อายุ 48 เงินเก็บ 40 ล้านบาท อยากเกษียณมาใช้ชีวิตอิสระ

ปัจจุบัน ผมอายุ 48 ปี ทำงานมาแล้ว 27 ปี จนได้เป็นผู้บริหารระดับกลางในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง 
มีทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท 
- เงินสด 23 ล้านบาท : ได้ดอกเบี้ยประมาณปีละ 6 แสนบาท
- หุ้น 5 ล้านบาท : ได้ปันผลปีละประมาณ 1 แสนบาท
- LTF/SFF 3 ล้านบาท 
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 10 ล้านบาท 
- บ้านใน กทม. 1 หลัง มูลค่าปัจจุบัน 10 ล้านบาท 
- รถยนต์ 1 คัน
- มีลูก 1 คน เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 

ตอนนี้ คิดอยากเกษียณเร็ว เพราะรู้สึกว่าเรามีทรัพย์สินที่น่าจะเพียงพอแล้ว 
อีกอย่าง เริ่มเบื่อสังคมการทำงานที่ค่อนข้างแก่งแย่งชิงดี ใส่ร้ายป้ายสีกัน 
อยากออกมาใช้ชีวิตอิสระ  ท่องเที่ยว พักผ่อน งานอดิเรก ทำบุญ ช่วยเหลือสังคม 

อยากขอความคิดเห็นและมุมมองของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่าควรเกษียณหรือไม่ครับ
เผื่อนำข้อคิดและความเห็นที่ได้ ไปประกอบการตัดสินใจ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ต้องกลัวเบื่อที่ไม่ได้ไปทำงานหรอกค่ะ
ชีวิตมีอะไรให้ทำเยอะแยะ และอย่าเอาค่าของตัวเองไปผูกไว้กับงาน

คนเรา มีอะไรให้ทำได้ทั้งวันแหละถ้าจะทำ
คนเบื่อที่ไม่มีอะไรทำคือจัดการตัวเองไม่ได้ เคยชินต้องเอาตัวเองไปล่ามไว้กับอะไรซักอย่าง

กิจกรรมเยอะแยะที่เวลาทำงานแล้วทำไม่ได้ อ่านหนังสือที่อยากอ่านแม้เป็นเล่มที่ไม่จำเป็นกับงาน เดินทางท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ปรับปรุงบ้าน งานจิตอาสาการกุศลก็ต้องการคนเยอะมาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
รอลูกเรียนจบปริญญาตรีจนได้งานทำก่อนดีกว่า ช่วงนี้ก็เต้นฟุตเวิร์คไปก่อน เพราะถ้าออกจะหมดบารมีไปมาก ฝากฝังลูกลำบาก
ความคิดเห็นที่ 8
ผมนี่ไงเกษียณตอน 48 จากบริษัทต่างชาติในไทย
ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 3 ปี มีความสุขดีครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาจะเบื่อ มีอะไรให้ทำเยอะแยะ
ตื่นเช้าทำกับข้าวให้ลูกให้เมีย เสร็จแล้วออกไปวิ่ง กลับมารดน้ำต้นไม้ จิบกาแฟ สายๆตลาดหุ้นก็เปิดล่ะ
บ่ายๆเปลี่ยนที่ดื่มกาแฟ ออกไปร้านปากซอยบ้าง พบปะเพื่อนฝูง (พวกที่รีไทร์แล้วเหมือนกัน)

ช่วงวันธรรมดา ซื้อตัวบุพเฟ่ต์ไว้ บินไปต่างจังหวัดชิลๆ นอนเล่นสักคืน (ถ้าเมียไม่ว่า)

บางอารมณ์อาจจะมีความรู้สึกอาจจะแอบคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตไร้ค่าเมื่อเห็นเพื่อนๆรุ่นเดียวกันยังเป็นผู้บริหารอยู่ในองค์กร แต่กลับมาคิดอีกที พวกนั้นสิควรจะต้องอิจฉาเรา 555

ว่าแต่เงินฝากแบ๊งค์ไหนครับ ดอกเบี้ยคิดคร่าวๆตั้ง 2.6% แน่ะ  ของผมหายังไงก็ไม่มีธนาคารไหนให้ถึง 1% เลย (จึงเลือกเก็บเงินสดน้อยมาก ลงหุ้นเกือบหมด)

จะให้ได้ดอกเบี้ย 600,000 แบบคุณผมต้องหาเเงินสดไปฝากสัก 100 ล้าน นู่นแน่ะ (ซึ่งผมไม่มีขนาดนั้น)
ความคิดเห็นที่ 117
ถ้าพี่ไม่ได้รักงานปัจจุบันอย่างสุดหัวใจ อย่าไปหลงเชื่อคนที่บอกให้พี่ทำงานหาเงินต่อ เป็นยาพิษทางความคิดที่อันตรายมากครับ
คนพวกนี้มักติดกับดักตัวเอง คิดแต่จะหาเงินอย่างไม่มีสิ้นสุด ทั้งที่เงินที่มี มันเกินพอจะใช้ไปตลอดชีวิต

ถ้าพี่เชื่อพวกเค้า พี่จะหมดเวลาไปกับงานที่ไม่ได้มีความหมายกับชีวิตพี่ เพื่อหาเงินที่พี่ไม่มีโอกาสได้ใช้
รีบรู้สึกตัว แล้วเกษียณงาน ใช้ชีวิตอย่างอิสระ อย่างที่พี่ต้องการดีกว่าครับ
เพราะสิ่งที่พี่ทำอย่างมีความสุขตอนอายุ 48 พี่อาจทำมันไม่ได้ตอนอายุ 55 หรือ 60 (หรือถ้าทำได้ ก็อาจไม่รู้สึกสดชื่นตื้นตันใจเท่า)
การท่องเที่ยว พักผ่อนตอน 48 กับตอน 60 ประสบการณ์และความรู้สึกที่ได้ ไม่เหมือนกันแน่นอน
แค่สุขภาพร่างกายก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ตอนพี่ตาย พี่จะเหลือทรัพย์สินเงินทอง 40 ล้าน หรือ 100 ล้านไว้บนโลกนี้ มันก็ไม่ต่างกันสำหรับพี่หรอกครับ

พี่ควรดูการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เป็นแบบอย่างนะครับ
พวกเราสั่งสมประสบการณ์ดีๆ ให้กับชีวิต ไม่ใช่เอาแต่รวยเงิน แต่จนประสบการณ์
ถ้าจะตาย ควรตายพร้อมความทรงจำดีๆ สุขใจที่ได้ทำสิ่งที่ต้องการ
พี่ทำงานให้คนอื่นมามากพอแล้ว เริ่มทำอะไรให้ตัวเองได้แล้วครับ
ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสแบบพี่ อย่าทิ้งโอกาสให้สูญเปล่าดิครับ แหม่
ความคิดเห็นที่ 24
รวยขนาดนี้ไม่น่าถามคนในพันทิพนะ เพนาะการวางแผนการเงินน่าจะฉลาดมากทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่