เหตุผลที่ออกช้าเพราะหลังจากนี้ผมแปลประโยคพูดทั้งหมดจากคนแปลอิ้งนะครับ
ลิ้งมังงะจากผู้แปลเกาหลีเป็นอิ้ง
https://cubari.moe/read/imgur/VDltF7k/
สำหรับกลยุทธ์ที่หวนฉีใช้อยู่นั้น ผมจะหยิบยกมาพูดกันในวันพรุ่งนี้(ซึ่งแน่นอนว่ามีสปอย อนาคตตามปวศ.ว่า หวนฉีจะไปแห่งหนใดต่อ) ก่อนโพสรีวิวเมะตอนที่ 12(ในกลุ่ม FB ไทยนะครับ) นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทัพหวนฉี:
-เฮยอิงโอดครวญขึ้นว่า:
--"มารดามันเถอะ ทั้งไอ้เฟยซิ่นซิ่นกับเล่อหัวดันออกไปซะได้ ที่พอจะคุ้มกันทัพหลักก็มีแค่ทัพปี้กับเฟิ่งฝาน*จากทัพพายับเสียนี่"
*เฟิ่งฝาน 風范(ครั้งก่อนผมเรียกเฟิ่งอี้)เป็นแม่ทัพนำซากทัพพายับซึ่งเดิม เฉาปู้ก๋วง曹波広(แซ่เดียวกับ โจโฉ แต่แม่ทัพคนนี้เป็นตัวละครสมมติ ครั้งก่อนผมเรียกเป็นโจปังหวัง)เห็นคนนำทัพแต่ก็ถูกสังหารลง
-ทหารของนางก็กล่าวว่าทัพปี้แตกผ่ายแล้ว
-ทางด้านหลุนอวี้ ทหารของเขาได้ถามขึ้นว่า แม้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้แล้ว แต่ทำไมหัวหน้า(หวนฉี)กลับมิพยายามก่อการอันใดเลย
จ้าว:
-ทหารข้างกายหลี่มู่ต่างถามเขาว่าอันคือจุดอุ่นของหวนฉี ในขนะที่หลี่มู่เฝ่ามองทัพจ้าวยังคงตั้งมั่นทำการเบื้องหน้าตนในการปิดล้อมเพื่อสังหารหวนฉี
ฉิน:
-ทางด้านแนวหน้าทัพปี้
-ทหารของเขาได้รายงานขึ้นว่า
--"จะยื้อไว้ได้อีกไม่นานแล้วนะขอรับ ทุกหน่วยกอง ทุกๆด้าน ต่างพากันย่อยยับไปแล้ว เราก็จะพินาศสิ้นขืนยังกระทำการต่อ"
-ปี้ก็กลุ่มใจที่ได้ยินเช่นนั้น
-แล้วเหล่าทหารของปี้ต่างเอ่ยกับเขา
-"พอเถอะขอรับ เฟยซิ่นกับเล่อหัวหนีไปได้แล้ว"
-"เราเองก็ควรจะทำงั้นเช่นกัน..."
-"ใต้เท้าปี้"
-ปี้ก็กล่าวคัดค้านขึ้น:
--"มิได้เป็นอันขาด นั้นเป็นอะไรที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบอย่างยิ่ง เราจักทำหน้าที่อันเป็นกิตติศักดิ์ในฐานะแนวหน้ากองกลางจนถึงที่สุด"
ทหารของปี้ก็มองดูด้วยความกังวล
-ชาวเผ่าหน่าเจี่ยเหรินก็กล่าวขึ้นว่า:
--"เขา(ปี้)เป็นคนที่เถรตรงเกินไป"
-หัวหน้าเผ่า:
--"ไม่ มิใช่เช่นนั้นดอก"
-ชาวเผ่าหน่าเจี่ยเหริน:
--"ท่านหัวหน้าเผ่า"
-หัวหน้าเผ่า:
--"แม่ทัพปี้พยายามซื้อเวลาให้กับหวนฉี โดยไม่คิดถึงความเป็นตายร้ายดีที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ"
--"ก็เพราะไอการยืดมั่นในหน้าที่ตน หากไร้ซึ่งคนเฉกเช่นเขาแล้ว ทัพขนาดใหญ่นี้มีหวังได้วินาศสันตโรโดยพลัน แม้เขาจะมีด้านที่งุ่มง่าม ทว่าแม่ทัพปี้ก็เป็นผู้บังคับบัญชาที่น่าเชื่อถือและโดดเด่น ซึ่งมีค่าเกินกว่าจะตายได้"
-ชาวเผ่าหน่าเจี่ยเหริน:
--"แต่ทัพนี้จะบรรลัยสิ้นมิช้าก็เร็วแล้วนะขอรับ"
-หัวหน้าเผ่า:
--"นั้นแหละ ว่าใยเราจึงต้องปกป้อง หากเรามิทำจะจุดเป็นด่างพร้อยในฐานะหัวหน้าเผ่าหน่าเจี้ยเหรินเป็นแน่"
-แล้วทัพชาวเผ่าหน่าเจียเหรินก็เข้าโรมรันพันตูเพื่อคุ้มกันปี้
-ทางด้านกองบก.ของหวนฉี พวกเขาสังเกตุเห็นว่าทัพจ้าวทลายทัพปี้และกำลังเข้ามาใกล้
-หมอหลุนหันกลับไปหาหวนฉีอ้อนวอนให้เขาลงมือก่อการบางอย่างเสียที เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดสติแตกหากยังพวกเขายังมัวนิ่งอยู่อย่างงี้
-หวนฉีจึงเอ่ยว่า:
--"มิเห็นเป็นไรนี่ ก็ส่งไอพวกซากทัพพายับที่เหลือตรงด้านขวาไปข้างหน้าเซ้"
หมอหลุนและพวกถึงกับอึ้งไปครู่นึง แล้วหมอหลุนก็ออกอาการโวยวายทันที
จ้าว:
-แม่ทัพประจำกายหลี่มู่ต่างเฝ่ามองทัพหวนฉีอย่างใจจดใจจ่อพลางกล่าวกันว่า
--"แนวหน้ากองกลางของข้าศึกแตกแล้ว ตอนนี้เราสามารถร่วมการโจมตีจากด้านหน้าได้แล้วเช่นกัน"
--"แต่ทัพหลักของหวนฉียังมิแสดงทีท่าว่าจะเคลื่อนไหวอันใดเลย"
--"ทำไมมันจึงไม่ทำการตอบสนองอันใดกันเล่า"
--"บะ-บางทีเจ้านั้นคงจะมีแผนการอะไรสักอย่าง...!?"
-หลี่มู่ก็ขัดพวกเขาขึ้นว่า:
--"ไม่หรอก เจ้านั้นไม่มีทางเคลื่อนไหวไรได้ แม้ว่ามันต้องการ นั่นหละหวนฉี ข้าต้องขออภัยแด่พวกท่านด้วย"
-จากนั้นหลี่มู่ก็ได้เล่าถึงเรื่องราวของตัวหวนฉี :
--"แรกเริ่มหวนฉีนั้นกลายเป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วจงหยวน เมื่อ 9 ปีก่อน ช่วงยุทธการณ์ซานหยาง ในฐานะหนึ่งในรองแม่ทัพของเหมิงอ่าว"
แม่ทัพใกล้ชิด:
"จะ-จริงสิ คู่ต่อสู้ในครานั้นเป็นถึงท่านเหลียนผอ อดีตสามแม่ทัพสวรรค์ และ 4 จตุรเทพของเขา"
-หลี่มู่เล่าต่ออีกว่า:
--"ในศึกนั้น หวนฉีถือโอกาสที่เจี่ยจื่อฟางโจมตีฐานทัพของมัน ส่วนมันได้แอบบุกเข้าไปยังฐานหลักของสวนเฟิงและตัดหัวของเขามาได้"
--"ปีให้หลัง คราศึกระหว่างทัพสัมพันธมิตร หวนฉีที่ทำหน้าที่พิทักษ์ด่านหานกู่ ลงมายังพื้นด้านล่างอันเต็มไปด้วยนานาข้าศึกและสังหารเฉิงหุย จอมทัพหานลงได้(ซึ่งจริงๆตายด้วยมือจางถัง)"
--"ต่อมาชัยภูมิเนินเฮยหยาง ที่ซึ่งมันได้เป็นผู้นำศึกเข้าสู้กับทัพร่วมซิ่งเส่อและจี่ฮุ่ย ถึงแม้จะเป็นศึกแย่งชิงเนินเขากันก็ตาม เจ้านั้นยึดเนินเขาและชนะศึกโดยมิได้สู้รบอะไรกับคนเหล่านั้นมากนัก"
--"และในศึกครั้งล่าสุดที่สู้กับฮูเฉ่อ เมื่อเผชิญหน้ากับทัพฮูเฉ่อซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามันหลายเท่าและ(หวนฉี)ใกล้จะปราชัย...."
--"เป็นอีกครั้งที่สามารถประสบผลสำเร็จในการโจมตีกองบก.ของฮูเจ่อดุจสายฟ้าแล็บเพื่อสังหารเขา แล้วพลิกกระดานศึกเป็นฝ่ายชนะ"
-จากนั้นหลี่มู่ก็กล่าวต่อว่า:
--"ทั้งหมดเป็นหนึ่งในวิธีการของมันไปสู่ชัยนะ ทั้งสี่มหาศึกเหล่านั้น"
-เหล่าแม่ทัพจ้าวก็อึ้งกันไปครู่นึงจนเอ่ยถามอนุมานขึ้นว่า
--"งั้นที่ท่านกำลังหมายถึงคือ ความคิดอ่านของมันในการชนะศึกได้ด้วยกับการ [จู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว] และ [กลยุทธ์นอกตำรา] หรือขอรับ"
-หลี่มู่ตอบว่าใช่และกล่าวต่ออีกว่า
--"และนั้นก็ยังบ่งบอกอีกด้วยว่า เจ้านั้น(หวนฉี)มิมีชัยชนะไหนเลย ซึ่งมันเอาชนะพวกเขาด้วยกับกลยุทธ์วิธีพื้นๆ"
-เหล่าแม่ทัพต่างก็งุนงงไปตามๆกัน แล้วก็ได้กล่าวทัดทานกลับไปว่า
--"นั่นเป็นเพราะเจ้านั้นต้องเอาชนะด้วยกับจำนวนที่ด้อยกว่าเป็นแน่ขอรับ"
--"อย่างศึกกับทัพท่านฮูเจ่อเอง ก็เริ่มด้วยกับความต่างของกำลังรี้พลอย่างมหาศาล"
หลี่มู่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า
--"นั้นก็จริงอยู่ แต่ทว่า ศึกเฮยหยางนั้นต่างกันออกไป"
--"เพราะข้าได้แอบสอดส่องสถานการณ์จากระยะไกล มีอยู่ช่วงนึงที่ข้าได้ตั้งคำถามขึ้นถึงวิธีการทำศึกของหวนฉี"
--"สามวันหลังจากการปะทุของศึกนั้น หน่วยเฟยซิ่นอันเป็นปีกขวาทำการผลักดันปีกซ้ายของจ้าวได้ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะแก่ทัพหวนฉีที่จะร่วมกำลังจู่โจมด้านขวาและด้านหน้า ตรงดิ่งไปยังเนินอันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ"
--"ก็เหมือนกับครานี้ หวนฉียังคงนิ่งเฉยและปล่อยผ่านโอกาสอันดีนั้นไป"
-เหล่าแม่ทัพจึงตัดตอนขึ้นว่า:
--"ตะ-แต่กระนั้น พวกเขาต่างเอ่ยว่าการทำเช่นนั้นถึงกับทำให้ท่านซิ่งเล่อคลุ้มคลั่ง และเป็นกระแสส่งผลให้ท่านซิ่งเล่อถึงกลับลงมาจากเนินเขาแล้วพ่ายแพ้ในที่สุด"
--"ดังนั้นหวนฉีจึง..."
หลี่มู่จึงตอบอย่างทันท่วงทีว่า
--"แต่นั้นเป็นเพียงข้อพิสูจน์ตามผลลัพธ์เท่านั้น"
--"หากซิ่งเส่อไม่เดือดดาลและสริมการป้องกันเนินเขาโดยทันที ทัพจ้าวคงจะชนะศึกไปแล้ว"
--"มิสำคัญว่าจักคิดการเช่นไร สิ่งเดียวที่พึงจะทำคือการเสี่ยงผนึกกำลังบุกตีเนินเขาโดยพลัน"
--"แต่เจ้านั้น(หวนฉี)กลับเฉยเมยมิลงมือทำอันใด"
--"เหตุผลก์คือ เจ้านั้นมันรู้ว่าจะเกิดอันใดขึ้น แต่มิรู้ว่าจะโจมตีทำการใดต่อสถานการณ์ที่เฟยซิ่นนำพามา"
-เหล่าแม่ทัพจ้าวต่างตกตะลึงกับเหตุผลเช่นนั้น
-หลี่มู่จึงยังกล่าวต่ออีกว่า
--"หากพวกท่านพินิจแบบไม่รวมการรบทั้งสี่นั้นด้วยแล้ว"
--"ไม่มีเลยสักครั้งที่หวนฉีจะเอาชนะด้วยกับกลศึกวิธีแบบพื้นๆ"
--"ซึ่งนั้นนะมิใช่เลย แท้จริงหวนฉีนั้นแต่เดิมเป็นโจรป่าที่เปลี่ยนมาเป็นผู้บัญชาการ ทันทีที่กลายมาเป็นแขนขา(รองแม่ทัพ)ของเหมิงอ่าว และปรากฎตัวยังสนามรบโดยมิได้ผ่านการร่ำเรียนกลยุทธ์พื้นฐานเลย"
--"เจ้านั้นปิดฉากการต่อสู้เรื่อยมาโดยใช้แค่พรสวรรค์ของตนล้วนๆ"
--"จริงอยู่ที่หวนฉีเป็น "อัฺจฉริยะ" ด้านการคาดการณ์และจิทวิทยาโดยแท้"
--"เจ้านั้นมันเป็น [สัตว์ประหลาด] และซิ่งเส่อก็มิรู้ว่าตนจักพ่ายแพ้ "
--"แต่สิ่งที่หวนฉีปิดปังไว้ดิบดีภายใต้ฤทธิ์เดชและสงความจิตวิทยาอันน่าทึ่งนั้น นั้นล่ะคือ[จุดอ่อน]ขนานใหญ๋ของหวนฉีผู้ซึ่งไม่รู้วิธีการอื่นเหนือจากตำราพิชัยยุทธ์เลย"
-เหล่าแม่ทัพต่างก็ตกตะลึงที่ได้ยินเช่นนั้น
-หลี่มู่จึงยังกล่าวต่อไปว่า:
--"นั้นล่ะว่าไฉนหวนฉีจึงมิเคลื่อนไหวอันใดเลย ณ สถานการณ์เช่นนี้"
--"ในสถาวะที่ถูกปิดล้อม โดยไร้ซึ่งภูมิประเทศเฉพาะการและการมิสามารถใช้กลยุทธ์นอกตำราได้"
--"มันจึงมิรู้ว่าจักต้องทำอันใด"
--"สิ่งที่เราพึงต้องระวัง คือการไม่เคลื่อนไหวเอิกเกริกจนเกินไป"
--"ฮูเจ่อนั้น เกือบได้รับชัยชนะ แต่กลับเคลื่อนทัพของตนไปด้านหน้าไกลเกิน และผลที่ได้ก็เป็นความปราชัย"
-แม่ทัพจ้าว:
--"ถ้างั้น...นั้นจึงเป็นเหตุว่าใยท่านหลี่มู่จึงยังมิใช้งานพวกทัพที่แกร่งกล้าแบบหม่าหนานฉือและคนอื่น(ซุ่ยซุ่ยจู้, ฮูไป๋กง และฟูตี้)สินะขอรับ"
หลี่มู่จึงกล่าวว่า:
-"เราจักบั่นถอนกำลังทหารของมันเรื่อยๆ ด้วยสรรพกำลังที่เหนือกว่าฉะนี้ และเราจักปลิดชีพหวนฉีที่ไม่สามารถไหวติงได้"
ฉิน:
-เมื่อทัพจ้าวเริ่มเข้ามาใกล้ยังทัพหลักของหวนฉี เหล่าผู้ช่วยของหมอหลุนต่างรายงานกันว่า
--"ท่านหมอหลุน ทัพเฟิ่งฝานแตกแล้ว"
--"ด้านเองก็เช่นกัน"
--"ทัพขนาดใหญ่กำลังลุกล้ำเข้ามาจากด้านขวาและด้านหน้าแล้ว"
-หมอลุน
--"เออ ข้ารู้ ข้าแล้วน่า ทว่าหัวหน้าเขา..."
-หมอหลุนสังเกตุเห็นหวนฉีแหงนมองฟ้า แล้วเขาก็พลางคิดในใจว่า
--"ก็มิทำอันใด สงสัยคงจะไปเฝ้าเง็กเซียนแล้วละมั้ง..." (555+ ตรงนี้มันบอกว่า "ตาย" ในอิ้งนะครับ แต่เพื่อให้เข้ากับบริบทด้านความเชื่อชาวจีนสมัยก่อน จึงใช้ "เง็กเซียน" แทน)
-ทันใดนั้นหวนฉีก็แสยะยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า
--"หมอหลุน ถ่ายทอดคำสั่ง"
-หมอหลุนก็ถามไปด้วยความงุนงง:
--"ไรนะ!? คำสั่งงั้นรึ หะ-ให้ใครกันล่ะ"
-หวนฉีจึงตอบว่า:
--"ไปยังพวกหัวๆของแต่ละตระกูลในทัพหวนฉีนี้ ส่งคำสั่งไปให้มันทุกๆตัว"
-หมอหลุนและคนของเขาก็ประหลาดใจที่อยู่ๆ หวนฉีก็ออกคำสั่งหลังจากนิ่งเฉยอยู่นาน
จ้าว:
-จากนั้นเขา(หลี่มู่)ก็สังเกตุเห็นทัพทัพหวนฉีนั้นเริ่มจัดกระบวนทัพไปยังตำแหน่งที่ตนได้รับมอบหมายโดยหวนฉี ในขณะที่ตระโกนกันไปมาให้รีบเร่งและทำให้ถูกที่ (ในภาพประกอบได้แก่ ตระกูลหย่งหลี่(永力) ตระกูลล่วนฉู(卵樹) ตระกูลซิน(辛々) และตระกูลเหมียน(免))
-เหล่าแม่ทัพจ้าวข้างกายหลี่มู่ก็เห็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่อาจทราบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
-แม่ทัพข้างกายหลี่มู่:
--"พวกมันกำลังแปรขบวนทัพงั้นรึ...?"
--"พวกมันกำลังสร้างกระบวนรบอย่างงั้นรึ...!?"
-พวกเขาได้ตระหนักว่า ทหารของหวนฉีนั้น กำลังวางกำลังตัวเองตั้งรูปกระบวน
ฉิน:
-ทางด้านกองบก.หวนฉี
-ผู้ช่วยหมอหลุน 1:
--"ตระกูลเชียนตั่ว(弦多) ประจำตำแหน่ง. ด้านซ้ายตั้งรูปขบวนเสร็จแล้ว"
-ผู้ช่วยหมอหลุน 2:
--"ด้านขวากำลังเสร็จสิ้นในไม่ช้า ตระกูลหลงเหมิน(龍門) ดูจะตั้งรูปขบวนเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์แล้ว"
-ผู้ช่วยหมอหลุน 3:
--"วะ-ว่าแต่ว่า ท่านหมอหลุน นะ-นี่มันอะไรกัน?
หมอหลุน: "ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน…"
จ้าว:
แม่ทัพจ้าว ณ กองบก.
-"มันคือกระบวนรบ"
-"หวนฉีกำลังแปรกระบวนรบเป็นแน่"
-"ตะ-แต่ว่า"
-"อะ-ไอรูปแบบนั้นมันยังไงกัน!?"
-"ข้าไม่ยักกะเคยได้ยินรูปกระบวนทัพเช่นนี้เลย!!"
หลี่มู่และแม่ทัพข้างกายต่างได้ประจักษ์ชัดถึงการใช้กลยุทธ์บางอย่างของหวนฉี
แต่ก็มิอาจทราบได้ว่ามันคืออะไร เนื่องจากพวกเขามิเคยเห็นหรือเคยได้ยินรูปแบบค่ายกลรูปแบบที่หวนฉีวางไว้เช่นนี้กันมาก่อน
สัปดาห์หน้ามีต่อ!
Spoil KINGDOM 724 แปลเป็นไทยจากคนแปลอิ้งแบบงูๆปลาๆ
ลิ้งมังงะจากผู้แปลเกาหลีเป็นอิ้ง https://cubari.moe/read/imgur/VDltF7k/
สำหรับกลยุทธ์ที่หวนฉีใช้อยู่นั้น ผมจะหยิบยกมาพูดกันในวันพรุ่งนี้(ซึ่งแน่นอนว่ามีสปอย อนาคตตามปวศ.ว่า หวนฉีจะไปแห่งหนใดต่อ) ก่อนโพสรีวิวเมะตอนที่ 12(ในกลุ่ม FB ไทยนะครับ) นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้