ผมเป็นตุ๊ดส่วนแฟนผมเป็นเกย์ ตอนแรกเราเป็นเพื่อนกัน สนิทกันมากแฟนผมเป็นนักเรียนไทยที่จบจากไต้หวัน จบภาษาจีนมาโดยตรงเราเลยใช้คำเรียกกันว่า หว่อกับหนี่ ก็คือ ฉันกับเธอ ตอนเป็นเพื่อนกันนั้นดีมากยังกับเทวดา ทักเมื่อไหร่ตอบเมื่อนั้น ขอให้ทำอะไรให้ทำให้หมด คือตัวผมเองนั้นเป็นคนอ้วนและเป็นเบาหวาน ตอนไม่สบายเป็นแผล เขาก็มาทำแผลให้ทุกวัน อยู่ที่เดียวกันและทำงานที่เดียวกัน เขาเริ่มเข้ามาจีบผมก่อนตอนที่ผมย้ายที่อยู่และที่ทำงานวันแรกก็เจอเขา เขาขอเบอร์ผมและไลน์บอกว่าเอาไว้คุยเรื่องงานกัน ผมก็เข้าใจว่าเรื่องงานจริงๆ เพราะเราอ้วนเลยไม่กล้ามโน แต่พอระยะเวลาผ่านไปสามปี เขามาสารภาพว่าเขารู้สึกรักผมและบอกว่าผมน่ารักมากๆ ในวันแรกที่เจอกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาดีมากผมไม่มีเงินก็ให้ยืมบ้างให้ใช้บ้าง เราไม่เคยทะเลาะกันเลยเพราะเขายอมผมเสมอ ตามใจทุกอย่าง แต่เมื่อเราตกลงคบกัน เรายังไม่มีsexกันเพราะผมเองบอกว่าผมไม่สบายเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญมากนัก เราต่างทำงานหาเงินกันมาก และชอบนั่งคุยกันเล่นเกมส์ด้วยกัน เขาดีมากมีให้ทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ให้ ให้ทำอะไรก็ทำ ให้ไปนั่งรอตอนอยู่กับเพื่อนๆ เขาก็ไปนั่งรอ เพื่อนๆพี่ๆ ที่ทำงานอิจฉาผมมาก ตุ๊ดอ้วนมั่น มีผู้ชายมานั่งเฝ้า เดิมทีเขาเป็นไม่ค่อยพูดส่วนมากจะทำให้เห็น (ตามภาษานักปราญจีน)ที่เขาเรียนมา พอมาตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผมอยากมีsex กับเขาอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อยากเหมือนคู่อื่นที่เขาทำกัน แต่แฟนผมเขาไม่ชอบเรื่องนี้เท่าไหร่ คือง่ายๆ เขาพยายามจะไม่มีอะไรกับผม เพราะเวลาไม่ตรงกัน เลิกงานมาเขาต้องสอนนักเรียนจีนในไทย คือสอนภาษาไทยเด็กจีน(ฟรี) ผมก็ต้องเรียน หลังจากที่คบกันได้สักพักเขาเริ่มเงียบ เริ่มไม่ตอบ เริ่มเฉยกับผมมากๆ บ้างครั้งก็น้อยใจ แต่ทุกอย่างยังได้เหมือนเดิม เขาทำให้ทุกอย่าง แต่เขาไม่แสดงความรักกับผมเลย เช่นไม่กอด ไม่หอม หรือไม่หวานกับผมเลย เขากับทำหน้าที่แฟนอย่างเต็มที่แต่ไม่หวาน ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมบอกรักเขาทุกวัน แต่เขาเงียบและบอกว่าok รู้แล้ว ผมถามเขาว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนกันมั่ย เขาบอกว่าไม่มีผลอะไรทั้งนั้นจะเลิกไม่เลิกเขาก็เหมือนเดิม ยังรักเหมือนเดิม สิ่งเดียวที่เขาทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นแฟนเขาจริงๆคือเขาจะเช็คว่าอยู่กับใคร ใครมาที่บ้าน ไปไหนกับใคร ในรูปแบบอ้อมๆ เช่นพอไม่อยู่บ้าน หรือมีคนมาที่บ้าน ก็จะแกล้งทักคุยเรื่องงานบ้าง ชวนไปกินข้าวบ้างในขณะนั้น ผมก็รู้สึกดี ส่วนตัวแฟนของผม ไม่ใช่คนเจ้าชู หรือคุยกับใครง่ายๆ จะเงียบตลอดเวลา จนบ้างครั้งเจ้านายเองยังไม่กล้าพูดกับเขา แต่เขาทำงานเต็มที่เก่ง และมีน้ำใจกับคนทุกคนในบริษัท ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองโชดดีมากๆ ในฐานะที่เราเป็นคนอ้วนและเป็นตุ๊ด เขาเองเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งแต่ตัวเล็กกว่าผมมาก ผมน้ำหนัก 150 กิโล แต่เขาหนัก 55 กิโล ผมจะลดน้ำหนักบอกับเขา เขาก็เฉยบอกผมว่าตามใจ ค่อยๆลดนะอย่าไปรีบเดี๋ยวเป็นอะไรไป ผมรับรู้ได้เลย ว่าเขารักผมมากยอมรับในตัวผมได้มากเลยทีเดียว เขาบอกกับผมว่า เขาของจริงไม่ใช่เหมือนๆที่ผ่านมา สมการของเวลาและความรักของเขานั้นมั่นคงเขาว่าเช่นนั้น คือเรารักกันมาก แต่เราไม่หวานกันเลย ผมรู้สึกว่าเขาสามารถรับมือกับผมได้อย่างชาญฉลาดเหมือนเขาศึกษาดูนิสัยผมมาตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันแล้ว แต่ผมกลับไม่คิดเลย ว่าจะมาคบกันเพราะเราไม่ได้น่ารักหรือนิสัยดีขนาดนั้น ที่จะมีใครมารัก ตอนนี้ผมไม่ต้องการเงินเขา หรืออะไรจากเขาทั้งนั้น ผมต้องการนอนกอดเขาต้องการที่จะหอมเขาต้องการเขาเท่านั้น แต่เขากับเงียบเฉย และทำหน้าที่เหมือนเดิมทุกอย่าง ผมเองก็หนักใจ อายด้วยซำ้ ที่อยู่ดีๆจะเดินเข้าไปขอกอดหรือหอมเขา มันดูแปกๆ ผมควรเริ่มอย่างไร ควรทำอย่างไรที่จะให้เขาและผม หวานกันบ้าง ไม่ใช่มาเจอกันนั่งดื่มชาหอมๆและคุยงานและธุรกิจกับปราญาจีนอย่างเดียว หนักใจมากครับ มีแฟนเหมือนเป็นเจ้าอาวาสวัดเลย ดีจนผมเองอายที่จะทำอะไรกับเขา เพื่อนๆ พี่ๆที่ทำงานบอหว่า มันเป็นที่นิสัยของเขา จะเงียบๆเฉยๆ จะทำให้เห็นเป็นส่วนใหญ่ ผมเลยไม่กล้าที่จะทำอะไรเขาเลย สุดท้ายมีแฟนดีไป ก็เป็นทุกข์จริงมั่ยครับพี่ๆ คำถามจากตุ๊ดอ้วน
ทำไงพอเป็นแฟนกันแล้วดูแปกไป