สวัสดีครับ ในที่นี้มีใครเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวบ้างเอ่ย
แต่..จะเรียกพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็ไม่น่าจะถูกนักหรอก
ในกรณีของผม น่าจะเรียกพ่อเลี้ยงคู่มากกว่า
เอ้า!! พูดจริงๆนะครับเนี่ย
น้องชายผมแต่งงานแล้วก็มี
นพล หลังจากนั้นก็กลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวตอน นพล
ได้ สิบเดือน
แล้วต่อมาก็เอาลูกมาทิ้งไว้กับย่า ผมซึ่งเป็นพี่ชาย
ก็เลย ต้องช่วยเลี้ยง
เลี้ยงไปเลี้ยงมา ผมก็โกง
ลูกเขา ผมกลายเป็นคุณพ่อเบอร์สอง ที่..บอกเลยว่า
ภูมิใจมาก
แม้จะเป็นเบอร์สอง แต่ผม
ก็รักลูกของผมมากครับ
ค่านม แพมเพิส ของเล่น
อะไรผมก็หามาให้
ตอนเข้าเรียน ค่าหนังสือ
เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์เสริมผมก็จ่ายเหมือนพ่อทั่วไป ขนาดตอน
นอน ลูกยังนอนกับผมเลย
เราอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน
นอนด้วยกัน จนนพลขึ้น
ป.3 ช่วงไหนผมว่าง ผมก็ซักผ้าให้ลูก รีดผ้าให้ ทั้งชุดนักเรียนและชุดใส่เล่น
ผมกับลูกสนิทกันมาก
จนแทบไม่มีความลับต่อกัน
ช่วงกลางคืนผมก็สอนการบ้านลูก อาจจะสงสัย
ว่าพ่อเบอร์หนึ่งทำอะไรใช่ไหมครับ พ่อจริงเค้าทำงาน
อยู่อีกจังหวัดหนึ่งครับ
เสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็วันหยุด ถึงจะกลับมาหาลูก
แต่ผม..ทำงานไปเช้าเย็น
กลับ ก็เลยได้อยู่กับลูกทุกวัน เวลาอยากได้อะไร ลูกก็ขอผม (ทุกวันนี้ก็ยังเป็น
อย่างนั้น)
จน..นพลขึ้นชั้นป.2
แกก็มาบอกกับผมว่า
"พ่อหมาน้อย หนูอยากได้
ผ้าเช็ดหน้าแบบของพ่อมั่ง
เวลาเป็นหวัด หนูจะได้ไม่ลำบาก"
"พ่อว่า ทิชชู่ใช้ง่ายกว่ามั้ย
ลูก ไม่ต้องซักด้วย"
"หึ..หนูชอบผ้าเช็ดหน้า"
"โอเค..ไว้พ่อจะซื้อมาให้"
แค่ผ้าเช็ดหน้าไม่กี่ผืน ก็ไม่น่าจะมีอะไีรใช่ไหมครับ
ถ้าวันหนึ่งตาพ่อ(จริงๆ)
จะไม่กลับมาบ้านและอาสาจะซักผ้าให้ลูกเอง
ปกติผมจะสอนให้นพลรู้จัก
ล้างจาน ซักผ้า(ของตัวเอง)
หุงข้าว ทอดไข่ เพื่อที่จะ
ดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
แต่บางครั้งผมก็ซักให้(ถ้าว่าง)
ผมได้ยินเสียงรื้อค้นโน่นนี่
พร้อมเสียงบ่น ลูกจริงกับ
พ่อปลอมเป็นระยะ ค่าที่ลูก
จริงใส่เสื้อผ้าเลอะมากและ
พ่อปลอมตามใจลูกเกินไป
สักประเดี๋ยวเดียวเจ้าเขี้ยว
(ชื่อเล่นน้อง)ก็ใช้สองนิ้ว'คีบ' ของสิ่งหนึ่งมายื่น
ให้ผมดู
'ผ้าเช็ดหน้า' ผมมองหน้าน้อง งงๆแต่ก็รับผ้ามา
"อิหยังของเอ็งวะ เอามาให้พี่ทำไม"
"ก็ลองคลี่ออกดูสิ"
หืม..ทำมีลับลมคมใน
และ เมื่อเปิดผอบ(ผ้าเช็ดหน้านั่นแหละ)
นอกจากจะไม่พบนางโมรา
แล้ว ผมกลับพบตัวหนังสือ
ยึกๆยือๆราวภาษาขอม
มีใจความว่า
'คีมรักนพลและไผ่'
โอ้..เธอจะรู้ไหมว่า'คีม'เค้าไม่ได้เขียนแบบนี้
แต่..อะไรนะ รักนพลและ
ไผ่เหรอ เออ..ให้มันได้อย่างนี้สิ เยาวรุ่นของชาติ
รักซ้อนแบบจะๆไม่พอ
ยังอุตส่าห์แอบเอาผ้าเช็ดหน้าเขาไปเขียน
ความในใจแทนกระดาษด้วย
งานนี้ตอนเย็นต้องมีคนถูกซักฟอกจนตัวขาวหนึ่ง
อัตราแน่ แต่ตอนนี้..
ยาหอม ยาลม ยาอม ยาหม่องผมอยู่ไหนเนี่ย บู๋ย..
พ่อจะเป็นลม
*ขอนินทาลูกชายสุดที่รัก
สักนิดเถอะครับ ทำหัวบันไดบ้านผมไม่แห้งมาหลายปีละ..แหม..หล่อเลือกได้เหลือเกิ๊น*
...ผ้าเช็ดหน้า (โครงการ ชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง)
แต่..จะเรียกพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็ไม่น่าจะถูกนักหรอก
ในกรณีของผม น่าจะเรียกพ่อเลี้ยงคู่มากกว่า
เอ้า!! พูดจริงๆนะครับเนี่ย
น้องชายผมแต่งงานแล้วก็มี
นพล หลังจากนั้นก็กลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวตอน นพล
ได้ สิบเดือน
แล้วต่อมาก็เอาลูกมาทิ้งไว้กับย่า ผมซึ่งเป็นพี่ชาย
ก็เลย ต้องช่วยเลี้ยง
เลี้ยงไปเลี้ยงมา ผมก็โกง
ลูกเขา ผมกลายเป็นคุณพ่อเบอร์สอง ที่..บอกเลยว่า
ภูมิใจมาก
แม้จะเป็นเบอร์สอง แต่ผม
ก็รักลูกของผมมากครับ
ค่านม แพมเพิส ของเล่น
อะไรผมก็หามาให้
ตอนเข้าเรียน ค่าหนังสือ
เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์เสริมผมก็จ่ายเหมือนพ่อทั่วไป ขนาดตอน
นอน ลูกยังนอนกับผมเลย
เราอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน
นอนด้วยกัน จนนพลขึ้น
ป.3 ช่วงไหนผมว่าง ผมก็ซักผ้าให้ลูก รีดผ้าให้ ทั้งชุดนักเรียนและชุดใส่เล่น
ผมกับลูกสนิทกันมาก
จนแทบไม่มีความลับต่อกัน
ช่วงกลางคืนผมก็สอนการบ้านลูก อาจจะสงสัย
ว่าพ่อเบอร์หนึ่งทำอะไรใช่ไหมครับ พ่อจริงเค้าทำงาน
อยู่อีกจังหวัดหนึ่งครับ
เสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็วันหยุด ถึงจะกลับมาหาลูก
แต่ผม..ทำงานไปเช้าเย็น
กลับ ก็เลยได้อยู่กับลูกทุกวัน เวลาอยากได้อะไร ลูกก็ขอผม (ทุกวันนี้ก็ยังเป็น
อย่างนั้น)
จน..นพลขึ้นชั้นป.2
แกก็มาบอกกับผมว่า
"พ่อหมาน้อย หนูอยากได้
ผ้าเช็ดหน้าแบบของพ่อมั่ง
เวลาเป็นหวัด หนูจะได้ไม่ลำบาก"
"พ่อว่า ทิชชู่ใช้ง่ายกว่ามั้ย
ลูก ไม่ต้องซักด้วย"
"หึ..หนูชอบผ้าเช็ดหน้า"
"โอเค..ไว้พ่อจะซื้อมาให้"
แค่ผ้าเช็ดหน้าไม่กี่ผืน ก็ไม่น่าจะมีอะไีรใช่ไหมครับ
ถ้าวันหนึ่งตาพ่อ(จริงๆ)
จะไม่กลับมาบ้านและอาสาจะซักผ้าให้ลูกเอง
ปกติผมจะสอนให้นพลรู้จัก
ล้างจาน ซักผ้า(ของตัวเอง)
หุงข้าว ทอดไข่ เพื่อที่จะ
ดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
แต่บางครั้งผมก็ซักให้(ถ้าว่าง)
ผมได้ยินเสียงรื้อค้นโน่นนี่
พร้อมเสียงบ่น ลูกจริงกับ
พ่อปลอมเป็นระยะ ค่าที่ลูก
จริงใส่เสื้อผ้าเลอะมากและ
พ่อปลอมตามใจลูกเกินไป
สักประเดี๋ยวเดียวเจ้าเขี้ยว
(ชื่อเล่นน้อง)ก็ใช้สองนิ้ว'คีบ' ของสิ่งหนึ่งมายื่น
ให้ผมดู
'ผ้าเช็ดหน้า' ผมมองหน้าน้อง งงๆแต่ก็รับผ้ามา
"อิหยังของเอ็งวะ เอามาให้พี่ทำไม"
"ก็ลองคลี่ออกดูสิ"
หืม..ทำมีลับลมคมใน
และ เมื่อเปิดผอบ(ผ้าเช็ดหน้านั่นแหละ)
นอกจากจะไม่พบนางโมรา
แล้ว ผมกลับพบตัวหนังสือ
ยึกๆยือๆราวภาษาขอม
มีใจความว่า
'คีมรักนพลและไผ่'
โอ้..เธอจะรู้ไหมว่า'คีม'เค้าไม่ได้เขียนแบบนี้
แต่..อะไรนะ รักนพลและ
ไผ่เหรอ เออ..ให้มันได้อย่างนี้สิ เยาวรุ่นของชาติ
รักซ้อนแบบจะๆไม่พอ
ยังอุตส่าห์แอบเอาผ้าเช็ดหน้าเขาไปเขียน
ความในใจแทนกระดาษด้วย
งานนี้ตอนเย็นต้องมีคนถูกซักฟอกจนตัวขาวหนึ่ง
อัตราแน่ แต่ตอนนี้..
ยาหอม ยาลม ยาอม ยาหม่องผมอยู่ไหนเนี่ย บู๋ย..
พ่อจะเป็นลม
*ขอนินทาลูกชายสุดที่รัก
สักนิดเถอะครับ ทำหัวบันไดบ้านผมไม่แห้งมาหลายปีละ..แหม..หล่อเลือกได้เหลือเกิ๊น*