JJNY : 'พิชัย' เสนอ 8ข้อแก้พลังงาน│"จิรายุ"จี้รบ.จัดการกัญชา│ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมิ.ย.ร่วงต่อ│รวมตัวต้านสงครามรัสเซีย

'พิชัย' เสนอ 8 ข้อ แก้พลังงาน 'อนุสรณ์' ชี้ใครจะอยากอยู่ในรถน้ำมันหมด คนขับพาเข้ารกเข้าพง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3436434
  
 
‘พิชัย’ เสนอ 8 มาตรการแก้พลังงาน ชี้ราคาน้ำมันตลาดโลกเท่ากับสมัยรัฐบาลเพื่อไทยแต่ราคาปัจจุบันสูงกว่ามาก ติงรถ ‘ประยุทธ์’ เข้าเกียร์ถอยหลังมาตลอด ขนาดต้องให้เด็กจับมือสอน ‘อนุสรณ์’ ชี้ ใครจะอยากอยู่ในรถน้ำมันหมด คนขับขับไม่เป็น พาเข้ารกเข้าพง
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงข่าว “การแก้ปัญหาพลังงานและช่วยเหลือประชาชน” โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ และ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการ และกรรมการคณะยุทธศาสตร์และการเมือง
 
นายพิช้ยกล่าวว่า สภาวะเศรษฐกิจของโลกน่าจะมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยธนาคารสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในปีนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐยอมรับความเสี่ยงที่จะให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ดีกว่าที่จะไม่สามารถควบคุมเสถียรภาพของราคาสินค้า หรือคุมเงินเฟ้อไม่อยู่ ซึ่งจะมีผลเสียมากกว่ามาก ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะผันผวน โดยภาวะเงินเฟ้อของไทยในเดือนมิถุนายนคาดว่าจะสูงถึง 8% และยังมีโอกาสที่จะสูงขึ้นไปอีก จากราคาพลังงานทั้งน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้าที่จะสูงขึ้น และราคาข้าวของที่จะแพงขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้ประชาชนลำบากขึ้นไปอีกมาก รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องหาทางควบคุมไม่ให้ระดับราคาสินค้าพุ่งสูงเกินไปจนคุมไม่อยู่ ซึ่งจะเป็นปัญหาอย่างหนักเหมือนในหลายประเทศที่ประสบ
 
นายพิช้ยกล่าวว่า ราคาก๊าซหุงต้มได้ปรับขึ้นเป็น 378 บาท/ถัง 15 กก.แล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาและจะขึ้นอีกในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนจนถึงราคา 408 บาท/ถัง 15 กก. และราคาน้ำมันดีเซลจะขึ้นทะลุลิตรละ 35 บาท ไปถึงลิตรละ 38 บาท หรือมากกว่านั้น แต่คงกลัวโดนด่าเลยขอตรึงราคาที่ลิตรละ 35 บาทไปก่อน
 
“ทั้ง 2 เรื่องนี้ รัฐบาลอ้างว่าเป็น 2 ใน 8 ของมาตรการช่วยเหลือ แต่จริงๆ เป็นการประกาศขึ้นราคามากกว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ามาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลทั้ง 2 ครั้ง ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่จริง แต่เป็นการซ้ำเติมมากกว่า อีกทั้งแนวคิดเตาอั้งโล่ที่ย้อนยุค แถมมีข่าวว่าจะนำคนคิดเตาอั้งโล่นี้มาเป็นปลัดกระทรวงพลังงานก็พอจะเห็นอนาคตของพลังงานไทยได้เลย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี จะตั้งกรรมการกี่ชุดก็จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะหลักคิดของผู้นำย้อนยุคไปต่อไม่ได้แล้ว” นายพิช้ยกล่าว
 
คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยขอเสนอ 8 แนวทางแก้ไขปัญหาพลังงานและช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
 
1. เก็บเงินจากก๊าซ LPG ที่ส่งเข้าโรงงานปิโตรเคมี กก. ละ 5-8 บาท เพื่อนำมาช่วยลดราคาก๊าซหุงต้ม เรื่องนี้สามารถทำได้ทันที และทำได้ง่ายกว่าการขอเงินจากค่าการกลั่นจากโรงกลั่นน้ำมัน ทั้งนี้ ในอดีต สมัยตนเคยเป็น รมว.พลังงาน เคยสั่งเก็บ กก.ละ 1 บาท แต่ต่อมามีการยกเลิกการเก็บไปไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเรื่องนี้สามารถเก็บได้จริง เพราะก๊าซ LPG ได้มาจากก๊าซในอ่าวไทยและนำมาเข้าโรงแยกก๊าซ อีกทั้งได้มาจากการกลั่นน้ำมัน ซึ่งจะได้เงินปีละกว่าหมื่นล้านบาท
 
2. ปรับราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นให้เท่ากับราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ไม่ต้องมีค่าขนส่ง ค่าประกัน ค่าระเหย เรื่องนี้เป็นการเอาเปรียบประชาชนมาเป็นสิบปีแล้ว และต้องแก้ไข ส่วนค่าการกลั่นที่สูงที่ รมว.พลังงานอ้างว่าจะสามารถเจรจาได้แต่ทำท่าจะเหลว ทั้งนี้ ไม่ใช่กำไร 1-2 บาทตามที่ รมว.พลังงานบอก เพราะในต่างประเทศกำไรของโรงกลั่นสูงขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ราคาหน้าโรงกลั่นต้องปรับลงมาก่อนเพื่อความยุติธรรม
 
“เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปัจจุบันเท่ากับราคาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ราคาน้ำมันดีเซลปัจจุบันสูงกว่าสมัยนั้นมาก ราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 29.99 กับลิตรละ 35 บาทเลย แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ต่างกันมาก” นายพิช้ยกล่าว
 
3. ลดราคาค่าไฟฟ้า โดยนำกำไรสะสมจากรัฐวิสาหกิจเป็นแสนๆ ล้านบาทมาช่วยพยุงราคา อีกทั้งลดค่าส่วนต่างราคาซื้อจากเอกชน และราคาขายให้กับประชาชน รวมถึงต่อรอง “ค่าความพร้อม” ที่โรงงานไฟฟ้าที่ตั้งแล้วแต่ยังไม่ได้ไม่ผลิตไฟฟ้าแล้วรัฐยังต้องจ่ายเงินอยู่ ลดใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า ออกเฉพาะที่จำเป็นและเป็นอนาคตเท่านั้น โรงไฟฟ้าไหนยังไม่สร้างให้ระงับไว้ก่อน รอให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มก่อนค่อยสร้าง
 
4. ออกมาตราการลดค่าใช้จ่ายประชาชน รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี น้ำประปาฟรี ไฟฟ้าฟรี สำหรับผู้มีรายได้น้อยและต้องใช้อย่างประหยัด รวมถึงการปรับลดค่าโดยสารสาธารณะของขนส่งมวลชนที่ได้ชื่อว่าแพงที่สุดในโลก และจะต้องมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ด้วย
 
5. ปรับโครงสร้างการใช้พลังงานของไทย โดยปรับประเทศไทยเข้าสู่อนาคต ส่งเสริมการใช้รถพลังงานไฟฟ้าให้มากและเร็วที่สุด มีจุดเติมพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น และพัฒนาประเทศเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องมีทั้งแบตเตอรี่ และไมโครชิพ
 
6. ปรับโครงสร้างการผลิตและการใช้ไฟฟ้า โดยเร่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานจากแสงแดดและพลังงานจากลม โดยจะต้องพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ให้มีทั่วประเทศ
 
7. เร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา ซึ่งจะทำให้ไทยมีแหล่งพลังงานที่มั่นคงและมีราคาถูก อีกทั้งได้เงินจำนวนมากปีละหลายแสนล้านบาทในนำมาพัฒนาประเทศและจัดทำสวัสดิการให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง อีกทั้งกระจายความเสี่ยงในการพึ่งพาก๊าซจากประเทศเมียนมาร์มีการส่งเครื่องบินรบล้ำเข้ามาในดินแดนประเทศไทย
 
และ 8. ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่ในการเดินทางเพื่อประหยัดพลังงาน เช่น โดรนไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า เรือพลังงานไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อสามารถนำมาใช้ได้จริง ช่วยเหลือประชาชน โดยนำเงินกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมาใช้ในการค้นคว้าและวิจัย และส่งเสริมการใช้
 
นายพิช้ยกล่าวว่า นี่เป็น 8 มาตรการที่สามารถทำได้ทันที และจะช่วยเหลือประชาชน เป็นทิศทางของอนาคตของโลกที่ไทยต้องปรับตัวตาม โดยอยากให้เปรียบเทียบกับ 8 มาตรการของรัฐบาล และอยากตอบ พล.อ.ประยุทธ์ที่ชวนประชาชน 70 ล้านคน ไปนั่งรถที่ พล.อ.ประยุทธ์ขับว่าคนขับยังเข้าเกียร์ถอยหลัง แต่เข้าใจว่ารถเดินไปข้างหน้า แล้วจะตามโลกทันได้อย่างไร ขนาดยังต้องให้เด็กนักเรียนช่วยจับมือช่วยสอนการใช้เมาส์ในคอมพิวเตอร์ให้ ยิ่งแก้ตัวว่าเพื่อให้เด็กภูมิใจสอนนายกยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเด็กรุ่นใหม่อยากภูมิใจว่ามีนายกฯเก่งๆ มากกว่าที่จะต้องมาสอนนายก ท่านน่าจะเข้าใจผิดอย่างรุนแรง
 
“ประชาชนคิดว่าท่านไม่ถนัดเฉพาะเศรษฐกิจ แต่ความจริงขนาดการทหารท่านก็ไม่ถนัด ขนาดปล่อยให้เครื่องบินรบมิก-29 ของเมียนมาร์นเข้าน่านฟ้าไทย แถมยังแก้ตัวให้แทน แบบนี้การทหารท่านก็สอบตก อีกทั้งวันเดียวกันมีการจัดซื้อโดรน 7 ลำ ราคา 4 พันล้านจากประเทศอิสราเอล และยังมีการเรียกร้องให้ซื้อ F-35 ทั้งที่การบริหารจัดการแย่ขนาดนี้ คิดแต่จะซื้ออาวุธเพิ่ม คิดกันได้เท่านี้จริงๆ
 
“ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นนี้ ขอยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยมีทีเด็ดแน่ ทั้งข้อมูลไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและเหล่ารัฐมนตรีที่จะโดนอภิปราย โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีสภาพร่อแร่ตามข่าว โดยมั่นใจได้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหลังการอภิปรายแน่” นายพิช้ยกล่าว
 
ด้าน นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์มีคำสั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ว่ารัฐบาลแก้วิกฤตราคาพลังงาน เงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง ด้วยการใช้หน่วยงานความมั่นคงนำการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ผิดฝาผิดตัว ตลอด 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะยึดวิธีถ้าบริหารผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ จะปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว หรือโยนความผิดให้คนอื่นไว้ก่อน
 
นายอนุสรณ์กล่าวว่า วิธีคิดถ้ารถเสียให้ทุกคนลงไปช่วยกันเข็น เห็นได้ในหลายสถานการณ์ ประชาชนคนไหนจะอยากอยู่บนรถที่น้ำมันหมด คนขับขับไม่เป็น บังคับพวงมาลัยผิดทิศผิดทาง เข้ารกเข้าพง โอกาสรถพุ่งลงเหวสูง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ความมั่นคงนำทุกอย่าง เพื่อความมั่นคงของเก้าอี้ตัวเองก่อนความมั่นคงของประชาชนหรือไม่
 
“วิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็ใช้ สมช.นำหน่วยงานด้านสาธารณสุข จนพรรคร่วมรัฐบาลต่างโวยวายว่าถูกยึดอำนาจ รัฐซ้อนรัฐ วิกฤตเศรษฐกิจแทนที่จะใช้สภาพัฒน์ร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจอื่นๆ กลับใช้ สมช.นำหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาดความรู้ ความสามารถ ขาดความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาวิกฤต
 
“ไม่ไหวอย่าฝืน ตลอด 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างสร้างปัญหากับแก้ไขปัญหา สมานแผล หรือสร้างแผลเป็นใหม่ ประชาชนประเมินได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำอย่างไหนมากกว่ากัน” นายอนุสรณ์กล่าว


 
"จิรายุ" จี้ รบ. จัดการกัญชาอย่างจริงจัง ก่อนเป็นตราบาปให้ครอบครัว ลูกหลานหลงผิด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3436777
 
“จิรายุ” จี้ รบ. จัดการกัญชาอย่างจริงจัง ก่อนเป็นตราบาปต่อครอบครัวที่ลูกหลานหลงผิด เผย คลองสามวา ผุด แคมเปญดูดปุ๊นขณะขับขี่มีโอกาสเสี่ยงถึงตายได้ เพื่อรณรงค์ปชช.ตื่นรู้
 
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์ผลกระทบจากการเปิดเสรีกัญชาทั่วประเทศว่า วันนี้อาการสังคมกำลังป่วยหนัก บ้านเมืองไร้ขื่อแป เกิดยุคคล้ายกับโรงฝิ่นในศตวรรษที่ 19 แต่วันนี้ศตวรรษที่ 21 กำลังเป็นยุคบ้องโจ๋ครองเมืองเสรียิ่งกว่า ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ วันนี้เด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก มีคนเจ็บคนป่วยคนตายทุกวัน ซึ่งดูแล้วหากรัฐบาลจะทำเนียน อ้างว่ารอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบออกมาก็จะดีขึ้นนั้น ตนไม่เห็นด้วยเพราะวันนี้ทั้งสื่อโซเชียล วิทยุ โทรทัศน์ โฆษณาสินค้าผสมกัญชากันอย่างโจ๋งครึ่ม ตู้กดน้ำใกล้สถานศึกษาโรงเรียน โรงพยาบาล คอนโดมิเนียมก็มีเพียบ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ประกาศยกเลิกเสรีกัญชาไว้ก่อนจนกว่า พ.ร.บ.ประกอบจะประกาศใช้เพื่อคืนสังคมที่ดีให้กับครอบครัวคนไทย
 
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า วันนี้การรณรงค์ข้อดี ข้อระวัง ของรัฐไม่จริงจังปล่อยให้พ่อแม่และสังคมชุมชน ดำรงชีวิต ไปตามยถากรรม ทั้งนี้ ตนไม่สามารถรอพ.ร.บ.กัญชาประกาศใช้ได้ ตนได้ดำเนินการรณรงค์ให้ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะในพื้นที่งดเสพกัญชา โดยร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตคลองสามวาจัดทำแคมเปญการดูดปุ๊นขณะขับขี่ยานพาหนะมีโอกาสเสี่ยงถึงตายได้ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นรู้ถึงคุณและโทษของการเสพกัญชา นอกเหนือจากการแพทย์ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีส่วนราชการใดๆ จะรณรงค์ในพื้นที่อย่างจริงจัง จึงขอฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นจะเป็นตราบาปต่อครอบครัวคนไทยที่ลูกหลานต้องเดินทางผิดที่หลงเชื่อฟังแต่ข้อดีของรัฐบาล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่