รัฐมนตรีชัยวุฒิ บอกรัฐบาลประชาสัมพันธ์ไม่เก่งเท่าชัชชาติ
แต่... ดูแกทำสิ ยิ่งกว่าคำว่าประชาสัมพันธ์ เพียงแต่แทนที่จะได้หน้าได้ชื่อ
กลับเสียหน้าเสียชื่อ กลายเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกน่าสมเพชกระหึ่มโลก
.
เรื่องสายไฟฟ้า สายสื่อสาร รกรุงรังใน กทม. ที่เคยดังลั่นเสียชื่อไปทั่วโลก
ดังไปทั้งโลกเพราะบิล เกตส์ มหาเศรษฐีโลก เอาภาพสายไฟฟ้าสายสื่อสาร กทม. ไปโพสต์ลงเน็ต ตั้งแต่ปี 2559
ผ่านมาถึงวันนี้ 6 ปีแล้ว ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีได้ ยังรุงรังรกเหมือนเดิม
วันนี้ ปัญหาสายไฟฟ้า สายสื่อสาร รกรุงรังใน กทม.
.
มีทั้งสายที่ใช้งานอยู่ และสายที่ไม่ได้ใช้งาน
กทม.เลยมีแผนงานที่จะจัดระเบียบตัดสายที่ไม่ได้ใช้งานแล้วทิ้ง ถามหาคนรับผิดชอบ
ก็เกิดปัญหา กสทช. ก็บอกเป็นหน้าที่ของการไฟฟ้า การไฟฟ้าก็อ้างเป็นหน้าที่ของ กสทช.
เรียกว่า โบ้ยกันโยนกันมา ไม่มีหน้าไหนรับผิดชอบ (ก็สายไม่ได้ใช้แล้ว ไม่มีประโยชน์ เขาจะรับผิดชอบทำไม)
กทม. โดยผู้ว่าชัชชาติ เลยบอกว่า
.
การตัดสายที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว กับการจัดการสายที่ยังใช้งานอยู่
มันคนละเรื่อง
เรื่องสายไฟสายสื่อสารลงดินนั้น กทม.โดยผู้ว่าอัศวินเริ่มดำเนินการไปแล้ว
ตอนชัชชาติชนะเลือกตั้งผู้ว่า สลิ่มก็ทำเป็นดักคอทันที ว่าชัชชาติอย่าตีกินเรื่องลงดินนะ
วันนี้ พอมีเรื่องการตัดสายไฟสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
เท่านั้นแหละ สลิ่มไม่ดูตาม้าตาเรือล่ะ แจ้นใส่ชัชชาติทันทีว่าอย่าเคลมตีกินนะ
ทั้งที่มันคนละเรื่อง
มิน่า เขาถึงว่า คนปกติ กับ สลิ่ม อยู่กันในโลกคนละใบ
.
ทำงานด้วยปาก กับ ทำงานด้วยใจ
การปฏิบัติ ผลงานที่เป็นรูปธรรม ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การยอมรับจากประชาชนย่อมต่างกัน
อย่างทักษิณ เกือบยี่สิบปีแล้ว ประชาชนยังจดจำผลงาน และเชื่อมั่นในตัวทักษิณ
ต่างกับบางคน ยิ่งหลายปี ประชาชนยิ่งเรียกร้องหาผลงาน ยิ่งหมดความเชื่อความศรัทธา
นี่แหละครับ ที่เรียกว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
มีอำนาจ แต่ไม่มีผลงาน ไม่ได้นั่งกลางใจประชาชน ประชาชนไม่จดจำ
ชัชชาติ แค่ 1 เดือน ไม่แค่นั่งกลางใจประชาชนคน กทม.
แต่ชัชชาติ อยู่กลางใจประชาชนคนไทยไปทั้งประเทศแล้ว
จริงไหมครับหลิ่ม
อายไหมล่ะครับ รัฐมนตรี การไฟฟ้านครหลวง กสทช. และสลิ่ม
แต่... ดูแกทำสิ ยิ่งกว่าคำว่าประชาสัมพันธ์ เพียงแต่แทนที่จะได้หน้าได้ชื่อ
กลับเสียหน้าเสียชื่อ กลายเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกน่าสมเพชกระหึ่มโลก