สภาพจิตใจไม่คงที่

สวัสดี​ครับ​ ผมใช้เวลาอยู่นานก่อนตั้งกระทู้นี้ พยายามปรับความคิดตัวเอง เตือนตัวเอง พยายามมองบวกคิดบวกมาพอสมควรเเล้ว แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น

คือผมไม่มีเป้าหมาย หมดแพสชั่นในการมีชีวิตอยู่ต่อครับ เเต่ผมก็ไม่คิดสั้นหรอกนะครับ พยายามดึงสติตัวเองตลอด พ่อแม่ผมเสียชีวิตเเล้ว เเม่จากไปตอนผม 19 ปี อีกปีครึ่งพ่อก็จากไปครับ หลังจากนั้นผมก็เคว้งเลย รับภาระหนี้สิน เรียนก็ยังไม่จบ เสียใจ ผิดหวัง มันเสียใจมากจนมันร้องไห้ไม่ออก ชีวิตช่วงก่อนพ่อเสียมันวุ่นวายมาก พอไม่มีพ่อแล้วจริงๆมันก็เสียใจ นั่งคิดคนเดียวตลอดว่า พ่อแม่กูตายจริงๆแล้วหรอ  กูอยู่ตัวคนเดียวจริงๆหรอ มันเหมือนฝัน ความเสียใจไม่เคยหายไปเลย แต่ผมก็พยายามมีชีวิตต่อไปอย่างไม่เป็นภาระสังคม ออกจากบ้านที่ต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพ แล้วจากนั้นชีวิตก็มีเเต่ทำงาน เก็บเงิน แต่โคตรเหงา ชีวิตวนลูป ทำงาน กลับห้อง นอน ทำงาน กลับห้อง นอน อยู่อย่างนี้หลายเดือน บางคืนนอนหลับยาก ก็พึ่งพาแอลกอฮอล์​วันละช็อตให้มันหลับ ในฝันมันหดหู่ คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ สะดุ้งตื่น ผวาแทบทุกคืน จากเด็กบ้านนอกตื่นพร้อมเสียงไก่ขัน พร้อมเสียงนกเสียงไม้ ต้องมานอนห้องสี่เหลี่ยม วันๆไม่ได้คุยกับใคร ที่ทำงานก็มีเเต่คุยงานกับเจ้านายกับลูกค้า โคตรเหงา เพื่อนไม่ค่อยมี ญาติก็ไม่มีใครจะรักจะห่วงเราขนาดนั้น นั่นเเหละครับ ใช้ชีวิตแบบดันทุรัง เหงาๆไปวันๆ ทุกข์​ทรมานอยู่ในใจไม่รู้ทำเพื่อใคร จนมาวันนึง...

พี่ที่เคยรู้จักกัน เคยคุยกันบ้างในฐานะพี่น้อง เขาเริ่มติดต่อมาหาผม เขาได้ยินข่าวพ่อผมเสีย เขาก็รับรู้ว่าผมเสียแม่ไปก่อนแล้ว เขาก็คงประทับใจ สงสาร เห็นอะไรบางอย่างในตัวผม ก็เริ่มมาคุยกัน จนได้คบกันจริงจัง จิตใจผมเหมือนจะดีขึ้น ไม่เหงา มีเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว แนวเดียวกัน คุยกันถูกคอ มันอบอุ่นขึ้นจากที่ผมเคว้งๆคนเดียว จากจิตใจที่ล่องลอยไม่มีหลัก พอมีความรัก มันก็เจอหลักให้เกาะ เจอที่พักพิงใจให้ความมั่นคงทางอารมณ์​เราได้ พอใจมันอยู่กับเขา ผมก็ลาออกจากงานเดิม กลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับเขา ว่างงานอยู่หลายเดือน แต่สภาพ​จิตใจดีขึ้นมาก มีความสุข หลังจากที่ไม่มีนานมากตั้งเเต่เเม่จากไป แล้วผมก็เริ่มหาอาชีพที่จะอยู่กับเเฟนได้ ก็จับพลัดจับผลูได้เป็นพ่อค้าขายของ รายได้ดี อิสระ ก็ทำอยู่ 2 ปี แต่ระหว่างนั้นผมก็สอบข้าราชการ​บ้าง แต่ไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่เลย หนังสือไม่อ่าน เพราะใจมันไม่อยากห่างเเฟน มันกลัวไปทุกอย่าง กลัวการนอกใจ กลัวการหึงหวง บอกตรงๆว่าผมไม่พร้อมจะสูญเสีย​อะไรอีกแล้ว ใจมันกำลังดี สรุปก็สอบไม่ติด ก็ขายของต่อไป แต่ตั้งเเต่คบกับแฟนตั้งเเต่เเรก ผมก็ยังคงนอนผวาเหมือนเคยนะ เป็นไข้ไม่สบายคืนไหนก็ยังละเมอหาเเม่อยู่ ในจิตใต้สำนึกยังคงมีเสียใจเรื่องพ่อแม่อยู่ ในห้วงความคิดก็ยังมีคำถามเหมือนเดิมว่า พ่อแม่กูตายจากกูไปจริงๆหรอ คือนิสัยส่วนตัวผมเป็นคนจมปลักกับอดีตมาก ผมรักแม่มาก เรียนเพื่อแม่ แม่ให้ทำอะไรทำ ให้เป็นอะไรเป็น ครอบครัวอบอุ่นมาตลอด มีพ่อ มีเเม่ พอแม่จากไปผมก็เสียหลักพอสมควร แต่ก็ต้องเข้มเเข็งดูแลพ่อต่อ มันเหมือนเสียใจมาก แต่ต้องกลั้นเอาไว้ พอพ่อจากไปก็ซ้ำเติมแผลในใจไปอีก มันเลยมูฟออนจากความลำบากในช่วงนั้นไม่ได้ ความเสียใจที่เกิดขึ้น การถูกปฏิเสธความช่วยเหลือ การต่อสู้ลำพัง เหมือนฝันร้ายที่ไม่เคยคลี่คลายในใจ ต่อให้ผมมีความสุขกับแฟน มันก็ดีนะ เหมือนเข้มเเข็งขึ้น เหมือนใจได้รับความรักและได้มอบความรักให้คนอื่นอีกครั้ง แต่ฝันร้ายความพะวงก็มีอยู่ในใจตลอดมา

ก็อย่างว่าครับ ผมไม่มีใคร มีเเต่เเฟน เขาช่วยเหลือ เกื้อกูล รัก ห่วงใยผม ผมก็ให้ใจเขาไป รักแบบสนิทใจ เขาเป็นเหมือนครอบครัวเดียวที่มีของผม เราก็ใช้ชีวิตด้วยกันมา ตั้งเเต่เริ่มคบ จนได้ 5 ปีกว่า ใช้ชีวิตด้วยกัน อยู่บ้านด้วยกัน 95% ไม่เจอกันเเค่กลางวัน ต่างคนต่างทำงาน ไม่มีช่วงไหนที่ห่างกันนานเลย แต่ก็คงด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมเป็นลูกกำพร้า พ่อแม่ทิ้งภาระหนี้สินไว้ การจะเติบโตก้าวหน้ามั่งมี มันช้ากว่าคนอื่น ช่วงโควิดเข้ามา ผมก็ไม่มีรายได้ เราก็มีปัญหา​เรื่องค่าใช้จ่ายกันบ้าง แต่ก็ผ่านกันมาได้ จนผมได้ทำงานกับหน่วยงานหนึ่ง ก็ทุ่มเทกับงาน กับเพื่อนร่วมงานมากไป อาจจะละเลย เธอคงไม่เคยเจอผมในเวอร์ชั่น​นี้ เพราะผมติดเธอมาตลอดที่คบกัน ไม่มีเพื่อน ไม่สนใคร เธอก็เป็นคนที่พอมีปัญหา​ไม่พูดกับผม แต่จะเเสดงออกแบบอื่นแทน ไม่รู้ยังไงเธอก็มีคนอื่นจนได้ ผมก็เข้าใจนะ เข้าใจบริบท​ของชีวิตผม มันเหนื่อยที่อยู่กับผม เธอคงเบื่อ คงเอือมระอาอะไรหลายอย่าง แต่บอกไว้ก่อนผมไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลย ไม่มีเรื่องผู้หญิง ไม่มีเรื่องที่นิสัยไม่ดี ผมจะปรับตัว ปรับอะไรได้ทุกอย่างเพื่อให้คนสองคนอยู่ด้วยกันได้นานที่สุด แต่ก็นั่นเเหละครับ สุดท้ายเธอก็จากผมไป ผมยิ่งกว่าเคว้งเลย เคยมีคนนอนด้วยต้องนอนคนเดียว บ้านที่เคยมีสีสัน วันนี้มันหม่นหมอง ตั้งเเต่เธอไปจนถึงวันนี้ 6 เดือนกว่าเเล้ว แรกๆผมเหมือนเก่ง ด้วยอารมณ์​โกรธแค้น อีโก้ แอค ผมเหมือนอยู่ได้ ไม่เเคร์ แต่ยิ่งอยู่ไปนานๆ เข้าเดือนที่ 4 ที่ 5 อาการเริ่มออก เริ่มกลับมาเห็นรอยมือรอยเท้า ภาพบนโต้ะ​กินข้าวที่อบอุ่น มุมที่เธอนั่งชำต้นไม้ ทุกสิ่งทุกอย่างแทงใจผมหมด ผมรู้ดีว่าคนอื่นก็ผ่านมาเหมือนกัน คนอื่นก็หนักเหมือนกัน ผมเข้าใจหลักธรรมชาติ​ของใจคน เข้าใจสิ่งที่ทุกคนต้องเจอดี แต่ในใจผมตอนนี้ทุกข์เหลือเกิน ช่วงนี้อดีตที่มันเคยดีมันฝังอยู่ในความทรงจำผมไม่ยอมออกไปไหน ผมก็พยายามมีชีวิตของผมไปอย่างมีประสิทธิภาพ​ งานเดิมหมดสัญญา​ ก็ต้องหางานใหม่ อาจจะได้อยู่ต่างถิ่นไกลบ้านอีกครั้งก็คราวนี้ และนี่ก็คือประเด็นที่ผมต้องตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา......
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่