คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ตั้งใจทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวพอใจในสิ่งที่ได้รับ ไม่แสดงตนว่าทะเยอทะยาน ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ไม่คบค้าสมาคมกับผู้มีอำนาจ ไม่ขัดแย้งกับผู้อื่น อ่อนน้อมถ่อมตน เสนอความคิดเห็นเมื่อเจ้านายต้องการเท่านั้น
ยกตัวอย่างกุนซือในยุคสามก๊กดังนี้ครับ
กาเซี่ยง มีส่วนทำให้โจโฉพ่ายแพ้ยับเยินมาก่อน รวมถึงทำให้โจงั่ง โจอั๋นบิ๋น และเตียนอุยตาย เรียกได้ว่ามีความแค้นส่วนตัวอยู่ ภายหลังเมื่อเสนอให้เตียวสิ้วสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ โจโฉจะยกย่องให้เกียรติกาเซี่ยงอย่างดี แต่กาเซี่ยงแม้จะโดดเด่นด้านการวางแผนการ แต่รู้ตัวดีว่าไม่ได้เป็นคนของโจโฉมาแต่เดิม เกรงจะถูกระแวง จึงทำตัว Low Profile ปิดประตูเก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่คบค้าสมาคมผูกสัมพันธ์ส่วนตัวกับใคร ไม่ให้ลูกชายลูกสาวแต่งงานเกี่ยวดองกับตระกูลที่มีอำนาจ กาเซี่ยงจึงได้รับความเคารพนับถือจากปัญญาชนจำนวนมาก
กาเซี่ยงเสนอแผนการต่างๆ ให้โจโฉเท่าที่จำเป็นหรือเมื่อโจโฉถามเท่านั้น ในเรื่องการช่วยเหลือให้โจผีเป็นรัชทายาท เมื่อโจผีขอความช่วยเหลือจากกาเซี่ยง กาเซี่ยงไม่ได้เสนอแผนการอะไร เพียงขอให้โจผีมีน้ำใจเอื้อเฟื้อตั้งอยู่ในคุณธรรม ตั้งใจทำงาน ประพฤติตนตามวิถีของบุตรที่ดีพึงกระทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว เมื่อโจโฉถามความเห็นเรื่องรัชทายาทจากกาเซี่ยง กาเซี่ยงไม่ได้ออกตัวสนับสนุนยกย่องโจผีหรือกพูดจาว่าร้ายโจสิด เพียงแต่เตือนโจโฉระวังเรื่องการไม่ตั้งลูกคนโตเป็นทายาทอย่างที่เคยเกิดกับอ้วนเสี้ยว เล่าเปียวในอดีต
สุมาอี้ ถูกโจโฉจับตามองมาตั้งแต่ปฏิเสธไม่ยอมรับราชการ ต้องแกล้งป่วยเป็นลมอัมพาตอยู่หลายปี จนภายหลังถูกโจโฉข่มขู่ จึงจำยอมต้องมารับราชการ มีบันทึกในจิ้นซูหรือพงศาวดารราชวงศ์จิ้นว่าสุมาอี้รู้ตัวว่าโจโฉระแวงตน จึงตั้งใจทำงานราชการอย่างขยันขันแข็ง กลางคืนไม่หลับนอน ถึงขนาดไปอยู่ร่วมกับคนเลี้ยงสัตว์ เดินเท้าทำงานทุกอย่างไม่เว้น จนทำให้โจโฉคลายความระแวงลงไป
แม้ภายหลังสุมาอี้จะมีตำแหน่งเป็นไท่ฟู่ (太傅) ที่มหาราชครูซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของขุนนาง เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน มีศักดินาสี่อำเภอรวมมากกว่าหนึ่งหมื่นครัวเรือน มีญาติพี่น้องสิบเอ็ดคนเป็นโหวกินศักดินา สุมาอี้ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้อื่น บางครั้งปฏิเสธไม่ให้ลูกหลานรับบรรดาศักดิ์จากราชสำนัก มีบันทึกว่าเมื่อสุมาอี้พบกับฉางหลิน (常林) ผู้มีตำแหน่งเป็นไท่ฉาง (太常) หรือสมุหพระราชพิธี ซึ่งเป็นขุนนางอาวุโสคนบ้านเดียวกัน สุมาอี้จะโค้งคำนับทุกครั้งแม้ว่าตนจะมีตำแหน่งสูงกว่า
ในช่วงแรกที่ได้เป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับโจซอง สุมาอี้เห็นว่าโจซองเป็นพระญาติใกล้ชิดจะขอให้โจซองเดินนำหน้าตนเสมอ ในขณะที่โจซองเห็นว่าสุมาอี้มีชื่อเสียงเกียรติคุณมาก จึงขอเดินตามหลัง
สุมาอี้ยังอบรมสั่งสอนน้องและบุตรโดยอ้างอิงคำสอนของจวงจื่อว่า "ความมั่งคั่งลัทธิเต๋าถือเป็นข้อห้าม สี่ฤดูกาลนั้นผันแปรเปลี่ยนแปลง ตัวข้านั้นมีคุณธรรมอันใด กระทำน้อยลงน้อยลง (คืออยู่อย่างถ่อมตัวมากที่สุด) จึงจะหลีกเลี่ยงภัยได้" 「盛滿者道家之所忌,四時猶有推移,吾何德以堪之。損之又損之,庶可以免乎!」
ยกตัวอย่างกุนซือในยุคสามก๊กดังนี้ครับ
กาเซี่ยง มีส่วนทำให้โจโฉพ่ายแพ้ยับเยินมาก่อน รวมถึงทำให้โจงั่ง โจอั๋นบิ๋น และเตียนอุยตาย เรียกได้ว่ามีความแค้นส่วนตัวอยู่ ภายหลังเมื่อเสนอให้เตียวสิ้วสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ โจโฉจะยกย่องให้เกียรติกาเซี่ยงอย่างดี แต่กาเซี่ยงแม้จะโดดเด่นด้านการวางแผนการ แต่รู้ตัวดีว่าไม่ได้เป็นคนของโจโฉมาแต่เดิม เกรงจะถูกระแวง จึงทำตัว Low Profile ปิดประตูเก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่คบค้าสมาคมผูกสัมพันธ์ส่วนตัวกับใคร ไม่ให้ลูกชายลูกสาวแต่งงานเกี่ยวดองกับตระกูลที่มีอำนาจ กาเซี่ยงจึงได้รับความเคารพนับถือจากปัญญาชนจำนวนมาก
กาเซี่ยงเสนอแผนการต่างๆ ให้โจโฉเท่าที่จำเป็นหรือเมื่อโจโฉถามเท่านั้น ในเรื่องการช่วยเหลือให้โจผีเป็นรัชทายาท เมื่อโจผีขอความช่วยเหลือจากกาเซี่ยง กาเซี่ยงไม่ได้เสนอแผนการอะไร เพียงขอให้โจผีมีน้ำใจเอื้อเฟื้อตั้งอยู่ในคุณธรรม ตั้งใจทำงาน ประพฤติตนตามวิถีของบุตรที่ดีพึงกระทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว เมื่อโจโฉถามความเห็นเรื่องรัชทายาทจากกาเซี่ยง กาเซี่ยงไม่ได้ออกตัวสนับสนุนยกย่องโจผีหรือกพูดจาว่าร้ายโจสิด เพียงแต่เตือนโจโฉระวังเรื่องการไม่ตั้งลูกคนโตเป็นทายาทอย่างที่เคยเกิดกับอ้วนเสี้ยว เล่าเปียวในอดีต
สุมาอี้ ถูกโจโฉจับตามองมาตั้งแต่ปฏิเสธไม่ยอมรับราชการ ต้องแกล้งป่วยเป็นลมอัมพาตอยู่หลายปี จนภายหลังถูกโจโฉข่มขู่ จึงจำยอมต้องมารับราชการ มีบันทึกในจิ้นซูหรือพงศาวดารราชวงศ์จิ้นว่าสุมาอี้รู้ตัวว่าโจโฉระแวงตน จึงตั้งใจทำงานราชการอย่างขยันขันแข็ง กลางคืนไม่หลับนอน ถึงขนาดไปอยู่ร่วมกับคนเลี้ยงสัตว์ เดินเท้าทำงานทุกอย่างไม่เว้น จนทำให้โจโฉคลายความระแวงลงไป
แม้ภายหลังสุมาอี้จะมีตำแหน่งเป็นไท่ฟู่ (太傅) ที่มหาราชครูซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของขุนนาง เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน มีศักดินาสี่อำเภอรวมมากกว่าหนึ่งหมื่นครัวเรือน มีญาติพี่น้องสิบเอ็ดคนเป็นโหวกินศักดินา สุมาอี้ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้อื่น บางครั้งปฏิเสธไม่ให้ลูกหลานรับบรรดาศักดิ์จากราชสำนัก มีบันทึกว่าเมื่อสุมาอี้พบกับฉางหลิน (常林) ผู้มีตำแหน่งเป็นไท่ฉาง (太常) หรือสมุหพระราชพิธี ซึ่งเป็นขุนนางอาวุโสคนบ้านเดียวกัน สุมาอี้จะโค้งคำนับทุกครั้งแม้ว่าตนจะมีตำแหน่งสูงกว่า
ในช่วงแรกที่ได้เป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับโจซอง สุมาอี้เห็นว่าโจซองเป็นพระญาติใกล้ชิดจะขอให้โจซองเดินนำหน้าตนเสมอ ในขณะที่โจซองเห็นว่าสุมาอี้มีชื่อเสียงเกียรติคุณมาก จึงขอเดินตามหลัง
สุมาอี้ยังอบรมสั่งสอนน้องและบุตรโดยอ้างอิงคำสอนของจวงจื่อว่า "ความมั่งคั่งลัทธิเต๋าถือเป็นข้อห้าม สี่ฤดูกาลนั้นผันแปรเปลี่ยนแปลง ตัวข้านั้นมีคุณธรรมอันใด กระทำน้อยลงน้อยลง (คืออยู่อย่างถ่อมตัวมากที่สุด) จึงจะหลีกเลี่ยงภัยได้" 「盛滿者道家之所忌,四時猶有推移,吾何德以堪之。損之又損之,庶可以免乎!」
แสดงความคิดเห็น
กุนซือจีนโบราณไม่ให้เด่นจนเกินไปมีหลักปฏิบัติเช่นไรครับ
อย่างสุมาอี้จัดไหมครับ ดั่งคำว่า เด่นเกินไปภัยมาถึงตัว หากไม่อยากเรื่องมากก็จงทำตัวสามัญที่สุด