▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
โรงแรมรีสอร์ทต่างประเทศ
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
ประเทศมัลดีฟส์
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวทะเล
[CR] Waldorf Astoria Maldives Ithaafushi
ชื่อรีสอร์ท: Waldorf Astoria Maldives Ithaafushi
รีสอร์ทดังกล่าวอยู่บนเกาะที่ชื่อว่า อิทาฟูชิ มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของรีสอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมัลดีฟ ลักษณะของเกาะจะมีรูปลักษณะคล้ายๆตัวยูดังรูปด้านล่าง โดยรีสอร์ทดังกล่าวจะเป็นโรงแรมระดับสูงสุดในเครือ Hilton Honors ครับ ความใหญ่ของรีสอร์ทสามารถอธิบายให้เห็นภาพได้ง่ายๆคือ หากเดินจากปีกซ้ายสุด ไปยังปีกขวาสุดของรีสอร์ท จะต้องใช้เวลาเดินประมาณ 50 นาทีครับ (ถ้าอ้างอิงจากตัวผมเอง ผมจะเดินได้ประมาณ 3.7 km ในเวลา 1 ชั่วโมง) ดังนั้นการเดินทางไปมาวิธีที่สะดวกทีสุดคือ การโทรเรียกรถกอล์ฟให้มารับและพาไปยังจุดหมายที่เราอยากจะไปครับ
ภาพของเกาะอิทาฟูชิ
ช่วงเวลาที่เดินทางและจำนวนวันที่เข้าพัก
ผมเดินทางช่วงเดือนมิถุนายน เข้าพัก 4 คืนด้วยกัน โดยในรีวิวนี้จะมีห้องพักด้วยกัน 2 แบบเรียกว่า King Reef Villa และ Overwater Villa ครับ ทว่าหากจะให้ผมแนะนำ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางไปมัลดีฟจะอยู่ที่เดือน พฤศจิกายน ธันวาคม และ มกราคม ที่ท้องฟ้าจะสดใส และโอกาสฝนตกต่ำมากครับ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ของผม ผมถือว่าโชคดีมาก ที่เจอฝนเพียงแค่วันเดียวครับ
การต้อนรับจาก Valena International Airport ในเมือง Male'
รีสอร์ทนี้จะมีเรือยอร์ชส่วนตัวที่บังคับให้แขกทุกคนต้องใช้บริการเรือยอร์ชนี้ในการเดินทางไปยังอิทาฟูชิเท่านั้น รีสอร์ทไม่อนุญาตให้ใช้เรือจากภายนอกเข้าไปยังรีสอร์ท โดยค่าเดินทางจะอยู่ที่ 900 USD (รวมทั้งขาไปและขากลับ) ต่อผู้ใหญ่ 1 ท่าน การเดินทางบนเรือยอร์ชจะมีห้องนอนให้ใช้บริการได้ แต่เนื่องจากมีแขกกลุ่มอื่นอยู่ด้วย ผมจึงไม่ได้ถ่ายรูปด้านในมาเนื่องจากเกรงใจแขกท่านอื่น ระยะเวลาในการเดินทางจะใช้เวลาทั้งสิ้น 40 นาทีครับ
เรือยอร์ชของ Waldorf Astoria
บริเวณป้ายของ resort
Lobby area
การตกแต่งภายในจะเป็นลักษณะที่เรียกว่า Maldivian Luxury ครับ
ห้องพัก
Room type 1: King Reef Villa with Pool
เป็นห้องระดับ entry level (ราคาถูกที่สุดในรีสอร์ท) เข้าพักได้สูงสุด 3 ท่าน ขนาดของห้องพักจะอยู่ที่ประมาณ 280 ตารางเมตร
Bedroom
Dressing room
Bathroom
Indoor shower room
Personal pool
Sunbathing area
Infinity pool view
Nature-made swimming pool
Sunset view
King Reef Villa Walkthrough
Room type 2: Overwater Villa with pool
ลักษณะห้องจะคล้ายคลึงกับแบบ Reef villa ประเภทแรก ซึ่ง type นี้จะเป็นห้องที่สูงกว่า 1 ขั้น โดยห้องประเภทนี้จะมี gimmick อยู่ที่ overlook-glass floor ในบริเวณ dressing room ครับ
Bedroom
Dressing room
Bathroom
Indoor shower
Bathtub
Outdoor shower
Overlook-glass floor
Overwater villa walkthrough
Tasting Table (ห้องอาหารที่จัด breakfast)
สำหรับห้องอาหารนี้ หากเป็น Hilton Diamond member จะได้เข้ารับประทานฟรี แต่ถ้าไม่มี elite status กลับเครือ Hilton ค่าอาหารเช้าจะอยู่ที่ 65 USD ต่อท่าน (ไม่รวม Tax และ service charge อีกประมาณ 28%) อาหารจะมีให้เลือกหลายหลายมาก ตั้งแต่ standard english breakfast อาหารจีน อาหารเมดิเตอร์เรเนี่ยน สลัดบาร์ ผลไม้ cold cuts และอื่นๆ
กล่องไม้สี่เหลื่ยม ด้านหลังจะมี QR code เพื่อให้สั่ง เมนูไข่
Pestries มีให้เลือกหลายหลายมาก และไม่ซ้ำกันเลยซักวัน
มุมอาหารจีน จะเป็นแนวๆ ติ่มซำ โจ๊ก ผัดหมี่ ข้าวผัด ข้าวต้ม
บริเวณ Made-to-order noodles station
มุม Cold-cuts และ สลัด
มุม Corn flakes
มุม English breakfast
มุมผลไม้
ที่นี่จะมีบริการ Prosecco ที่สามารถเติมได้ไม่อั้น และสามารถผสมน้ำส้ม หรือ น้ำแตงโมได้
ภาพรวมของห้อง Tasting Table จะมีความอบอุ่นบ้านๆ แต่ซ่อนความหรูหราอยู่ด้วยการใช้เหล็กเข้ามาช่วยตกแต่ง
เช้าวันที่ไปเห็นสายรุ้งพอดี โชคดีมากครับ
วันครบรอบรีสอร์ทอายุครบ 3 ปี (01/07/2565) ผมสั่งเมนูไข่ที่เรียกว่า Egg white omelette
มีโชว์วาดรูประหว่างรัปทานอาหารเช้า
Nava Water Sport Center
จะเป็นหาดใหญ่ของรีสอร์ทที่มีกิจกรรมให้เล่นมากมาย อะไรก็ตามที่ไม่มีมอเตอร์ สามารถขอเล่นได้ฟรี เช่น paddle board kayak และอื่นๆ เป็นหาดที่สวยและใหญ่มาก และจะมี infinity pool ให้บริการ ซึ่งสีน้ำทะเล และสีน้ำของ pool คือแทบจะแยกไม่ออกด้วยตาเปล่าจริงๆครับ นอกจากนี้ระหว่างที่ผมเล่นน้ำอยู่ที่ Nava มีลูกฉลาม 3 ตัวมาว่ายน้ำเล่นอยู่ข้างๆ ผมถามเจ้าหน้าที่แล้ว เขาบอกว่า จะมีฉลามทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกันที่หาดนี้ โดยให้สังเกตจากสีที่บริเวณครีบของฉลาม (Black tip, White tip and lemon tip sharks) นอกจากฉลามผมยังเจอ string ray และ mantra อีกด้วยครับ
หาดของ Nava Water Sport Center
Infinity pool ที่สีน้ำจืดแยกแทบจะไม่ออกกับสีน้ำทะเล
Peacock Alley
เป็น Bar ของ Resort ซึ่งจะเป็น Signature ของ Waldorf Astoria ทั่วโลก (Waldorf Astoria BKK ก็มีเช่นกัน) จุดเด่นของที่นี่คือ การเสริ์ฟ happy hour ฟรี 1 ชม. ช่วง 16.00-17.00 น.
Ron CoCo เป็น Cocktail ที่ผสมกะทิและ rum
Zuma
ร้านอาหาร fusion ญี่ปุ่น รสชาติดี บรรยากาศดีครับ
Spicy hamachi roll
Tempura
Salmon and tuna tar tare served with caviar
Wagyu beef teriyaki
Asparagus
Scenic beauty โดยรวมของรีสอร์ท
บอกได้คำเดียวว่า สวย และ อลังการมากครับ
Wedding Pavilion
Serenity pavilion
สรุปสั้นๆ
แนะนำรีสอร์ทนี้อย่างยิ่งครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น