นี่คือสาส์นจากพระเจ้าจริงหรือเปล่าครับ???

เรียบเรียงโดย อ็อก แมนดิโน กล่าวถึงกฏสามข้อที่ช่วยให้บรรลุความสำเร็จ เขาบอกว่าเป็นสาส์นจากพระเจ้า เลยอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่า พิจารณากฏข้อแรกก่อนก็แล้วกันครับ

......................................................

ถึงมนุษย์ทุกคน จากพระผู้เป็นเจ้า

จงฟังคำแนะนำต่อไปนี้ให้ดี เราได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเจ้าแล้ว มันผ่านมาในราตรีกาลอันมืดมิด ทะลุทะลวงเมฆหมอก กลั่นกรองด้วยแสงดวงดาว แล้วล่วงเข้าสู่หัวใจของเราด้วยวิถีแห่งแสงตะวัน

เราเศร้าโศกต่อเสียงร่ำไห้ของกระต่ายที่กำลังสิ้นใจอยู่ในแร้ว เสียงของลูกนกที่พลัดตกลงมาจากรวงรังอันอบอุ่นของแม่ เสียงเด็กทารกที่กำลังสำลักน้ำอยู่ในสระ และบุตรชายของเราที่หลั่งเลือดอยู่บนไม้กางเขน 

จงรู้ไว้เถอะว่าเราได้ยินเสียงของพวกเจ้าทุกคน จงทำจิตใจให้สงบและเยือกเย็นไว้เถอะ เราสามารถรักษาความทุกข์ร้อนของเจ้าได้ เพราะเรารู้ถึงสาเหตุและวิธีแก้ไข 

เจ้าคร่ำครวญ เพราะความใฝ่ฝันในวัยเด็กของเจ้าสาบสูญไปกับวันเวลา 

เจ้าร่ำไห้เพราะความนับถือตนเองของเจ้าถูกบั่นทอนลงไปเพราะความล้มเหลว

เจ้าสิ้นหวังเพราะ ศักยภาพในตัวของเจ้าสูญสิ้นไปเพื่อแลกกับความมั่นคงในชีวิต

เจ้าโศกาดูรเพราะ ความเป็นตัวของตัวเองของเจ้าถูกเหยียบย่ำด้วยฝูงชน

เจ้าร้องไห้คร่ำครวญ เพราะอัจฉริยภาพในตัวเองของเจ้าสิ้นเปลืองไปด้วยการใช้อย่างผิดๆ

เจ้ามองดูตัวเองด้วยความอดสูใจ และหวาดกลัวต่อเงาของตัวเองในกระจก มนุษย์ที่หน้าตาถทึงและเย้ยหยัน ที่กำลังจ้องหน้าเจ้าอยู่นี้คือผู้ใดกัน?

คุณสมบัติอันน่ายกย่องสรรเสรืญของเจ้าหายไปไหน? ความสวยงามของเจ้าอยู่ที่ไหน? ความกระฉับกระเฉงปราดเปรียวของเจ้าหายไปไหน? ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในดวงจิตของเจ้าหายไปไหน? คำพูดอันเฉลียวฉลาดน่าฟังของเจ้าหายไปไหน? ใครขโมยความดีงามของเจ้าไปหรือ? เจ้ารู้จักขโมยผู้นั้นดีเช่นเดียวกับที่เรารู้จักหรือเปล่า?

ครั้งหนึ่ง เจ้าเคยนอนลงบนทุ่งหญ้าอันศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินสวรรค์ แหงนมองดูวิมานเมฆที่ลอยอยู่เบื้องบน เจ้ารู้ว่าความมั่งคั่งร่ำรวยอันมหาศาลแห่งกรุงบาบิโลน จะต้องเป็นสมบัติของเจ้าในสักวันหนึ่ง

ครั้งหนึ่ง เจ้าได้อ่านหนังสือหลายเล่มและคัมภีร์หลายฉบับ ที่ยืนยันโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆว่า ความเฉลียวฉลาดทั้งปวงของพระเจ้าโซโลมอนย่อมเทียมทัน และเป็นรองความเฉลียวฉลาดของเจ้า

แล้วเมื่อฤดูกาลผ่านไปปีแล้วปีเล่า ตราบจนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าจะได้ขึ้นครองบัลลังค์สูงสุดแห่งสวนอีเดนของเจ้าเอง 

เจ้าระลึกได้หรือไม่ว่าใครคือผู้ที่เพาะศรัทธา ความใฝ่ฝัน และความหวังลงในจิตใจของเจ้า

เจ้าไม่สามารถระลึกได้

เจ้ายังไม่มีความทรงจำในวาระแรกที่เจ้าคลอดออกมาจากครรภ์มารดา และได้รับการเจิมด้วยพระหัตถ์แห่งเราเหนือหน้าผากของเจ้า และเคล็ดลับที่เรากระซิบบอกแก่หูน้อยๆของเจ้า ซึ่งเป็นพรสวรรค์อันประเสริฐ

เจ้าจำพรสวรรค์อันประเสริฐเหล่านั้นได้ไหม?

เจ้าไม่สามารถจำได้

วันคืนที่ล่วงผ่านไปได้ทำลายความทรงจำของเจ้าไปเสียสิ้น เพราะมันได้บรรจุจิตใจของเจ้าเอาไว้ ด้วยความหวาดกลัวและความระแวงสงสัย ความวิตกกังวลและความเศร้าสลด แม้กระทั่งความเกลียดชังและความสิ้นหวัง จนกระทั่งมันไม่มีที่ว่าง สำหรับรับรู้ถึงความสนุกสนาน และความสุขในชีวิตบนโลกนี้ของเจ้า

จงอย่าร้องไห้คร่ำครวญไปเลย เราอยู่กับเจ้าแล้ว...และวาระนี้คือจุดหัวเลี้ยวหัวตอที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเจ้า วันเวลาที่ล่วงผ่านไปแล้วนั้น เปรียบประดุจช่วงเวลาที่เจ้าจะต้องอยู่ในครรภ์มารดาของเจ้า อดีตคือสิ่งที่ตายไปแล้ว จงให้อดีตของเจ้าฝังอยู่กับความตายทั้งปวงตลอดไป

บัดนี้ เจ้าคืนชีพขึ้นมาแล้วจากสภาพตายทั้งเป็น

บัดนี้ เราได้สัมผัสศพของเจ้าสามครั้ง เช่นเดียวกับที่อีไลจาห์กระทำต่อบุตรชายของหญิงหม้าย เจ้าจะมีชีวิตขึ้นมาใหม่...

บัดนี้ เราจะประทับโอษฐ์ของเราลงที่ปากของเจ้า เราจะประทับดวงเนตรของเราบนดวงตาของเจ้า เราจะประทับพระหัตถ์ทั้งสองของเราลงบนฝ่ามือของเจ้า เช่นเดียวกับที่อีไลซ่ากระทำต่อซูนัมไมท์ นั่นคือเลือดเนื้อของเจ้าก็จะอุ่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

บัดนี้ เราบอกให้เจ้าลุกขึ้น แล้วเดินออกไปจากถ้ำมืดอันเป็นสุสานของเจ้า เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เยซูได้ปลุกชีพลาซารัสจากถ้ำสุสาน

วันนี้คือวันเกิดของเจ้า นี่คือวันแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเจ้า อดีตที่ผ่านพ้นมาแล้วของเจ้าเปรียบประดุจการฝึกซ้อมบทละคร วันนี้ม่านแห่งเวทีชีวิตได้ถึงเวลาเปิดออกแล้ว บัดนี้โลกกำลังจับตามองดูเจ้าอยู่ และรอคอยที่จะปรบมือให้กับเจ้า เพราะว่าบัดนี้เจ้าจะไม่ล้มเหลวอีกต่อไป

จงจุดเทียนเล่มงามของเจ้า ตัดแบ่งเค้กของเจ้า จงรินเหล้าองุ่น เพราะว่าบัดนี้เจ้าได้เกิดใหม่แล้ว

ประหนึ่งผีเสื้อที่คลี่ปีกกางออกมาจากตัวดักแด้ เจ้าจะโบยบิน...บินสูงเท่าที่ใจของเจ้าปรารถนา กระทั่งไม่มีตัวต่อ แตน แมลงปอ ตั๊กแตนของนรชาติจะอาจขัดขวางภารกิจของเจ้าได้ เช่นเดียวกับเสรีภาพของเจ้า ที่จะแสวงหาความร่ำรวยที่แท้จริงของชีวิต

จงรู้สึกถึงพระหัตถ์ของเราที่ศีรษะของเจ้า

จงสดับฟังพระปรีชาญาณของเรา

ขอให้เราบอกเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ถึงความลับที่เจ้าเคยได้ยินมาแล้วในวันที่เจ้าถือกำเนิดมาในครั้งแรก และเจ้าได้ลืมไปแล้ว

เจ้าคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

เจ้าคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

นั่นคือพระดำรัสแรกสุดที่เจ้าเคยได้ยิน แล้วเจ้าก็ร้องไห้ออกมา เช่นเดียวกับมนุษย์ทุกๆคนที่ถือกำเนิด

หลังจากนั้นเจ้าก็ไม่เชื่อเราอีกต่อไป...และก็ไม่มีอะไรในวันคืนที่ล่วงผ่าน ที่จะแก้ไขความดื้อรั้นของเจ้าได้อีกเลย เนื่องจากเจ้าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างไรเล่า ถ้าหากเจ้าประเมินตัวของเจ้าเองว่าล้มเหลว แม้ในงานที่ง่ายดายที่สุดในโลก?

เจ้าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างไร เมื่อเจ้ามีความเชื่อมั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ในงานที่รับผิดชอบน้อยที่สุด

เจ้าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างไร หากว่าเจ้าถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยหนี้สิน และต้องนอนถลึงตาอย่างกระสับกระส่าย ด้วยไม่รู้ว่าจะหาอาหารใส่ปากท้องของเจ้าได้จากที่ไหนในวันพรุ่งนี้

พอเสียทีเถอะ นมที่หกรดพื้นก็ได้เน่าบูดไปแล้ว

เราได้ส่งศาสดาองค์แล้วองค์เล่า  นักปราชญ์คนแล้วคนเล่า กวีและจิตรกรอีกกี่คน คีตกวีและนักวิทยาศาสตร์ และผู้สื่อข่าวอีกสักกี่คน เพื่อที่จะมาบอกให้เจ้ารู้ถึงความประเสริฐของเจ้า ศักยภาพเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของเจ้า และเคล็ดลับเพื่อบรรลุความสำเร็จ? เจ้าเชื่อฟังพวกเขาบ้างหรือเปล่า?

แต่เราก็ยังคงรักเจ้า และเราก็อยู่กับเจ้าแล้วในขณะนี้ ด้วยวาทะเหล่านี้ก็เพื่อที่จะพิสูจน์ถ้อยคำแห่งศาสดาพยากรณ์ ซึ่งบัญญัติเอาไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้าจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่สอง เพื่อที่จะช่วยเหลือมนุษย์ที่เป็นคนของพระองค์

บัดนี้เราได้กลับมาแล้ว

และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สอง

เจ้าคือคนของเรา

จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องถาม เจ้าไม่เคยรู้มาก่อน เจ้าไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ไม่เคยมีใครบอกเจ้ามาก่อนหรือว่า โลกและสิ่งทั้งปวงกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร?

เพราะเจ้าไม่เคยรู้...เจ้าไม่เคยได้ยิน...เจ้าไม่เคยเข้าใจ

เจ้ารู้มาว่าเจ้าคือความผิดพลาดของสวรรค์ เป็นเครื่องเล่นชิ้นหนึ่งของเทพเจ้าเท่านั้น

เจ้ารู้มาว่าเจ้าคือผลงานชิ้นพิเศษสุด ทรงเกียรติภูมิด้วยเหตุผล เฉลียวฉลาดอย่างไม่จำกัด สง่างาม และน่าชื่นชมทั้งรูปร่างและการเคลื่อนไหว ประดุจเทพธิดายามประกอบกรณียกิจ และประดุจเทพเจ้ายามแสดงอัจฉริยภาพ

เจ้าถูกบอกมาว่าเจ้าคือธาตุแท้แห่งผืนโลก

เจ้าได้รับทราบถึงเคล็ดลับที่จะย้ายขุนเขา และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ

เจ้าไม่เชื่อใครเลย เจ้าเผาแผนที่ที่จะนำไปสู่ความสุข เจ้าปิดประตูขวางกั้นทางไปสู่ความสงบใจของเจ้าเอง เจ้าดับประทีปที่ส่องทางไปสู่เกียรติยศชื่อเสียงของเจ้า แล้วเจ้าก็สะดุดล้ม หลงทาง และขวัญหนีดีฝ่อ ในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายและการสงสารตัวเอง จนเจ้าต้องตกลงไปในขุมนรกที่เจ้าเองเป็นผู้ขุดขึ้นมา

แล้วเจ้าก็ร้องไห้ฟูมฟาย ตีอกชกหัว แล้วโทษโชคชะตาว่าไม่ยุติธรรมต่อเจ้า เจ้าปฏิเสธผลที่เกิดขึ้นมาจากความคิดที่เหลวไหล และการกระทำอย่างขี้เกียจของตัวเจ้าเอง แล้วเจ้าก็มองหาผู้ที่จะมาเป็นแพะรับบาป เพื่อที่จะโทษสาเหตุแห่งความล้มเหลวของเจ้า เจ้าช่างหาพบได้รวดเร็วเสียนี่กระไร

เจ้าโทษว่าเราคือผู้ผิด!

เจ้ากล่าวโทษว่าอุปสรรคของเจ้า ความต่ำต้อยของเจ้า โชคร้ายของเจ้า ความล้มเหลวของเจ้า...เป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า!

เจ้าเข้าใจผิดถนัด...

จงใคร่ครวญพิจารณาให้ดี ประการแรก จงพิจารณาถึงสิ่งที่เจ้าคิดว่าเป็นอุปสรรค เพราะว่า เราจะขอให้เจ้าสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าหากเจ้าปราศจากเครื่องมือที่จะต้องใช้?
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่