เห็นช่วงนี้รถ Volvo รุ่นขับเคลื่อนด้วยตัวเองระดับ 2 ขายดี
ยอดจดทะเบียน (น่าจะBattery)EV ล่าสุด ขึ้นเป็นอันดับสอง
(
https://pantip.com/topic/41479975)
ผมเชียร์ PHEV ครับ สาเหตุอยู่ในโพสต์นี้
Volvo PHEV ตัวใหม่ 709 n.m (เดิม 640)
ม้า 460 ตัว (เดิม 407)
วิ่งไฟฟ้าได้ 90 km (เดิม 4x)
คันเดิมก็แทบจะวาร์ปแล้ว คันนี้นี่อะไรเนี่ย!
ส่วนตัวที่ขับน้อย Volvo PHEV น่าใช้มากกว่า BEV นะครับ
ผมคำนวณไว้แล้วว่า ขับน้อย เช่น 12,000 กม./ปี จะคุ้มค่าพลังงานเปลี่ยนแบตรอบสองพอดี ดังผมมาสรุปอีกทีให้ละเอียดขึ้นด้านล่างโพสต์ปัจจุบันนี้
(เคยโพสต์ไปแล้วใน
https://pantip.com/topic/41345497/comment1)
นอกจากนี้ยอดขาย Volvo PHEV ในประเทศพัฒนาแล้ว เหมือนจะสูงมากกว่า PHEV ยี่ห้อเจ้าตลาดครับ
โดยพิจารณาอย่างหยาบว่า ในช่วงปีหลัง ๆ นี้ เจ้าตลาดยังเน้นขายรถสันดาปภายใน ส่วน Volvo เน้นขายรถ PHEV และ สัดส่วนสันดาปภายในต่อ PHEV ทุกแบรนด์ประมาณ 3:1 ครับ
(
https://pantip.com/topic/41337680?)
คือ Volvo แรง นุ่ม แน่น สวย ฉลาด และ ไม่มีปัญหาใหญ่ประจำรุ่น
สนุก / สบายตั้งแต่ออกจากบ้าน ถนนเมืองไทย รถติด ขึ้นทางด่วน เดินทางไกล ครบ ยกเว้นหลุมลึก มันจะโคลง เพราะโช้คนุ่ม ซึ่งเปลี่ยนโช้คได้ สนนราคาอยู่ที่ 39,900 ต่อสี่ล้อ ปรับได้ 32 ระดับ รับได้
(
https://pantip.com/topic/41452105
และนี่ครับ โช้ค
https://www.repowerthailand.com/product/713424)
อย่าง V60 ผมมีรุ่นปลายปีที่แล้วครับ ก็ว่าดีแล้ว อันนี้ถ่ายจากเซนทรัลลาดพร้าว ซึ่งตอนนี้จัดงานขาย Volvo อยู่

ตอบคำถามที่หนึ่งด้านล่าง เรื่องความคุ้มค่า นะครับ
Volvo ประกันแบต 8 ปี 150,000 โล ตีว่าเปลี่ยนฟรี
ดังนั้น เปลี่ยนแบตรอบสอง คันผม PHEV ค่าแบตตีกลม ๆ 400,000 ถูกกว่าแบต BEV ครึ่งต่อครึ่ง (อันนี้เทียบเฉลี่ยทุกยี่ห้อที่ใช้กันทั่วไปแล้ว แม้รถซีดานยี่ห้อจีนก็ 700,000 นะครับ ถ้า 500,000 อย่างคุณบอกบรรทัดที่หกน่าจะรถเล็กมาก หรือเปลี่ยนไม่ทุกโมดูล ใช่ไหมครับ เปลี่ยนไม่ทุกโมดูลเดี๋ยวมันก็เสื่อมโมดูลอื่นอยู่ดีเนาะครับ) ครับ
ค่าเชื้อเพลิงวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้า 1 บาท/ต่อกิโลเมตรครับ (ถ้าแค่ 0.5 อย่างคุณบอกนี่น่าจะรถเล็กมากนะครับ) ซึ่งทำให้ BEV ที่มีพละกำลังเทียบเท่า (หรือมากกว่า) รถสันดาปภายในเทอร์โบ ถูกกว่ารถสันดาปภายในเทอร์โบ 3 บ.ต่อกม.
ส่วน PHEV ออกต่างจังหวัดเดือนละครั้งสองครั้ง คันผมได้ถูกกว่าสันดาปภายในเทอร์โบ 2 บ.ต่อกม. (รวมเบ็ดเสร็จแล้ว แต่จริง ๆ รถผมแรงกว่าสันดาปภายในเทอร์โบคันที่ผมเทียบ เป็นเท่าตัวเลยครับ) ส่วน Volvo PHEV รุ่นใหม่ ผมตีเป็น 2.5 บ.ต่อกม.
จากอายุแบตที่ประมาณกันว่า 8 ปี เปลี่ยนแบตรอบสองปีที่ 15-16 ตอนวิ่งไป 200,000 โล ตีว่าวิ่งน้อย
BEV ประหยัดกว่าน้ำมันไปแล้ว 200,000*3 = 600,000 บาท เกือบเท่าค่าแบตรอบสอง (แต่ถ้ารถหรู ค่าแบตยิ่งแพง ไม่คุ้มถ้าวิ่งน้อยอย่างนี้ครับ ควรวิ่งให้เยอะถึงคุ้มค่าแบต)
PHEV คันผม ประหยัดกว่าน้ำมันไปแล้ว 200,000*2 = 400,000 บาท เท่าค่าแบตรอบสองเป๊ะ
PHEV คันรุ่นใหม่ ประหยัดกว่าน้ำมันไปแล้ว 200,000*2.5 = 500,000 บาท ก็น่าจะ (เกือบ) เท่าค่าแบตรอบสองครับ
และก็อาจควรพิจารณาเพิ่มครับ ว่า BEV ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า PHEV
ตีว่าขับถนอม ห้าปีแรก Volvo BEV อาจแค่ 5,000 กว่า แต่ PHEV 75,000 แพงกว่ากัน 70,000 ตีกลม ๆ
(แต่ค่าประกัน BEV เหมือนจะแพงกว่านะครับ อันนี้ผมไม่ลงรายละเอียดเพราะบางคนไม่เลือกประกันชั้นหนึ่งก็ถูกลง)
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิ่งเยอะกว่านี้ คันผมยิ่งกำไรค่าแบตเร็ว ทำให้ไปชดเชยค่าบำรุงรักษา เสมือนบำรุงรักษาบางปีฟรี (แต่รถก็สึกหรอมากขึ้น ค่าบำรุงรักษาก็อาจเพิ่มตามนะครับ อันนี้ Case by case และแล้วแต่บุญกรรมกันเลย)
นี่คือเหตุผลที่ผมซึ่งเป็นวิศวกรไฟฟ้า และ ออกต่างจังหวัดประจำ เลือก Volvo PHEV ครับ
แบตวางแนวตั้งด้วย รถนิ่งมากนะครับ ผู้ใหญ่นั่งสบาย (เราเองก็นั่งสบาย) เท่าที่ทราบ ไม่มียี่ห้ออื่นออกแบบอย่างนี้
วันนี้ขับเสร็จ ตื่นเช้าวันถัดไป คุณก็อยากขับต่อละ รถดีขนาดนั้น
ไม่งั้น ยอดขาย Volvo PHEV ทั่วโลก มันคงไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ ... หรอกครับ ขนาดราคาในต่างประเทศแพงกว่าเจ้าตลาด PHEV (ในไทย Volvo ถูกกว่า)
Volvo PHEV ตัวใหม่ น่าใช้มาก
ยอดจดทะเบียน (น่าจะBattery)EV ล่าสุด ขึ้นเป็นอันดับสอง
(https://pantip.com/topic/41479975)
ผมเชียร์ PHEV ครับ สาเหตุอยู่ในโพสต์นี้
Volvo PHEV ตัวใหม่ 709 n.m (เดิม 640)
ม้า 460 ตัว (เดิม 407)
วิ่งไฟฟ้าได้ 90 km (เดิม 4x)
คันเดิมก็แทบจะวาร์ปแล้ว คันนี้นี่อะไรเนี่ย!
ส่วนตัวที่ขับน้อย Volvo PHEV น่าใช้มากกว่า BEV นะครับ
ผมคำนวณไว้แล้วว่า ขับน้อย เช่น 12,000 กม./ปี จะคุ้มค่าพลังงานเปลี่ยนแบตรอบสองพอดี ดังผมมาสรุปอีกทีให้ละเอียดขึ้นด้านล่างโพสต์ปัจจุบันนี้
(เคยโพสต์ไปแล้วใน https://pantip.com/topic/41345497/comment1)
นอกจากนี้ยอดขาย Volvo PHEV ในประเทศพัฒนาแล้ว เหมือนจะสูงมากกว่า PHEV ยี่ห้อเจ้าตลาดครับ
โดยพิจารณาอย่างหยาบว่า ในช่วงปีหลัง ๆ นี้ เจ้าตลาดยังเน้นขายรถสันดาปภายใน ส่วน Volvo เน้นขายรถ PHEV และ สัดส่วนสันดาปภายในต่อ PHEV ทุกแบรนด์ประมาณ 3:1 ครับ
(https://pantip.com/topic/41337680?)
คือ Volvo แรง นุ่ม แน่น สวย ฉลาด และ ไม่มีปัญหาใหญ่ประจำรุ่น
สนุก / สบายตั้งแต่ออกจากบ้าน ถนนเมืองไทย รถติด ขึ้นทางด่วน เดินทางไกล ครบ ยกเว้นหลุมลึก มันจะโคลง เพราะโช้คนุ่ม ซึ่งเปลี่ยนโช้คได้ สนนราคาอยู่ที่ 39,900 ต่อสี่ล้อ ปรับได้ 32 ระดับ รับได้
(https://pantip.com/topic/41452105
และนี่ครับ โช้ค https://www.repowerthailand.com/product/713424)
อย่าง V60 ผมมีรุ่นปลายปีที่แล้วครับ ก็ว่าดีแล้ว อันนี้ถ่ายจากเซนทรัลลาดพร้าว ซึ่งตอนนี้จัดงานขาย Volvo อยู่
ตอบคำถามที่หนึ่งด้านล่าง เรื่องความคุ้มค่า นะครับ
Volvo ประกันแบต 8 ปี 150,000 โล ตีว่าเปลี่ยนฟรี
ดังนั้น เปลี่ยนแบตรอบสอง คันผม PHEV ค่าแบตตีกลม ๆ 400,000 ถูกกว่าแบต BEV ครึ่งต่อครึ่ง (อันนี้เทียบเฉลี่ยทุกยี่ห้อที่ใช้กันทั่วไปแล้ว แม้รถซีดานยี่ห้อจีนก็ 700,000 นะครับ ถ้า 500,000 อย่างคุณบอกบรรทัดที่หกน่าจะรถเล็กมาก หรือเปลี่ยนไม่ทุกโมดูล ใช่ไหมครับ เปลี่ยนไม่ทุกโมดูลเดี๋ยวมันก็เสื่อมโมดูลอื่นอยู่ดีเนาะครับ) ครับ
ค่าเชื้อเพลิงวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้า 1 บาท/ต่อกิโลเมตรครับ (ถ้าแค่ 0.5 อย่างคุณบอกนี่น่าจะรถเล็กมากนะครับ) ซึ่งทำให้ BEV ที่มีพละกำลังเทียบเท่า (หรือมากกว่า) รถสันดาปภายในเทอร์โบ ถูกกว่ารถสันดาปภายในเทอร์โบ 3 บ.ต่อกม.
ส่วน PHEV ออกต่างจังหวัดเดือนละครั้งสองครั้ง คันผมได้ถูกกว่าสันดาปภายในเทอร์โบ 2 บ.ต่อกม. (รวมเบ็ดเสร็จแล้ว แต่จริง ๆ รถผมแรงกว่าสันดาปภายในเทอร์โบคันที่ผมเทียบ เป็นเท่าตัวเลยครับ) ส่วน Volvo PHEV รุ่นใหม่ ผมตีเป็น 2.5 บ.ต่อกม.
จากอายุแบตที่ประมาณกันว่า 8 ปี เปลี่ยนแบตรอบสองปีที่ 15-16 ตอนวิ่งไป 200,000 โล ตีว่าวิ่งน้อย
BEV ประหยัดกว่าน้ำมันไปแล้ว 200,000*3 = 600,000 บาท เกือบเท่าค่าแบตรอบสอง (แต่ถ้ารถหรู ค่าแบตยิ่งแพง ไม่คุ้มถ้าวิ่งน้อยอย่างนี้ครับ ควรวิ่งให้เยอะถึงคุ้มค่าแบต)
PHEV คันผม ประหยัดกว่าน้ำมันไปแล้ว 200,000*2 = 400,000 บาท เท่าค่าแบตรอบสองเป๊ะ
PHEV คันรุ่นใหม่ ประหยัดกว่าน้ำมันไปแล้ว 200,000*2.5 = 500,000 บาท ก็น่าจะ (เกือบ) เท่าค่าแบตรอบสองครับ
และก็อาจควรพิจารณาเพิ่มครับ ว่า BEV ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า PHEV
ตีว่าขับถนอม ห้าปีแรก Volvo BEV อาจแค่ 5,000 กว่า แต่ PHEV 75,000 แพงกว่ากัน 70,000 ตีกลม ๆ
(แต่ค่าประกัน BEV เหมือนจะแพงกว่านะครับ อันนี้ผมไม่ลงรายละเอียดเพราะบางคนไม่เลือกประกันชั้นหนึ่งก็ถูกลง)
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิ่งเยอะกว่านี้ คันผมยิ่งกำไรค่าแบตเร็ว ทำให้ไปชดเชยค่าบำรุงรักษา เสมือนบำรุงรักษาบางปีฟรี (แต่รถก็สึกหรอมากขึ้น ค่าบำรุงรักษาก็อาจเพิ่มตามนะครับ อันนี้ Case by case และแล้วแต่บุญกรรมกันเลย)
นี่คือเหตุผลที่ผมซึ่งเป็นวิศวกรไฟฟ้า และ ออกต่างจังหวัดประจำ เลือก Volvo PHEV ครับ
แบตวางแนวตั้งด้วย รถนิ่งมากนะครับ ผู้ใหญ่นั่งสบาย (เราเองก็นั่งสบาย) เท่าที่ทราบ ไม่มียี่ห้ออื่นออกแบบอย่างนี้
วันนี้ขับเสร็จ ตื่นเช้าวันถัดไป คุณก็อยากขับต่อละ รถดีขนาดนั้น
ไม่งั้น ยอดขาย Volvo PHEV ทั่วโลก มันคงไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ ... หรอกครับ ขนาดราคาในต่างประเทศแพงกว่าเจ้าตลาด PHEV (ในไทย Volvo ถูกกว่า)