เวลาพระให้ศีล จะลงท้ายด้วยคำว่า
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสทะเย"
ถ้ารู้ความหมาย จะลึกซึ้ง คือพระท่านบอกให้คนที่รับศีลไปนั้น เมื่อรับแล้ว-รักษาได้ดีแล้ว อานิสงส์จะเกิด ดังนี้
สีเลนะ สุคะติง ยันติ = ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ
สีเลนะ โภคะสัมปะทา = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน
ตัสมา สีลัง วิโสทะเย = เพราะเหตุนั้น พึงชำระศีลให้หมดจด
เห็นมั้ย...อย่าทำเป็นเล่นไป............
รักษาศีลจะไม่ตกนรก รักษาศีลจะมีเครื่องกิน-เครื่องใช้ ทรัพย์สินเงินทอง และศีลที่รักษาดีแล้ว จะทำให้ถึงพระนิพพานได้
แล้วพระท่านก็ย้ำ "ตัสมา สีลัง วิโสทะเย" คือพระบอกว่า เพราะเหตุนี้ พวกท่านทั้งหลาย พึงรักษาศีลให้หมดจด!
เวลาพระให้ศีล จะลงท้ายด้วยคำว่า
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสทะเย"
ถ้ารู้ความหมาย จะลึกซึ้ง คือพระท่านบอกให้คนที่รับศีลไปนั้น เมื่อรับแล้ว-รักษาได้ดีแล้ว อานิสงส์จะเกิด ดังนี้
สีเลนะ สุคะติง ยันติ = ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ
สีเลนะ โภคะสัมปะทา = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน
ตัสมา สีลัง วิโสทะเย = เพราะเหตุนั้น พึงชำระศีลให้หมดจด
เห็นมั้ย...อย่าทำเป็นเล่นไป............
รักษาศีลจะไม่ตกนรก รักษาศีลจะมีเครื่องกิน-เครื่องใช้ ทรัพย์สินเงินทอง และศีลที่รักษาดีแล้ว จะทำให้ถึงพระนิพพานได้
แล้วพระท่านก็ย้ำ "ตัสมา สีลัง วิโสทะเย" คือพระบอกว่า เพราะเหตุนี้ พวกท่านทั้งหลาย พึงรักษาศีลให้หมดจด!