สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เราเข้าใจความสับสนของคุณนะคะ และเราไม่ได้มาตอบเพื่อฟันธง ว่าคุณเป็นอะไรกันแน่
เราจะมาแชร์มุมมอง แนวคิด เผื่อว่า หากคุณอ่านแล้ว จะรู้สึกว่ามีเพื่อน ตนเองมิได้ประหลาด
และมีคนที่เป็นเหมือนกัน หรือคล้ายกัน
แต่ในมุมของเรา จะออกแนวเหนือธรรมชาติหน่อยๆ หากไม่เชื่อ ก็ถือซะว่า อ่านนิทานขำๆไปละกันนะคะ
เราไม่เคยสับสนตัวเอง ว่าเราเป็นเพศไหน เพราะเรารู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองเป็น ชาย
(เราเชื่อเรื่องภพชาติ การเวียนว่ายตายเกิดนะ)
ที่มาเกิดเป็นหญิง เราก็อาจจะขัดใจนิดๆ ที่ชาตินี้ ไม่ได้ใช้ร่างผู้ชายที่ไม่ยุ่งยาก และ แข็งแรง มีมัดกล้ามสวยๆ
แต่เราไม่เคยคิดแปลงเพศ ไม่เคยคิดแต่งตัวเลียนแบบชาย
เราอยู่ในร่างผู้หญิงที่ หากเราเป็นชาย เราก็ชอบผู้หญิงแบบนี้แหละ
เราจึงพอใจในรูปร่างของตัวเองในชาตินี้ด้วย ไม่คิดว่า ต้องไปเปลี่ยนแปลงอะไร ให้ต้องเจ็บด้วยมีดหมอเล่น
คุณชอบความนุ่มนิ่ม งดงาม แบบหญิง
เราชอบความแกร่ง ความใจใหญ่ ความไม่เรื่องมาก แบบชาย
เรื่อง ความรัก
เราเคยมีคนมารักเราทั้งสองเพศ (ผู้หญิงมองว่าเราเท่ ผู้ชายมองว่าเราสง่า) และเราก็เคยรักตอบ ทั้งสองเพศ
ผู้ชาย (ส่วนใหญ่) ตกหลุมรักเรา เพราะเขารู้สึกว่าเราเป็นที่ พึ่งพิงทางใจได้ และเมื่อได้คบได้คุยกับเรา
พวกเขาจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิง และเราเป็นชายมากกว่าเขา บางคนก็บ่นเหมือนกัน ว่าทำไมจู่ๆเขารู้สึกขึ้นมาแบบนี้
เรื่องภพชาติ มันซับซ้อน คนเราเกิดตายมาหลายหน เกิดกันมาหลายเพศ
เคยพบกัน เจอกัน รักกันมาในทุกสถานะ ชาตินี้ถึงมามีปฏิสัมพันธ์กัน และดีต่อกันอีก
เพราะฉะนั้น เราไม่เคยรู้สึกว่าต้องแบ่งแยกเพศ หากจะรักใคร เรารักที่ใจเขานั่นแหละ
และใจดวงนี้ หากไปอยู่ในร่างหญิงหรือ ชาย … เราก็รักทั้งนั้น ไม่เห็น ต้องนิยามให้วุ่นวาย
ด้วยว่าเป้าหมายหลักในชีวิตเรา ไม่ใช่การมีชีวิตคู่ เราชอบจิตใจตัวเอง ยามที่สะอาด ปราศจากราคะมาครอบงำมากกว่า
เพราะฉะนั้น
หากเราไปเจอใครที่เราถูกใจ เรามักจะหลบเลี่ยง ถ้าใครทำให้เราหวั่นไหว เรามักจะถอยห่าง
หากใครเป็นฝ่ายเข้าหา และ ทำดีกับเรา เราก็ไม่คิดปฏิเสธแบบหักหาญน้ำใจ เรามองว่า การที่ได้เวียนมาเจอกันอีก
รักกันอีก มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ …
เราก็พร้อมจะประคับประคอง ให้กำลังใจ ชี้นำ ให้พวกเขามีที่พึ่งทางใจ ทุกคน จะอยู่ในโซนของ “กัลยาณมิตร”
หากใครล้ำเส้น อยากได้เพิ่ม หรือ เริ่มทำร้ายกัน เราจะส่งออกไปอยู่ โซน “คนนอก”
เห็นไหมคะ แม้เรื่องทางใจล้วนๆ เรายังรู้สึกอยากเป็นอิสระจากคำว่า สถานะทั้งปวงเลย
สรุปคือ เราเข้าใจตัวเอง อย่าถ่องแท้ ในทุกเวอร์ชั่น เราจึงไม่มีความสับสน และไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกแต่อย่างใดค่ะ
เราจะมาแชร์มุมมอง แนวคิด เผื่อว่า หากคุณอ่านแล้ว จะรู้สึกว่ามีเพื่อน ตนเองมิได้ประหลาด
และมีคนที่เป็นเหมือนกัน หรือคล้ายกัน
แต่ในมุมของเรา จะออกแนวเหนือธรรมชาติหน่อยๆ หากไม่เชื่อ ก็ถือซะว่า อ่านนิทานขำๆไปละกันนะคะ
เราไม่เคยสับสนตัวเอง ว่าเราเป็นเพศไหน เพราะเรารู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองเป็น ชาย
(เราเชื่อเรื่องภพชาติ การเวียนว่ายตายเกิดนะ)
ที่มาเกิดเป็นหญิง เราก็อาจจะขัดใจนิดๆ ที่ชาตินี้ ไม่ได้ใช้ร่างผู้ชายที่ไม่ยุ่งยาก และ แข็งแรง มีมัดกล้ามสวยๆ
แต่เราไม่เคยคิดแปลงเพศ ไม่เคยคิดแต่งตัวเลียนแบบชาย
เราอยู่ในร่างผู้หญิงที่ หากเราเป็นชาย เราก็ชอบผู้หญิงแบบนี้แหละ
เราจึงพอใจในรูปร่างของตัวเองในชาตินี้ด้วย ไม่คิดว่า ต้องไปเปลี่ยนแปลงอะไร ให้ต้องเจ็บด้วยมีดหมอเล่น
คุณชอบความนุ่มนิ่ม งดงาม แบบหญิง
เราชอบความแกร่ง ความใจใหญ่ ความไม่เรื่องมาก แบบชาย
เรื่อง ความรัก
เราเคยมีคนมารักเราทั้งสองเพศ (ผู้หญิงมองว่าเราเท่ ผู้ชายมองว่าเราสง่า) และเราก็เคยรักตอบ ทั้งสองเพศ
ผู้ชาย (ส่วนใหญ่) ตกหลุมรักเรา เพราะเขารู้สึกว่าเราเป็นที่ พึ่งพิงทางใจได้ และเมื่อได้คบได้คุยกับเรา
พวกเขาจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิง และเราเป็นชายมากกว่าเขา บางคนก็บ่นเหมือนกัน ว่าทำไมจู่ๆเขารู้สึกขึ้นมาแบบนี้
เรื่องภพชาติ มันซับซ้อน คนเราเกิดตายมาหลายหน เกิดกันมาหลายเพศ
เคยพบกัน เจอกัน รักกันมาในทุกสถานะ ชาตินี้ถึงมามีปฏิสัมพันธ์กัน และดีต่อกันอีก
เพราะฉะนั้น เราไม่เคยรู้สึกว่าต้องแบ่งแยกเพศ หากจะรักใคร เรารักที่ใจเขานั่นแหละ
และใจดวงนี้ หากไปอยู่ในร่างหญิงหรือ ชาย … เราก็รักทั้งนั้น ไม่เห็น ต้องนิยามให้วุ่นวาย
ด้วยว่าเป้าหมายหลักในชีวิตเรา ไม่ใช่การมีชีวิตคู่ เราชอบจิตใจตัวเอง ยามที่สะอาด ปราศจากราคะมาครอบงำมากกว่า
เพราะฉะนั้น
หากเราไปเจอใครที่เราถูกใจ เรามักจะหลบเลี่ยง ถ้าใครทำให้เราหวั่นไหว เรามักจะถอยห่าง
หากใครเป็นฝ่ายเข้าหา และ ทำดีกับเรา เราก็ไม่คิดปฏิเสธแบบหักหาญน้ำใจ เรามองว่า การที่ได้เวียนมาเจอกันอีก
รักกันอีก มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ …
เราก็พร้อมจะประคับประคอง ให้กำลังใจ ชี้นำ ให้พวกเขามีที่พึ่งทางใจ ทุกคน จะอยู่ในโซนของ “กัลยาณมิตร”
หากใครล้ำเส้น อยากได้เพิ่ม หรือ เริ่มทำร้ายกัน เราจะส่งออกไปอยู่ โซน “คนนอก”
เห็นไหมคะ แม้เรื่องทางใจล้วนๆ เรายังรู้สึกอยากเป็นอิสระจากคำว่า สถานะทั้งปวงเลย
สรุปคือ เราเข้าใจตัวเอง อย่าถ่องแท้ ในทุกเวอร์ชั่น เราจึงไม่มีความสับสน และไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกแต่อย่างใดค่ะ

แสดงความคิดเห็น
รู้สึกว่าตัวเองเป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง
อ่อๆๆๆ
ผมชอบผู้หญิงนะครับ ย้ำนะครับ ชอบผู้หญิงครับ ชอบมากๆๆๆๆๆๆด้วย ชอบจนรู้สึกอยากเป็นผู้หญิงซะเองไปด้วย
(ถ้าสมมุติว่าชาติหน้ามีอยู่จริง ผมอยากเกิดเป็นผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกันเอง ก็เลสเบี้ยนนั่นแหละครับ)
คือตอนแรกผมคิดว่าผมแค่อยากแต่งหญิง แต่บางทีความรู้สึกว่ามันเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงจริงๆ เคยคิดถึงขั้นว่าอยากแปลงเพศดูครับ คิดว่าถ้าเป็นผู้หญิงน่าจะเหมาะกับเรา แต่คิดไปคิดมาก็แบบลังเลใจ เลยลองใช้วิธีส่องกระจกมองหน้าตัวเอง มองร่างกายตัวเอง แล้วถามใจตัวเองว่า คิดยังไงกับร่างกายตัวเอง ก็พบว่า เราก็ภูมิใจในร่างกายที่เราเป็นอยู่นี่นา คือไม่ได้เกลียดเพศตัวเองที่เป็นอยู่ก็รู้สึกมีความสุขดี
ซึ่งบางวันผมก็ไม่เป็นนะครับ วันไหนที่ไม่เป็นก็จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่ก็มีบางวันที่รู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นหญิงสูงกว่าปกติ คือจากที่เป็นแค่ช่วงเย็น แต่อาจจะเป็นทั้งวันเลย
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าวันไหนผมจะเป็นยังไง สวิงขึ้นสวิงลง 555
แต่เอาจริงๆแล้วโดยปกติแล้วผมเป็นผู้ชายที่นิสัยค่อนข้างคล้ายผู้หญิงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม คือแบบว่า นุ่มนิ่ม ใช้คำนี้ได้ไหม 555 เอาเป็นว่า เคะมากๆ แถมหน้าผมออกหวานๆ ทำให้ผมดูคล้ายผู้หญิง ออกแนวทอมหวานๆไปเลย 555
คำถาม คือ สิ่งที่ผมเป็นคือผมเป็นผู้ชายรึป่าวครับ หรือเรียกอย่างอื่นว่าอะไรครับ แบบ คน 2 เพศ หรือมีชื่ออะไรที่ใช้เรียกคนที่มีลักษณะแบบนี้ไหม หรือจริงๆแล้ว ผมแค่มีนิสัย รสนิยมที่น่ารักๆแบบผู้หญิงเฉยๆ >///<
(หรือผมโสด ไม่เคยมีแฟนเลยเกิดอาการแบบนี้รึป่าวครับ อารมณ์ประมาณว่าไม่มีใครเป็นแฟนก็เอาตัวเองเป็นแฟนซะเลย555)
ขอโทษนะครับถ้าอ่านแล้วงงๆ ลายตา ตั้งใจพิมพ์แบบไม่ให้งงสุดๆแล้ว
ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านมาตอบนะคร้าบ