักและเป้ารอง 
และ 3.อภิปรายพ่วง 3 คน โดยผู้อภิปราย 1 คนสามารถอภิปรายรัฐมนตรีได้หลายคนและหลายรอบ แต่สามารถอภิปรายรัฐมนตรีคนนั้นๆได้แค่ครั้งเดียว 
 
สำหรับกรอบเวลาอภิปรายในแต่ละวันฝ่ายค้านจะจัดให้สมดุลอย่างน้อยวันละ 11 ชั่วโมง ขณะที่รัฐบาลวันละ 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์มีฝ่ายค้านอภิปรายฝ่ายเดียวหรือรัฐบาลต้องมาตอบพร้อมกันในวันเดียวต้องกระจาย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่