รีวิวการไปสอบ BJT ครั้งแรกในชีวิต

เนื่องจากมีคนรู้จักแนะนำมาว่า ตอนนี้มีโครงการที่รับอาสาสมัครไปสอบ BJT อยู่ (น่าจะเป็นโครงการวิจัยหรือเก็บข้อมูลอะไรสักอย่าง) แต่สำหรับมุมมองเราก็คือ มีผู้ใจดีแจก voucher ค่าสมัคร BJT ให้นั่นเอง ก็เลยอาสาทันที

การสอบ BJT = Business Japanese Proficiency Test  คืออะไร
เป็นการวัดและประเมินทักษะการติดต่อสื่อสารภาษาญี่ปุ่นอย่างเหมาะสมถูกต้องในสถานการณ์จริงเชิงธุรกิจ จัดโดยจัดโดยสมาคมสอบวัดระดับทักษะคันจิญี่ปุ่น 
 
ข้อสอบจะมีชุดเดียวไม่แยกระดับ แต่จะแยกระดับจากผลสอบเป็น 6 ระดับ ตามรูปข้างล่าง (ที่มีวงสีแดง เป็นผลสอบของผม)
 

อ่านเพิ่มเติมที่ ビジネス日本語能力テスト หรือ เพจภาษาอังกฤษ https://www.kanken.or.jp/bjt/english/

ทั้งนี้ ตั้งแต่ ปี 2017 เป็นต้นมา การสอบ BJT จะไปสอบบนระบบของ  the Pearson VUE computer-based testing distribution network ซึ่งจะเรียกว่าเป็น CBT จะว่าไป การสอบก็สะดวกขึ้นเยอะเลย เพราะไปสอบเมื่อไหร่ก็ได้ ตามที่เราสะดวก และเป็นการไปสอบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สอบ

สิ่งที่เราต้องทำหลังจากไปรับอาสาเขามาแล้วก็ได้แก่

เริ่มจาก สมัครสร้างไอดี บนระบบของ Pearson VUE จากนั้น เลือกสมัครสอบ BJT แล้วสุดท้าย ตรงค่าสมัครก็กรอกรหัส voucher ที่ได้มา ก็เป็นอันว่าฟรี (ถ้าจ่ายเอง ค่าสอบอยู่ที่ 33 USD) หน้าจอบนเวบเลือกได้ว่าจะให้แสดงเป็นภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษ (ไม่มีภาษาไทย)
ผมให้ลิงก์ที่เป็นภาษาอังกฤษไว้ละกัน https://home.pearsonvue.com/bjt
(ขั้นตอนการสมัครทั้งหมดนี้ ทางโครงการเขาจะมีคู่มือมาให้ครับ ให้เข้าไปงมเอง คงมึนน่าดู)

ศูนย์สอบผมเลือกที่ IVERSON TRAINING CENTER CO., LTD. ซึ่งมีที่อยู่ก็คือ ROOM 1208-1209, ONE PACIFIC PLACE 140 SUKHUMVIT ROAD ดูจากแผนที่ระบุว่า เดินทางด้วย BTS ได้ ลงที่สถานีนานา ออกที่ทางออก 2 จะเจอทันที แต่วันจริง ผมหาไม่เจอ เพราะไปมโนเอาเองว่า ต้องเจอป้าย  IVERSON TRAINING CENTER เห็นเด่นชัดจากทางเท้าที่เดินอยู่ ปรากฏว่า ไม่เจอครับ .... ต้องอ่านข้อมูลใหม่ดี ๆ พบว่า มันเป็นเป็นห้องแค่สองห้อง (ห้องแบบออฟฟิศ) ที่อยู่ในอาคารวันแปซิฟิกเพลส โดยต้องเข้าทางอาคารข้างหน้าเป็นอาคารทูแปซิฟิกเพลสก่อน ทะลุเข้าไป เล่นเอาเหงื่อตกนิด ๆ ว่า จะพลาดการสอบซะแล้ว ดีที่ไปก่อนเวลาพอควร ก็ถือเป็นบทเรียนเวลาจะไปติอต่องานสำคัญที่ไหน ต้องศึกษาเส้นทางและพิกัดสถานที่ตั้งให้ดีซะก่อน อย่าคิดเองเออเองหรือ หาข้อมูลไม่ละเอียด (จริง ๆ ข้อมูลเขาบอกหมดแล้ว เราอ่านไม่รอบคอบเอง)

พอเข้าไปในศูนย์สอบ ขั้นตอนก็จะเป็นตามคลิปแนะนำนี้เลย (มีเวอร์ชันญี่ปุ่นด้วย แต่ผมแปะเป็นภาษาอังกฤษละกัน)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ประเด็นหลัก ๆ ที่ต้องพูดถึง คือ
1. ต้องแสดงตนด้วยบัตรประชาชน (สำหรับศูนย์สอบในไทยใช้แค่บัตรประชาชน ถ้าสอบที่ประเทศอื่นต้องเช็คให้ดีว่า ใช้เอกสารอะไรได้บ้าง) ซึ่งเราก็ต้องกรอกชื่อ-นามสกุลที่ใช้ตอนสมัครทางเวบ Pearson VUE ข้างบน ไว้ให้ตรงกับตัวสะกดที่ปรากฏบนบัตรประชาชนของเราด้วย ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นในขึ้นตอนการยืนยันตัวตนเข้าสอบนี้ 
2. มีการเซ็นรับทราบและทำสัญญาว่า จะไม่เผยแพร่ข้อสอบ ไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นอันทุจริตหรือส่อทุจริต
3. สัมภาระ อุปกรณ์สื่อสาร ของทั้งหมด ต้องฝากในล็อกเกอร์ ก่อนเข้าห้องสอบ แม้แต่เครื่องเขียนก็นำติดตัวไปไม่ได้ ทางศูนย์สอบจะมีปากกาและกระดาษทดเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว

จากนั้นก็เข้าสอบ โดยสอบกับคอมพิวเตอร์ มีหูฟังให้ด้วย (ดังนั้นในศูนย์สอบ จะมีคนสอบหลายคนพร้อมกันได้โดยที่เสียงไม่รบกวนกัน) มีประเด็นสำคัญตรงหน้าแรกอีก ว่า ต้องกดรับทราบข้อตกลงภายในเวลาที่กำหนด ไม่งั้นจะอดสอบเลย (โทษทีจำไม่ได้ว่า ต้องกดในกี่นาที) ส่วนข้อสอบหลังจากนั้นก็ เป็นข้อสอบที่จำกัดเวลา 

ข้อสอบส่วนแรก Listening Comprehension แบ่งเป็น 3 ส่วนย่อย ใช้ฟังคลิปเป็นหลัก แล้วเลือกตอบตัวเลือกที่ถูกต้อง

ข้อสอบส่วนที่สอง Listening and Reading Comprehension แบ่งเป็น 3 ส่วนย่อยเช่นกัน ต้องทั้งฟัง และ อ่านข้อมูลที่อยู่ในโจทย์บนหน้าจอ ซึ่งจะเป็นข้อมูลในรูปแบบตาราง ประกาศ กราฟ แผนผัง ฯลฯ พาร์ตนี้ ผมทำไม่ทันไปหลายข้อแบบรัว ๆ เลย เพราะมีเวลาทำแต่ละข้อแค่ราว  ๆ 30 วินาทีหลังจากที่ฟังโจทย์จบแล้ว สำหรับคนที่เตรียมตัวมาดีและทำงานเกี่ยวกับเอกสารแบบนี้มาตลอด น่าจะไม่มีปัญหา

ข้อสอบสองส่วนแรกนี้ ต้องทำเรียงตามลำดับข้อ ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ข้อที่ผ่านไปแล้วได้ เพราะคลิปเสียงจะเปิดให้ฟังในตอนที่เปิดโจทย์แต่ละข้อขึ้นมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใครทำไม่ทันก็คือ คะแนนข้อนั้นหายไปเลย

ข้อสอบส่วนที่สามซึ่งเป็นส่วนสุดท้าย Reading Comprehension อ่านอย่างเดียวครับ เฉพาะข้อสอบส่วนนี้ ซึ่งก็แบ่งเป็น 3 ส่วนย่อยเช่นกัน สามารถทำย้อนไปย้อนมาได้ ภายในเวลารวมที่กำหนดไว้ และต้องกดคอนเฟิร์มคำตอบให้ทันในเวลาดังกล่าวด้วย ถึงจะเป็นอันเสร็จสิ้นการสอบและหมายความว่าได้ส่งคำตอบเรียบร้อยแล้วจริง ข้อสอบส่วนนี้ ผู้สอบก็สามารถบริหารเวลาเองได้ ว่าจะทำแต่ละข้อด้วยเวลาเท่าไหร่ จะข้ามข้อที่ไม่แน่ใจไปก่อน แล้วย้อนกลับมาทำอีกครั้งก็ได้ ประมาณนี้.... ส่วนนี้ สำหรับคนอื่น ผมว่า น่าจะยากมาก ๆ เพราะเป็นไวยากรณ์ชั้นสูง และสำนวนเฉพาะทางธุรกิจ รวมทั้งสำนวนและคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ค่อนข้างใช้ความรู้เฉพาะทางด้วย แต่บังเอิญว่า ผมถนัดการอ่านอยู่แล้วก็เลยพอไหว

สอบเสร็จ จะทราบผลสอบทันทีเลยครับ ว่าได้คะแนนเท่าไร จากคะแนนเต็ม 800 คะแนน
และหลังสอบเสร็จ 3 วัน จะสามารถเข้าไปดูผลคะแนนในเวบของ Pearson VUE ได้ โดยจะมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยรวมทั้งจะออกเป็นใบรับรองผลสอบให้ ดังรูปในสปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับการสอบ BJT ครั้งแรก และโดยส่วนตัวแล้วคงไม่ไปสอบแก้ตัวอะไรอีก เพราะสายงานโดยตรงของผมไม่ได้จำเป็นต้องใช้ใบรับรองผลการสอบพวกนี้อยู่แล้ว แต่ที่ไปสอบก็เพื่อลองดูว่า ถ้าใช้การสอบที่เป็นมาตรฐานมาลองวัดระดับตัวเอง จะออกมาระดับไหน ผลก็เรียกว่า เป็นไปตามที่ควรเป็นแหละครับ ระดับ J1 คือ ผมก็ติดต่องาน ดีลงานกับคนญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว แต่ถามว่า ใช้ภาษาได้เป๊ะไหม ก็ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น แต่เรื่องการอ่าน ยอมให้ผมเถอะ ผมอ่านนิยายจบมาหลายเรื่องแล้วนะ (ได้ทักษะการอ่าน จากการอ่านนิยายเป็นหลักเลย ไม่ใช่อ่านเอกสารที่เกี่ยวกับงานเล้ย ๕๕๕)

ส่วนเนื้อหาในข้อสอบ บอกได้คำเดียวว่า 超面白い!!! (แต่ขอไม่สอบอีก เหนื่อย ๕๕๕)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่