ปั่นเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก (โตเกียว - โอซาก้า) ค่ำไหนนอนนั่น แบบไม่ค่อยได้ตามเป้าหมายเท่าไหร่ (กระทู้ดองเค็ม)

สวัสดีครับ กระทู้นี้ดองไว้นานแล้ว ด้วยหลายปัจจัยที่ไม่อยากลง เพราะทริปมันไม่สำเร็จเหมือนที่หวัง แต่พอเวลาผ่านไปก็เลยกลับมาคิดว่า เออ มีหลายครั้งแล้วที่แนะนำว่าทำยังไงจะประสบความสำเร็จ ของผมก็ขอเป็นตรงข้ามแล้วกัน ว่า ปั่นยังไงให้ไม่ถึงฝันที่วางไว้ ประกอบกับอยากไว้อาลัยพี่ที่ไปด้วยกัน ที่แกชอบปั่นจักรยานมาก แต่ตอนนี้แกจากไปด้วยโรคมะเร็งปอดจึงขอลงย้อนหลังนะครับ

          ทริปนี้เริ่มจากการที่นั่งฟังเพลงอยู่หน้าคอม แล้วทะลึ่งกดตั๋วเครื่องบินเล่นๆ เอ้ย ทำไมมันถูกจัง ไปกลับญี่ปุ่น (ยังไม่รวมน้ำหนัก) แค่ 6 พันกว่าเอง และแล้วพอรู้ตัวอีกที ก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 20 และ อุปกรณ์กีฬา(จักรยาน อีก 20 กิโล) สิริรวมหมื่นนิดๆ ก็โอเคนะ สำหรับงบ มีเวลาอีก 3 เดือน จะถึงวันเดินทาง เลยโทรไปหาพี่ที่รู้จักกันซึ่งแกเกษียณแล้วเพื่ออวดหน่อย ประมาณว่าพี่ครับ ผมจะไปปั่นญี่ปุ่นแล้วนะ ซักพักแกโทรกลับมา เอาด้วย อยากไปด้วยกันซักครั้งซักทริป พร้อมกับบอกว่าให้โทรชวนน้องอีกคนไปด้วยกัน

          สรุปรวมได้เดินทางกัน 3 คนในเดือน ตุลาคม 2019 เพื่อปั่นจักรยานจากโตเกียว ไปโอซาก้า และกางเต็นท์นอนริมทางเรื่อยๆ แบบค่ำไหนนอนนั่น  ซึ่งข้อมูลจากนักปั่นจำนวนมาก แจ้งว่าในญี่ปุ่น จะมีจุดกางเต็นท์ฟรี ห้องน้ำฟรี จำนวนมาก ซึ่งสามารถกางเต็นท์นอนได้เลย จากนั้นก็เริ่มสู่โหมดเตรียมตัวกันยกใหญ่

          1. โหมดเตรียมร่างกาย เนื่องจากปกติแล้วเป็นคนปั่นทัวร์ริ่งอยู่แล้ว ปั่นไปดูคอนเสิร์ตที่ชะอำ หัวหิน เขาใหญ่ อะไรก็ตามแต่ จึงไม่ต้องซ้อมอะไรมากมาย ส่วนพี่ชายร่วมทริปเนื่องจากแกอายุมากหน่อย และมีโรคประจำตัว (ตอนนั้นแกเป็นมะเร็งปอด เริ่มเข้ารับการรักษา แต่ยังไม่มีอาการอะไรแข็งแรงดี) ซึ่งปกติแกวิ่งทุกเช้าประมาณ 5 กิโลเมตร และเพิ่มปั่นจักรยาน (เทรนเนอร์) อีกประมาณวันละ 30 กิโลเมตร ส่วนน้องอีกคนไม่เห็นจะเตรียมอะไรเท่าไหร่ แค่ปั่นเล่นในชีวิตประจำวัน และไปสนามฟ้าอีกสัปดาห์ละ 2 วัน

          2. โหมดเตรียมของ เรื่องรถ ผมมี KHS world ที่ได้จากไต้หวันมา ซึ่งสภาพพร้อมปั่น จึงเซอร์วิสทั่วๆไป มีทำเพิ่มแค่เปลี่ยนโซ่ เซอร์วิสดุมล้อให้ลื่นๆ แค่นั้น พี่ชายแกก็เลยซื้อ KHS 20 JJ บ้าง ส่วนน้องอีกคน ใช้ BS Wildwest 21 speed ติดตะแกรงง่ายๆ เอา ส่วนของใช้จำเป็น จะมีของใช้ส่วนตัวทั่วๆไป แต่เนื่องจากเราปั่นจักรยานและนอนเต็นท์แบบ wildcamping จึงขอแนะนำอุปกรณ์ที่นอกเหนือจากของทั่วๆไปดังนี้
          - กระเป๋าใส่จักรยาน ผมเลือกแบบ softcase พับได้ เพื่อนำจักรยานขึ้นเครื่องบินและเผื่อไปขึ้นรถไฟที่นั่นง่ายๆ 
          - ถังใส่น้ำแบบพับได้ เพื่อ ล้างจาน รองน้ำมาอาบ ซักผ้า
          - ที่กรองน้ำพกพา เผื่อหาน้ำไม่ได้
          - เสื้อกันฝนดีๆ เสื้อกันหนาว กันลม
          - อุปกรณ์ service จักรยานทั่วไป (หกเหลี่ยม ชุดปะยาง ยางใน ไฟ แตร ปลดไวโซ่ ที่ตัดต่อโซ่)
          - กางเกงว่ายน้ำ (เอาไว้อาบน้ำจะได้ไม่โจ๋งครึ่มเกินไป)
          - ธงชาติไทย และธงปั่นทัวร์ริ่ง (ขอบคุณร้านจักรยานในสงขลามาด้วยครับ ที่ให้ความอนุเคราะห์ธง) เพื่อเอาติดหลังรถ เป็นจุดสังเกตให้รถใหญ่ และเพื่อกระชับความสัมพันธ์จะได้ดูไม่แปลกตามาก (มั้ง)
          โดยของทั้งหมดใส่กระเป๋า Pannier 4 ใบ และเอากระเป๋าแพนเนียร์รวมใส่ถุงใหญ่อีกทีเพื่อโหลดง่ายๆ
           

          และแล้วก่อนหน้าการเดินทางมีข่าวดีจากญีุ่่ปุ่นคือซุปเปอร์ไต้ฝุ่นจะเข้าในช่วงที่เราจะไปพอดี (ไต้ฝุ่นชื่อ ฮาจิบิส) แต่พวกเราฮาไม่ออกเลย แต่ก็ตกลงกันว่า เอาวะ ไหนๆก็ตัดสินใจแล้วอยู่เมืองไทยก็ไม่เคยเห็นไต้ฝุ่น และที่สำคัญจุดที่พายุเข้าเราก็จะรีบไปรีบปั่นหนีละกัน แผนการจึงถูกปรับครั้งแรกเป็น เดินทางไปถึงแล้วเดินทางด้วยรถไฟไปที่โยโกฮาม่าแล้วเริ่มปั่นเลย จะได้ไกลพายุหน่อย

ภาพแผนการปั่น 11 วัน

จากนั้นก็เริ่มเดินทางกันเลย เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ตอนไปสนามบินผมเอารถจักรยานใส่ถุงแล้วก็เลยเอาไปห่อพลาสติกกันกระแทกซักหน่อย ถึงแม้ในถุงจะมีท่อแอร์บังส่วนสำคัญของรถไว้แล้วก็ตามเพื่อความอุ่นใจ

นี่ครับ สมาคมปั่นสวนพายุ
หลังจากนั้น เมื่อเช็คอินเสร็จเรียบร้อยก็ต้องเอาสัมภาระที่เป็นจักรยานไปส่งที่ช่องเฉพาะ (Oversize) แล้วรอซักพักจะมีเจ้าหน้าที่มานำรถไปครับ และอย่าลืมปล่อยลมยางทุกเส้นด้วยนะครับ

          หลังจาก 6 ชั่วโมงผ่านไปเราทั้ง 3 คนมายืนอยู่ที่ ตม.ญี่ปุ่น พี่เจ้าหน้าที่ใจดีมากมาย ไม่ถามอะไรแค่ถามว่าอะไรอยู่ในกระเป๋า ก็ตอบไปตามตรงว่าจักรยาน ทั้ง 3 คน เค้าเลยเรียกมารวมกันแล้วประทับตาผ่านให้อย่างไว น่ารักเดสก้ะมาก พอออกมาจากเครื่องไปรับพัสดุใส่จักรยานยกขึ้นรถเข็นเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าไปที่โยโกฮาม่า ตรงนี้ก็เจออุปสรรคที่ 1 คือ การยกกระเป๋าใส่จักรยานไม่ง่ายและไม่เบา คือเราต้องเดิน 2 รอบในการขึ้นรถไฟ ทำให้ต้องรีบเร่งพอสมควร รอบแรกของใช้ รอบสองจักรยาน และเมื่อลงจากรถไฟ เราต้องลากกระเป๋าใหญ่ยักษ์ทั้ง 2 ใบของแต่ละคนเพื่อไปตามทางในสถานี และขึ้นมายังด้านนอกอาคาร หนักมากครับ แต่พอขึ้นมาแล้วก็ประกอบรถและไปหาอะไรกินกันเลย

จุดนี้แหล่ะครับ ที่ต้องยกออกมา พอต้องยกไกลๆ มันเลยหนักมาก
ผู้คนในเมือง และป้ายท่อประจำเมือง และร้านอาหารมื้อแรกในญี่ปุ่น
วันที่ 2 ของการเดินทาง (10 ต.ค.) 
          วันนี้เริ่มการเดินทาง หลังจากรับประทานอาหารเช้าของโรงแรม เราเลือกเส้นทางที่ลงไปริมทะเล เพื่อเจอทางตรงยาวๆ และมีห้องน้ำริมทะเลให้เข้าตลอดทาง แต่พอไปปั่นจริงๆแล้ว พบว่า ทางถึงแม้จะเป็นในเมือง มีเนินขึ้นๆลงๆ ชันๆ แต่ระยะทางสั้นค่อนข้างมาก ออกจากนี่เราหวังว่าจะไปได้วันละ 60-80 กิโล แต่ต้องมาลดเหลือ 50 พอ เพราะขึ้นเนินเยอะมาก ซึ่งในการปั่น 3 อย่างที่เราต้องกังวลคือ
1. อาหาร (เราฝากท้องกับร้านสะดวกซื้อและร้านริมทางทั่วไป ซึ่งค่อนข้างไว้ใจได้และมีหลากหลายมากในญี่ปุ่น)
2. น้ำ นอกจากร้านสะดวกซื้อแล้ว ยังมีตู้กดน้ำริมถนนทั่วๆไปให้กดอีก และยังมีจุดเติมน้ำฟรีอีก ดังนั้น จึงค่อนข้างคลายกังวล เรื่องน้ำไม่มีดื่มไปพอสมควร
3. ห้องน้ำ ทริคคือ ริมทะเล มีห้องน้ำสาธารนะ วันแรกเราจึงเลือกเส้นทางริมทะเล นอกจากนั้น เรายังสามารถเข้าตามร้านสะดวกซื้อ หรือหาคำว่า Park (สวนสาธารณะ) หรือ Michi no Eki หรือ rest area จุดต่างๆเหล่านี้มีห้องน้ำและสามารถพักได้ด้วย

บัดดี้ในการปั่นตลอดทริป
จอดแวะเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ เลยต้องมีรูปรถซะหน่อย 
เริ่มจากรูปรวม และ KHS 20JJ, KHS world, BS wildwest
ปั่นวันแรกยังหน้าดีๆ เพราะอากาศดีมาก ไม่ร้อนเกินไป
เราปั่นกันมา มื้อเที่ยง ฝากท้องไว้กับร้านสะดวกซื้อ และเราชอบที่จะซื้อข้าวปั้นเอามาติดรถเผื่อหิวไว้เสมอ เพราะกลัวไปหิวกลางทางเดี๋ยวจะแย่เอา ที่สำคัญพอออกจาก โยโกฮาม่าไม่เท่าไหร่ ปีนเขาเป็นว่าเล่นเลย พอตกบ่าย อากาศเริ่มครึ้ม เราเลยต้องปรับแผนครั้งที่ 2 โดยการแวะหาเสื้อกันฝน เสื้อกันหนาวกันที่ Uniqlo ก่อน

อากาศทึมๆมาแล้ว ฮาจิบิสน่าจะใกล้เข้ามา
จุดที่พักซื้อเสื้อเพิ่ม ทั้งเสื้อกันหนาวกันลมและกันฝน พร้อมกับทานอาหารเย็น (ยืมภาพจาก Google : https://goo.gl/maps/K4grVWimbTqyF4aX7)
วิวสองข้างทางระหว่างปั่น 

คืนแรก มานอนที่สวน Kamifunaka Park เพราะปั่นมาถึงค่อนข้างมืดแล้ว จึงหามุมสงบๆ พบว่ามีคนมานอนตามสวนพอสมควรเหมือนกันแต่อาจจะเป็น Homeless ไหมไม่แน่ใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่