🎤🎤🎤
เป็นหนังชีวประวัติของศิลปินระดับโลกอีกหนึ่งเรื่องที่เปิดตัวอย่างมาก็น่าสนใจมากๆ แล้ว หนังแนวนี้ที่ผ่านมาอย่าง Bohemian Rhapsody ที่เป็นชีวประวัติของ Freddie Mercury และ วง Queen หรือ Rocketman ที่เป็นชีวประวัติของ Elton John ซึ่งทั้งสองเรื่องสร้างความประทับใจให้กับคนดูเป็นอย่างมาก บวกกับการที่ทำให้เราได้เห็นว่า เหล่าบรรดาศิลปินระดับโลกที่ดูภาพลักษณ์ภายนอกจะมีชื่อเสียง เงินทอง ที่สามารถทำให้ชีวิตมีความสุขสมบูรณ์แบบ แต่ภายในกลับซ่อนไปด้วยความอ่อนแอและอ่อนไหวทั้งสิ้น


🎤🎤🎤
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาไปสำรวจชีวิตและดนตรีของ เอลวิส เพรสลีย์ ผ่านมิติความสัมพันธ์แสนซับซ้อนกับผู้จัดการนิสัยลึกลับ ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ เรื่องราวจะเจาะลึกไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง เพรสลีย์ และปาร์คเกอร์ ตลอดเวลา 20 ปี ตั้งแต่ เพรสลีย์ เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปจนถึงตอนที่มีแฟนคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางพื้นเพเบื้องหลังของวัฒนธรรมที่กำลังพัฒนาและการสูญเสียความไร้เดียงสาในอเมริกา ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตของ เอลวิส อย่างมาก นั่นก็คือ พริสซิลลา เพรสลีย์


🎤🎤🎤
หนังบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของ ทอม ปาร์คเกอร์ ผู้ผลักดัน Elvis Presley ให้โด่งดังระดับโลกแบบที่เป็นอยู่ หนังเล่าตั้งแต่ชีวิตวัยเด็กที่มีบางสิ่งบางอย่างมาปลุกจิตวิญญาณของตัว EP ให้ก่อตัวขึ้นมาจนกลายเป็นพลังผลักดันให้เขาตามหาฝัน และเมื่อมาเจอกับคนที่มีหัวธุรกิจแบบฉลาดแกมโกงสุดๆ อย่าง ทอม ปาร์คเกอร์ ด้วย ยิ่งทำให้พลังแห่งความฝัน และพลังแห่งความหิวเงิน พากันไปได้ไกลอย่างสุดยอด


🎤🎤🎤
เราจะได้รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนทั้งเรื่องความสัมพันธ์อันดีที่คอยสนับสนุนและอยู่ด้วยกันเหมือนพ่อลูก กับความสัมพันธ์ในช่วงหลังที่เริ่มแย่ลงเพราะ ปาร์คเกอร์ เริ่มหิวเงินมากขึ้นจนทำตัวเป็นปลิงสูบเงินจนทำให้ EP หมดแม้กระทั่งพลังชีวิต ซึ่งเราจะเห็นความอ่อนแอและอ่อนไหวในตัวของศิลปินระดับโลก ซึ่งจากสองเรื่องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน 


🎤🎤🎤
มันเหมือนกับว่าศิลปินระดับโลกขนาดนี้ แทบจะทุกคนภาพลักษณ์ภายนอกอาจจะดูหรูหรา มีทั้งเงินทอง ชื่อเสียง คนล้อมรอบกายมากมาย ชีวิตที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่กลับซ่อนความอ่อนแอ ความเหงา และสิ่งที่เศร้าหมองของชีวิตไว้เยอะแยะมากมาย เหมือนกับว่าพวกคนเหล่านี้จะมีความสุขอยู่แค่เฉพาะตอนที่ได้แสดงออกในสิ่งเหล่านั้นเท่านั้น แต่เมื่ออยู่หลังฉาก มันเหมือนคนที่มีความทุกข์อยู่ตลอดเวลา และจะคอยกัดกินพลังชีวิตของคนเหล่านี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเราเห็นหลายคนแล้วที่จากไปก่อนวัยอันควร


🎤🎤🎤
สำหรับนักแสดง ก่อนหน้าที่จะเข้าไปดู ผมมีคำถามกับ Austin Butler พอสมควร เพราะเอาจริงๆ หน้าตาก็ยังไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ แล้วก็เป็นนักแสดงที่ยังถือว่าชื่อเสียงอาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ ดูจนจบแล้ว ก็ยังไม่คิดว่าเหมือน แต่กลับมีพลังบางอย่างที่ทำให้หนัง ELVIS สามารถทำให้ Austin Butler กลายเป็น Elvis Presley ไปได้จริงๆ บวกกับนักแสดงฝีมือระดับออสการ์อย่าง Tom Hank ในบทของ Tom Parker ที่เป็นตัวผลักดันหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง เพราะอย่างที่บอกว่า หนังบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของชายคนนี้ แต่ในมุมที่มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี ซึ่งเราจะได้เห็นรายะเอียดอย่างดี


🎤🎤🎤
เพลงประกอบในหนัง ก็คือเพลงของ Elvis Presley นั่นแหละ อาจจะเคยฟังผ่านหูมาแล้วเกือบทุกเพลง แต่ว่าพอมาประกอบในหนังแต่ละฉากแต่ละซีน มันยิ่งทำให้พลังของเพลงมันขับให้หนังทรงพลังขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ซึ่งหนังจะทำให้เห็นวิวัฒนาการของเพลงที่ Elvis Presley เอาความเป็น Country, Rock & Roll, Pop, และ R&B มาผสานเข้ากับแนวทางและลักษณะการแสดงของเพลงของคนผิวสี ทำให้คนในยุคนั้นที่อยู่ในยุคของการแบ่งแยกและกีดกันคนดำในอเมริกา มาฟังเพลงและชื่นชอนคนผิวขาวอย่าง Elvis ได้ทั่วประเทศ


🎤🎤🎤
ต้องบอกว่าเป็นชีวประวัติของศิลปินระดับโลกอีกเรื่องที่ทำออกมาได้อย่างสุดยอด ตลอดเวลาสองชั่วโมงครึ่งกว่าๆ หนังทรงพลังแทบจะทุกวินาที ความน่าติดตามและความเข้มข้นของหนังมีตลอดทั้งเรื่อง บวกกับเพลงเพราะๆ เหมือนดู Musical ที่ทำให้หนังมีพลังขึ้นมาอีก ถ้าเคยชอบ Bohemian Rhapsody หรือถ้าเคยสนุกกับ The Rocketman รับรองจะประทับใจกับหนังเรื่อง "ELVIS" แน่นอน

ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai