สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงของเรา เรื่องการมาทำงานที่ประเทศโปรตุเกสแบบถูกกฎหมาย


ก่อนอื่นเราต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าเราไม่ใช่เอเจนซี่ที่รับพาคนไปทำงานต่างประเทศนะคะ แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคนที่สนใจมาทำงานที่ยุโรปแบบถูกกฎหมายเท่านั้นค่ะ
เราเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อายุ 40+ และอยากไปทำงานต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย แต่หลังจากลองหาข้อมูลในเน็ทแล้วพบว่าสำหรับคนอายุมากแล้วแบบเรา มีเพียงตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือประเทศโปรตุเกส
เราดูในยูทูป เขาบอกว่าไปทำงานที่โปรตุเกส ค่าหัวแพง ค่าแรงถูก ซึ่งก็คือค่าหัวที่ต้องจ่ายให้เอเจนซี่จัดหางานแบบถูกกฎหมายคือประมาณ 200,000 บาท แต่เงินเดือนที่โปรตุเกสเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 25,000 บาท เท่านั้น ตอนที่ได้ยินแบบนี้ เราถึงกับอึ้งเลย คิดในใจว่า ถ้าเงินเดือนแค่นี้ เราทำอยํ่เมืองไทยในช่วงโควิดยังได้เงินมากกว่าเลย จะไปเสียให้เอเจนซี่ตั้งสองแสนเพื่อ?
แต่หลังจากฟังต่อไป เขาก็บอกว่าโปรตุเกสเป็นแประเทศเดียวในยุโรปที่ออก resident card (บัตรประชาชนของประเทศเขา) ให้กับที่ต่างถิ่นที่ไปทำงานในประเทสเขาได้ง่ายที่สุด โดยผู้ที่ไปทำงานไม่จำเป็นจะต้องแต่งงานกับคนโปรตุเกสเพื่อขอสัญชาติแต่อย่างใด และหลังจากได้บัตรแล้ว เราจะย้ายไปทำงานที่ประเทศไหนในเครือเชงเก้นก็ได้ เราเลยเริ่มสนใจขึ้นมา
เท่าที่เห็นรนมารีวิวงานกัน ส่วนใหญ่งานที่เขาไปทำที่โปรตุเกสจะเป็นงานฟาร์ม ซึ่งเราไม่ถนัด ตอนแรกเราเลยล้มเลิกความคิดนี้ไป จนวันหนึ่งหมอดูทักเราว่าถ้าทำงานนวดแผนโบราณเราจะได้ไปทำงานเมืองนอกแบบถูกกฎหมาย และเงินทองจะไหลมาเทมา พอดีเราเชื่อหมอดูท่านนี้มาก เลยรีบไปเรียนนวดที่วัดโพธิ์แบบด่วนจี๋ หลังจากเรียนจบมาก็ไปหาประสบการณ์ทำงานที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ทำงานได้แค่ 2 วัน รุ่นพี่ที่ร้านนวดก็แนะนำให้เรารู้จักกับเอเจนซี่จัดหาคนไปทำงานนวดไทยที่ต่างประเทศ
ตอนแรกเราก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าจะโดนหลอก ไอ้จะกลัวโดนหลอกไปขายตัวน่ะไม่ห่วงอยู่แล้ว เพราะอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ 😂 ที่ห่วงคือกลัวโดนหลอกไปค้าแรงงานทาส ไม่ก็จ่ายเงินไปแล้ว แต่ไม่มีคนมารับที่สนามบิน และถูกทิ้งให้เคว้งคว้างไม่มีงานทำ สุดท้ายก็ถูกตม.ที่โน่นเตะโด่งกลับเมืองไทย แต่ด้วยความที่เชื่อหมอดูเลยเสี่ยงติดต่อเอเจนซี่คนนี้ไป เขาเป็นเอเจนซี่อิสระ ไม่ใช่บริษัทจัดหางาน ไม่มีใบรับรองใดๆ ทั้งสิ้น แต่ดูจากเฟสบุคเขาแล้วเราคิดว่าเชื่อถือได้พอสมควร หลังจากคุยกับเขาสองสามครั้งเกิดถูกคอกัน เขาเลยคิดค่าหัวเราแค่ 10,000 บาทเท่านั้น ราคาถูกจนน่าหวาดหวั่น 555 แต่เขาบอกว่ายังไม่ต้องจ่าย รอไปถึงและเจอหน้าเขาที่ยุโรปก่อนค่อยจ่ายเขาก็ได้ เราเลยโล่งอกไปหน่อยหนึ่ง (ตอนหลังถึงมารู้ว่าปกติเขาจะคิดค่าหัวคนะ 120,000 บาท แต่ราคานี้เขาจะรวมค่าดำเนินการยื่นวีซ่าให้ด้วย)
พี่เอเจนซี่บอกให้เราไปขอเชงเก้นวีซ่าให้ได้ก่อน ค่อยมาคุยกับเขาอีกที ถ้าได้วีซ่าแล้วมีงานรอให้ทำแน่ๆ เขาไม่รับทำวีซ่าให้เรา เราก็เลยไปจ้างบริษัทที่รับยื่นทำวีซ่าแห่งหนึ่งในกรุงเทพให้เขาทำให้ ค่าจ้างประมาณ 25,000 บาท ตกลงว่ายื่นขอวีซ่าไปแค่ 3 วันก็ได้รับเชงเก้นวีซ่าท่องเที่ยว 20 วันมาแบบงงๆ ทั้งๆ ที่เราไม่มีเงินเดือนประจำ และเพิ่งหาเงินมาโปะในบัญชีแบบเร่งด่วนได้แค่ 200,000 บาท มากับดวงจริงๆ 😂🤣
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าของเรามีดังนี้
1. สเตจเม้นท์บัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ต้องมีเงินไม่มากไม่น้อยเกินไป ถ้าขอวีซ่าท่องเที่ยว 10 วันควรมีเงินในบัญชีประมาณ 200,000 บ. และที่มาของเงินต้องชัดเจน น่าเชื่อถือ (ของเราได้เงินมาจากการปิดกรมธรรม์ประกันชีวิต)
2. หลักฐานการทำงาน เรายื่นรูปถ่ายประกอบการทำงานเป็นฟรีแล้นซ์ไป 10 รูป
3. ทะเบียนสมรส
4. สูติบัตรของบุตรที่ยังอายุน้อย
5. แผนการท่องเที่ยว เราขอที่สถานทูตสเปน ก็ต้องทำแผนการท่องเที่ยวที่สเปนออกมาให้เขาดู ( เอเจนซี่ทำให้)
6. หลักฐานการจองโรงแรม (จองแบบยังไม่จ่ายเงินจริงและยกเลิกได้)
7. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ อันนี้ก็จองหลอกเช่นกัน เพราะยังไม่จ่ายเงินจริง ได้หรือไม่ได้วีซ่าก็สามารถยกเลิกได้ตลอด
8. ประกันการเดินทางท่องเที่ยว อันนี้ต้องจ่ายเงินจริง แต่ไม่กี่ร้อยบาท ถือว่าซื้อทิ้งไปเลย เพราะเอาเข้าจริง วีซ่าที่ออกมาให้อาจจะไม่ตรงกับวันเดินทางในแผนที่ยื่นขอไป ดังนั้นเวลาจะเดินทางจริงก็ต้องซื้อประกันใหม่อยู่ดี
หลังจากได้วีซ่าแล้วเราก็บอกเอเจนซี่จัดหางานที่เราติดต่อไว้ ตัวเขาอยู่ที่ประเทศสเปน แต่เขาจัดการจองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมที่สเปนให้เรา จากนั้นก็ส่งใบเสร็จกับตั๋วมาให้เราทางไลน์ และให้เราโอนเงินให้เขาตามใบเสร็จ ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับราคาประมาณ 34,000 บ. ที่ต้องซื้อตั๋วแบบไปกลับเท่านั้น ก็เพราะว่าถ้าซื้อตั๋วไปอย่างเดียวเดี๋ยวตม.ไม่ให้เข้าประเทศ ส่วนตั๋วขากลับก็ต้องทิ้งไปเลย ค่าโรงแรมเราพักคืนละ 1600 บ. เป็นโฮสท์เทลแบบนอนห้องรวมกับคนอื่น เรานอนที่สเปน 3 วัน เพราะจะถือโอกาสเที่ยวไปด้วยเลย จากนั้นพี่เอเจนซี่ก็จองตั๋วรถทัวร์จากสเปนไปโปรตุเกสให้เรา
เราโชคดีมากที่เจอพี่เอเจนซี่เป็นคนดี เขามารับที่สนามบินตรงเวลามาก พาเราไปส่งถึงโรงแรม แถมหลังเขาเลิกงานตอนเย็นยังพาเราตระเวนเที่ยวในเมืองทุกวัน เลี้ยงข้าวเราเกือบทุกมื้ออี๊ก ไม่รู้ว่าพี่แกจะเหลือกำไรกี่บาทกัน 😅 อย่าเข้าใจผิดว่าพี่เขาจีบเรานะคะ เขาชอบผู้ชายค่ะ







หลังจากเที่ยวสเปนจนรองเท้าสึก เราก็เดินทางต่อไปโปรตุเกสโดยรถทัวร์ ค่ารถราคาประมาณ 60 ยูโร ใช้เวลาเดินทาง 21 ชั่งโมง นั่งกันจนตูดแฉะกันไปข้างนึง คนขับกับพนักงานประจำรถก็ดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำ ยังดีที่เขายังพอรู้จักคำว่า toilet ไม่งั้นเราคงเครียดกว่านี้ 5555
พี่เอเจนซี่ของเราโทร.บอกให้นายจ้างเรามารับที่สถานีรถบัสที่โปรตุเกส พอเจอกับนายจ้างเรียบร้อยเราถึงค่อยหายใจคล่องปอดอีกครั้ง
ตอนแรกเราเข้าใจว่าเมื่อมาะึงโปรตุเกสแล้วสามารถเปลี่ยนวีซ่าท่องเที่ยวเป็นวีซ่าทำงานได้ภายใน 2 วัน แต่สรุปว่าเราเข้าใจผิดถนัด ขั้นตอนในการทำเอกสารยุ่งยากวุ่นวายมากและใช้เวลาประมาณ 20 วัน ที่สำคัญคือ เขาไม่ได้ให้เราเปลี่ยนวีซ่าค่ะ แต่ข่าวดีคือเขาจะออกเอกสารให้เราว่าเรากำลังยื่นเรื่องขอเป็นประชาชนโปรตุเกสอยู่ ซึ่งจะต้องใช้เวลารออนุมัติประมาณ 6-12 เดือน และระหว่างนั้นก็อนุโลมให้เราอยู่ในประเทศเขาได้แบบถูกกฎหมาย
แต่ประเด็นคือวีซ่าเอาขาดแล้ว ดังนั้นระหว่างรออนุมัติเอกสารนี้ เราจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศเขาไปประเทศอื่นได้ มิเช่นนั้นจะถูกตม.ประเทศอื่นกักตัวเพราะเราไม่มีวีซ่า
ขั้นตอนในการทำเอกสารทุกขั้นตอนที่โปรตุเกสต้องทำการนัดล่วงหน้า บางครั้งไม่มีคิวว่างก็ต้องรอหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ถ้านายจ้างเราเป็นผู้กว้างขวาง ขั้นตอนต่างไป ก็จะง่ายขึ้นและเร็วขึ้นมาก โชคดีที่เจ้านายเราอยู่เป็น ไปไหนก็มีขนมติดไม้ติดมือไปฝากเขาหมด อะไรๆ ก็เลยง่ายขึ้นมาก
เอกสารที่ต้องทำมีลำดับขั้นตอนดังนี้ค่ะ (ต้องมีอันที่ 1 จึงจะทำอันที่ 2 และอันต่อๆ ไปได้)
1. เลขที่ผู้เสียภาษี เรียกว่าเลข NIF หรือ Fiscal number
2. ใบประกันสังคม (social security) ทำที่จังหวัดไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำที่เดี่ยวกับที่ๆ เราอยู่
3. ทะเบียนบ้าน หรือ จุ๊นต้า (อันนี้เขียนภาษาโปรตุเกสไม่ถูก) ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องหาพยานซึ่งเป็นคนโปรตุเกสที่มีทะเบียนบ้านอยํ่ในอำเภอเดียวกันกับทะเบียนบ้านเรามาเซ็นต์เป็นพยานให้ 2 คน ถ้านายจ้างไม่กว้างขวางจริงจะหาพยานให้ไม่ได้
4. ใบรับรองการจ้างงาน work contract
5. กรอกเอกสารที่ที่ว่าการอำเภอเพื่อส่งคำร้องขอทำบัตรประชาชนโปรตุเกส
6. รอ 6-8 เดือน แล้วเขาจะส่งข้อความมาทางมือถือว่าเขาได้รับคำร้องแล้ว และให้เรานัดหมายจองคิวไปทำบัตรได้ (จะได้คิวเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับดวงแล้วล่ะ)
เรามาอยู่ที่โปรตุเกสได้เดือนนึงแล้ว นายจ้างเราจ่ายเงินตรงเวลา และจ่ายจำนวนตรงตามที่ตกลงกันเอาไว้ด้วยดี ก็ถือว่าเราโชคดีมากๆ เพราะได้ยินว่าหลายคนที่มาทำงานที่นี่เจอนายจ้างเขี้ยว จ่ายเงินไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ แถมไม่ช่วยทำเอกสารอะไรเลยสักอย่าง หลายคนเลยต้องอดทนอยู่ทำงานแบบผิดกฎหมาย เงินก็ไม่มี จะกลับเมืองไทยก็ไม่ได้อีก ดังนั้นใครที่คิดจะมาทำงานที่นี่ควรพิจารณาให้รอบคอบหน่อยนะคะ อย่าเอาอย่างเราที่มาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง😅 คุณอาจจะไม่โชคดีแบบเราก็ได้ ทางที่ดีควรปรึกษาหมอดูก่อนตัดสินใจ 555
เงินเดือนของเราที่โปรตุเกส ได้เดือนละ 750 ยูโร + คอมมิสชั่น 5% + ทิป
เดือนแรกเราได้รายได้รวมทุกอย่างแล้วตกประมาณ 1600 ยูโร
มีบ้านพักให้ฟรี แต่ไม่มีอาหารให้ อาหารที่นี่ไม่แพง เราทำกินเองแบบไม่ประหยัด อยากกินอะไรก็กิน ก็ตกเฉลี่ยวันละ 10 ยูโร โดยส่วนตัวเราถือว่ารายได้เทียบกับรายจ่ายแล้วก็โอเคอยู่นะ ดีกว่าอยู่เมืองในในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำค่ะ อีกอย่างงานนวดไทยก็ไม่ได้หนักมากมายอะไร ผู้คนที่นี่ก็ใจดี อากาศก็ดี ใครสนใจก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ค่ะ










หากสนใจงานนวดไทยก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมไปที่สมาคมนวดไทยในโปรตุเกสได้นะคะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยหรือแนะนำได้มากแค่ไหนเหมือนกัน
ปล. ไม่ต้องหลังไมค์มาขอข้อมูลเกี่ยวกับเอเจนซี่ หรือให้ช่วยแนะนำงานให้นะคะ ไม่รับค่า 😅
หากใครสนใจงานลักษณะนี้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องไปเสียค่าหัวให้เอเจนซี่ค่ะ แนะนำให้ลองติดต่อกับร้านนวดที่โปรตุเกสและคุยกับเขาโดยตรงไปเลย ควรพิจารณาเอาเองว่าเจ้าของร้านที่คุณคุยด้วยน่าเชื่อถือขนาดไหน ก่อนจะตกลงเรื่องงานกับเขา มันก็เหมือนการสมัครงานทั่วไปที่เราไม่มีวันรู้เลยว่าพอไปทำแล้วงานมันจะดีเหมือนที่เราคิดรึเปล่า จนกว่าจะได้ไปทำจริงๆ ส่วนเรื่องวีซ่าและเอกสารอื่นๆ คุณสามารถทำเองได้เช่นกันถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษหรือโปรตุเกสได้ ขอแค่นายจ้างยอมออกสัญญาจ้างงานให้คุณเท่านั้น
[CR] ทำงานโปรตุเกสแบบถูกกฎหมาย
ก่อนอื่นเราต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าเราไม่ใช่เอเจนซี่ที่รับพาคนไปทำงานต่างประเทศนะคะ แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคนที่สนใจมาทำงานที่ยุโรปแบบถูกกฎหมายเท่านั้นค่ะ
เราเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อายุ 40+ และอยากไปทำงานต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย แต่หลังจากลองหาข้อมูลในเน็ทแล้วพบว่าสำหรับคนอายุมากแล้วแบบเรา มีเพียงตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือประเทศโปรตุเกส
เราดูในยูทูป เขาบอกว่าไปทำงานที่โปรตุเกส ค่าหัวแพง ค่าแรงถูก ซึ่งก็คือค่าหัวที่ต้องจ่ายให้เอเจนซี่จัดหางานแบบถูกกฎหมายคือประมาณ 200,000 บาท แต่เงินเดือนที่โปรตุเกสเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 25,000 บาท เท่านั้น ตอนที่ได้ยินแบบนี้ เราถึงกับอึ้งเลย คิดในใจว่า ถ้าเงินเดือนแค่นี้ เราทำอยํ่เมืองไทยในช่วงโควิดยังได้เงินมากกว่าเลย จะไปเสียให้เอเจนซี่ตั้งสองแสนเพื่อ?
แต่หลังจากฟังต่อไป เขาก็บอกว่าโปรตุเกสเป็นแประเทศเดียวในยุโรปที่ออก resident card (บัตรประชาชนของประเทศเขา) ให้กับที่ต่างถิ่นที่ไปทำงานในประเทสเขาได้ง่ายที่สุด โดยผู้ที่ไปทำงานไม่จำเป็นจะต้องแต่งงานกับคนโปรตุเกสเพื่อขอสัญชาติแต่อย่างใด และหลังจากได้บัตรแล้ว เราจะย้ายไปทำงานที่ประเทศไหนในเครือเชงเก้นก็ได้ เราเลยเริ่มสนใจขึ้นมา
เท่าที่เห็นรนมารีวิวงานกัน ส่วนใหญ่งานที่เขาไปทำที่โปรตุเกสจะเป็นงานฟาร์ม ซึ่งเราไม่ถนัด ตอนแรกเราเลยล้มเลิกความคิดนี้ไป จนวันหนึ่งหมอดูทักเราว่าถ้าทำงานนวดแผนโบราณเราจะได้ไปทำงานเมืองนอกแบบถูกกฎหมาย และเงินทองจะไหลมาเทมา พอดีเราเชื่อหมอดูท่านนี้มาก เลยรีบไปเรียนนวดที่วัดโพธิ์แบบด่วนจี๋ หลังจากเรียนจบมาก็ไปหาประสบการณ์ทำงานที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ทำงานได้แค่ 2 วัน รุ่นพี่ที่ร้านนวดก็แนะนำให้เรารู้จักกับเอเจนซี่จัดหาคนไปทำงานนวดไทยที่ต่างประเทศ
ตอนแรกเราก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าจะโดนหลอก ไอ้จะกลัวโดนหลอกไปขายตัวน่ะไม่ห่วงอยู่แล้ว เพราะอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ 😂 ที่ห่วงคือกลัวโดนหลอกไปค้าแรงงานทาส ไม่ก็จ่ายเงินไปแล้ว แต่ไม่มีคนมารับที่สนามบิน และถูกทิ้งให้เคว้งคว้างไม่มีงานทำ สุดท้ายก็ถูกตม.ที่โน่นเตะโด่งกลับเมืองไทย แต่ด้วยความที่เชื่อหมอดูเลยเสี่ยงติดต่อเอเจนซี่คนนี้ไป เขาเป็นเอเจนซี่อิสระ ไม่ใช่บริษัทจัดหางาน ไม่มีใบรับรองใดๆ ทั้งสิ้น แต่ดูจากเฟสบุคเขาแล้วเราคิดว่าเชื่อถือได้พอสมควร หลังจากคุยกับเขาสองสามครั้งเกิดถูกคอกัน เขาเลยคิดค่าหัวเราแค่ 10,000 บาทเท่านั้น ราคาถูกจนน่าหวาดหวั่น 555 แต่เขาบอกว่ายังไม่ต้องจ่าย รอไปถึงและเจอหน้าเขาที่ยุโรปก่อนค่อยจ่ายเขาก็ได้ เราเลยโล่งอกไปหน่อยหนึ่ง (ตอนหลังถึงมารู้ว่าปกติเขาจะคิดค่าหัวคนะ 120,000 บาท แต่ราคานี้เขาจะรวมค่าดำเนินการยื่นวีซ่าให้ด้วย)
พี่เอเจนซี่บอกให้เราไปขอเชงเก้นวีซ่าให้ได้ก่อน ค่อยมาคุยกับเขาอีกที ถ้าได้วีซ่าแล้วมีงานรอให้ทำแน่ๆ เขาไม่รับทำวีซ่าให้เรา เราก็เลยไปจ้างบริษัทที่รับยื่นทำวีซ่าแห่งหนึ่งในกรุงเทพให้เขาทำให้ ค่าจ้างประมาณ 25,000 บาท ตกลงว่ายื่นขอวีซ่าไปแค่ 3 วันก็ได้รับเชงเก้นวีซ่าท่องเที่ยว 20 วันมาแบบงงๆ ทั้งๆ ที่เราไม่มีเงินเดือนประจำ และเพิ่งหาเงินมาโปะในบัญชีแบบเร่งด่วนได้แค่ 200,000 บาท มากับดวงจริงๆ 😂🤣
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าของเรามีดังนี้
1. สเตจเม้นท์บัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ต้องมีเงินไม่มากไม่น้อยเกินไป ถ้าขอวีซ่าท่องเที่ยว 10 วันควรมีเงินในบัญชีประมาณ 200,000 บ. และที่มาของเงินต้องชัดเจน น่าเชื่อถือ (ของเราได้เงินมาจากการปิดกรมธรรม์ประกันชีวิต)
2. หลักฐานการทำงาน เรายื่นรูปถ่ายประกอบการทำงานเป็นฟรีแล้นซ์ไป 10 รูป
3. ทะเบียนสมรส
4. สูติบัตรของบุตรที่ยังอายุน้อย
5. แผนการท่องเที่ยว เราขอที่สถานทูตสเปน ก็ต้องทำแผนการท่องเที่ยวที่สเปนออกมาให้เขาดู ( เอเจนซี่ทำให้)
6. หลักฐานการจองโรงแรม (จองแบบยังไม่จ่ายเงินจริงและยกเลิกได้)
7. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ อันนี้ก็จองหลอกเช่นกัน เพราะยังไม่จ่ายเงินจริง ได้หรือไม่ได้วีซ่าก็สามารถยกเลิกได้ตลอด
8. ประกันการเดินทางท่องเที่ยว อันนี้ต้องจ่ายเงินจริง แต่ไม่กี่ร้อยบาท ถือว่าซื้อทิ้งไปเลย เพราะเอาเข้าจริง วีซ่าที่ออกมาให้อาจจะไม่ตรงกับวันเดินทางในแผนที่ยื่นขอไป ดังนั้นเวลาจะเดินทางจริงก็ต้องซื้อประกันใหม่อยู่ดี
หลังจากได้วีซ่าแล้วเราก็บอกเอเจนซี่จัดหางานที่เราติดต่อไว้ ตัวเขาอยู่ที่ประเทศสเปน แต่เขาจัดการจองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมที่สเปนให้เรา จากนั้นก็ส่งใบเสร็จกับตั๋วมาให้เราทางไลน์ และให้เราโอนเงินให้เขาตามใบเสร็จ ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับราคาประมาณ 34,000 บ. ที่ต้องซื้อตั๋วแบบไปกลับเท่านั้น ก็เพราะว่าถ้าซื้อตั๋วไปอย่างเดียวเดี๋ยวตม.ไม่ให้เข้าประเทศ ส่วนตั๋วขากลับก็ต้องทิ้งไปเลย ค่าโรงแรมเราพักคืนละ 1600 บ. เป็นโฮสท์เทลแบบนอนห้องรวมกับคนอื่น เรานอนที่สเปน 3 วัน เพราะจะถือโอกาสเที่ยวไปด้วยเลย จากนั้นพี่เอเจนซี่ก็จองตั๋วรถทัวร์จากสเปนไปโปรตุเกสให้เรา
เราโชคดีมากที่เจอพี่เอเจนซี่เป็นคนดี เขามารับที่สนามบินตรงเวลามาก พาเราไปส่งถึงโรงแรม แถมหลังเขาเลิกงานตอนเย็นยังพาเราตระเวนเที่ยวในเมืองทุกวัน เลี้ยงข้าวเราเกือบทุกมื้ออี๊ก ไม่รู้ว่าพี่แกจะเหลือกำไรกี่บาทกัน 😅 อย่าเข้าใจผิดว่าพี่เขาจีบเรานะคะ เขาชอบผู้ชายค่ะ
หลังจากเที่ยวสเปนจนรองเท้าสึก เราก็เดินทางต่อไปโปรตุเกสโดยรถทัวร์ ค่ารถราคาประมาณ 60 ยูโร ใช้เวลาเดินทาง 21 ชั่งโมง นั่งกันจนตูดแฉะกันไปข้างนึง คนขับกับพนักงานประจำรถก็ดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำ ยังดีที่เขายังพอรู้จักคำว่า toilet ไม่งั้นเราคงเครียดกว่านี้ 5555
พี่เอเจนซี่ของเราโทร.บอกให้นายจ้างเรามารับที่สถานีรถบัสที่โปรตุเกส พอเจอกับนายจ้างเรียบร้อยเราถึงค่อยหายใจคล่องปอดอีกครั้ง
ตอนแรกเราเข้าใจว่าเมื่อมาะึงโปรตุเกสแล้วสามารถเปลี่ยนวีซ่าท่องเที่ยวเป็นวีซ่าทำงานได้ภายใน 2 วัน แต่สรุปว่าเราเข้าใจผิดถนัด ขั้นตอนในการทำเอกสารยุ่งยากวุ่นวายมากและใช้เวลาประมาณ 20 วัน ที่สำคัญคือ เขาไม่ได้ให้เราเปลี่ยนวีซ่าค่ะ แต่ข่าวดีคือเขาจะออกเอกสารให้เราว่าเรากำลังยื่นเรื่องขอเป็นประชาชนโปรตุเกสอยู่ ซึ่งจะต้องใช้เวลารออนุมัติประมาณ 6-12 เดือน และระหว่างนั้นก็อนุโลมให้เราอยู่ในประเทศเขาได้แบบถูกกฎหมาย
แต่ประเด็นคือวีซ่าเอาขาดแล้ว ดังนั้นระหว่างรออนุมัติเอกสารนี้ เราจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศเขาไปประเทศอื่นได้ มิเช่นนั้นจะถูกตม.ประเทศอื่นกักตัวเพราะเราไม่มีวีซ่า
ขั้นตอนในการทำเอกสารทุกขั้นตอนที่โปรตุเกสต้องทำการนัดล่วงหน้า บางครั้งไม่มีคิวว่างก็ต้องรอหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ถ้านายจ้างเราเป็นผู้กว้างขวาง ขั้นตอนต่างไป ก็จะง่ายขึ้นและเร็วขึ้นมาก โชคดีที่เจ้านายเราอยู่เป็น ไปไหนก็มีขนมติดไม้ติดมือไปฝากเขาหมด อะไรๆ ก็เลยง่ายขึ้นมาก
เอกสารที่ต้องทำมีลำดับขั้นตอนดังนี้ค่ะ (ต้องมีอันที่ 1 จึงจะทำอันที่ 2 และอันต่อๆ ไปได้)
1. เลขที่ผู้เสียภาษี เรียกว่าเลข NIF หรือ Fiscal number
2. ใบประกันสังคม (social security) ทำที่จังหวัดไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำที่เดี่ยวกับที่ๆ เราอยู่
3. ทะเบียนบ้าน หรือ จุ๊นต้า (อันนี้เขียนภาษาโปรตุเกสไม่ถูก) ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องหาพยานซึ่งเป็นคนโปรตุเกสที่มีทะเบียนบ้านอยํ่ในอำเภอเดียวกันกับทะเบียนบ้านเรามาเซ็นต์เป็นพยานให้ 2 คน ถ้านายจ้างไม่กว้างขวางจริงจะหาพยานให้ไม่ได้
4. ใบรับรองการจ้างงาน work contract
5. กรอกเอกสารที่ที่ว่าการอำเภอเพื่อส่งคำร้องขอทำบัตรประชาชนโปรตุเกส
6. รอ 6-8 เดือน แล้วเขาจะส่งข้อความมาทางมือถือว่าเขาได้รับคำร้องแล้ว และให้เรานัดหมายจองคิวไปทำบัตรได้ (จะได้คิวเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับดวงแล้วล่ะ)
เรามาอยู่ที่โปรตุเกสได้เดือนนึงแล้ว นายจ้างเราจ่ายเงินตรงเวลา และจ่ายจำนวนตรงตามที่ตกลงกันเอาไว้ด้วยดี ก็ถือว่าเราโชคดีมากๆ เพราะได้ยินว่าหลายคนที่มาทำงานที่นี่เจอนายจ้างเขี้ยว จ่ายเงินไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ แถมไม่ช่วยทำเอกสารอะไรเลยสักอย่าง หลายคนเลยต้องอดทนอยู่ทำงานแบบผิดกฎหมาย เงินก็ไม่มี จะกลับเมืองไทยก็ไม่ได้อีก ดังนั้นใครที่คิดจะมาทำงานที่นี่ควรพิจารณาให้รอบคอบหน่อยนะคะ อย่าเอาอย่างเราที่มาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง😅 คุณอาจจะไม่โชคดีแบบเราก็ได้ ทางที่ดีควรปรึกษาหมอดูก่อนตัดสินใจ 555
เงินเดือนของเราที่โปรตุเกส ได้เดือนละ 750 ยูโร + คอมมิสชั่น 5% + ทิป
เดือนแรกเราได้รายได้รวมทุกอย่างแล้วตกประมาณ 1600 ยูโร
มีบ้านพักให้ฟรี แต่ไม่มีอาหารให้ อาหารที่นี่ไม่แพง เราทำกินเองแบบไม่ประหยัด อยากกินอะไรก็กิน ก็ตกเฉลี่ยวันละ 10 ยูโร โดยส่วนตัวเราถือว่ารายได้เทียบกับรายจ่ายแล้วก็โอเคอยู่นะ ดีกว่าอยู่เมืองในในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำค่ะ อีกอย่างงานนวดไทยก็ไม่ได้หนักมากมายอะไร ผู้คนที่นี่ก็ใจดี อากาศก็ดี ใครสนใจก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ค่ะ
หากสนใจงานนวดไทยก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมไปที่สมาคมนวดไทยในโปรตุเกสได้นะคะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยหรือแนะนำได้มากแค่ไหนเหมือนกัน
ปล. ไม่ต้องหลังไมค์มาขอข้อมูลเกี่ยวกับเอเจนซี่ หรือให้ช่วยแนะนำงานให้นะคะ ไม่รับค่า 😅
หากใครสนใจงานลักษณะนี้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องไปเสียค่าหัวให้เอเจนซี่ค่ะ แนะนำให้ลองติดต่อกับร้านนวดที่โปรตุเกสและคุยกับเขาโดยตรงไปเลย ควรพิจารณาเอาเองว่าเจ้าของร้านที่คุณคุยด้วยน่าเชื่อถือขนาดไหน ก่อนจะตกลงเรื่องงานกับเขา มันก็เหมือนการสมัครงานทั่วไปที่เราไม่มีวันรู้เลยว่าพอไปทำแล้วงานมันจะดีเหมือนที่เราคิดรึเปล่า จนกว่าจะได้ไปทำจริงๆ ส่วนเรื่องวีซ่าและเอกสารอื่นๆ คุณสามารถทำเองได้เช่นกันถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษหรือโปรตุเกสได้ ขอแค่นายจ้างยอมออกสัญญาจ้างงานให้คุณเท่านั้น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้