จขกทอยู่กับแม่สองคนตั้งแต่เรียนจบและเริ่มทำงาน พ่อเสียไปนานแล้ว และแม่ก็เกษียณราชการก่อน มีเงินบำนาญและเงินเดือนจากเรา จขกท มีพี่ชาย 1 คน เค้าก็แยกไปอยู่ส่วนตัวแต่ก็ไปๆมาๆอยู่เสมอ ด้วยความที่เราเป็นสาวโสด ไม่มีแฟน แม่ก็ไม่มีใคร เลยไปไหนไปด้วยกันตลอด แม่รู้จักเพื่อนๆเราเป็นอย่างดี บ่อยครั้งที่ไปเที่ยวกับเพื่อนก็จะมีแม่ไปด้วย เราเป็นคน ตจว เข้ามาทำงานกรุงเทพ แม่ก็มาอยู่ด้วย ตั้งแต่บ้านเช่า จนซื้อคอนโด เพราะคิดว่าน่าจะอยู่เป็นโสด คงจะอยู่กะแม่จนตาย เลยคิดว่าเอาคอนโดแค่พออยู่ได้ 2 คนไม่ต้องผ่อนหนักมาก จะได้มีเงินเหลือเก็บเผื่อตอนแก่ และไปเที่ยว เป็นคอนโดขนาดเล็ก 35 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน
ปัญหาเกิดจากแม่ชอบซื้อของ ทุกๆอย่าง เสื้อผ้า ของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ของกระจุกกระจิก อะไรเค้าว่าดี แม่ก็จะไปหาซื้อมาด้วย แล้วไม่ค่อยทิ้งอะไรเลย เก็บจนของเต็มห้องไปหมด ใส่กล่อง ใส่ถุง ใส่ตู้ จนไม่มีที่เก็บ ก็วางไว้ทุกพื้นที่ที่วางได้ จนบนเตียงเต็ม นอนไม่ได้ ห้องรับแขก ห้องครัว มีแค่ทางเดินเล็กๆ แค่นั้น ยกตัวอย่าง เราเปลี่ยนฝักบัวใหม่ หรือลูกบิดประตู แม่ก็เก็บของเก่าไว้ เราถามว่าเก็บไว้ทำไม แม่บอกเผื่อต้องใช้ หรือถุงพลาสติกใบเล็กใบน้อยใบเบิ้ม ก็เก็บๆรวมๆไว้ในถุงใหญ่ 2 ถุงจนต้องเอาไว้ที่ระเบียง ระเบียงก็เต็มไปด้วยของ แอร์ติดไว้ 2 ตัว ห้องรับแขกและห้องนอน ก็ต้องเปิด 2 ตัวทุกคืนรวมพัดลมด้วย เพราะไม่เย็น ตู้เย็นไม่ต้องพูดถึง เต็มไปด้วยฟอสซิล เราไม่อยากเปิดเลย ไม่รู้อะไรในนั้นบ้าง
เราเริ่มพูดกับแม่ คุยดีๆด้วยเหตุผล ให้แม่เห็นว่าห้องเรามันไม่ไหวแล้วนะ ของมันเยอะเกินไปแล้ว ของอะไรไม่ใช้ก็ทิ้งไปบ้าง เข้าใจอยู่ว่าของมันยังใช้ได้ แต่ถ้า 2 ปีไม่ได้ใช้แล้ว เราคงไม่ได้ใช้แล้วแหละ แล้วของมันเยอะจนจำไม่ได้ว่าเก็บอะไรไว้ตรงไหน พอถึงเวลาจะต้องใช้ก็ต้องหามาใหม่อยู่ดี เรื่องทำความสะอาดไม่ต้องพูดถึง ค่าไฟก็ขึ้น แม่ต้องเอาของไปทิ้งบ้าง แม่ก็มีโล๊ะของบ้าง แต่ก็ไปซื้อกลับมาเต็มเหมือนเดิม พอเราเริ่มพูดมากๆ แม่ก็ไม่พอใจ งอน มีดึงดราม่าตลอดๆ บอกว่า ใช่ซิ เค้าเป็นผู้อาศัยนิ น้อยใจ นู่นนี่ เราก็ไม่สบายใจ ก็เลิกพูด เราใช้วิธีโล๊ะของตัวเอง เอาไปทิ้ง เอาไปบริจาค แต่ก็ไม่ได้ช่วย เพราะพอมีที่ว่างแม่ก็เริ่มเอาของแม่มาใส่เพิ่มขึ้น จนของในห้อง 80% เป็นของแม่ เราก็เริ่มแอบเอาของเค้าไปทิ้งเวลาแม่ไม่อยู่ บางอย่างเค้าจำไม่ได้ก็แล้วไป แต่บางอย่างเค้าก็จะโวยวาย อย่างเราเอาถุงพลาสติก 2 ถุงยักษ์ที่เก็บถุงไปทิ้ง แม่เค้ามาต่อว่าเราว่าเวลาเค้าจะใช้ถุงขยะไม่มี เราบอกถุงมันไม่ขาดแคลนหรอก เดี๋ยวก็ได้มาใหม่ แล้วแม่ก็เริ่มสะสมใหม่
เราได้งานใหม่ไปทำงานเดือนนึง และว่างเดือนนึง รายได้ดีมาก เราอึดอัดที่จะอยู่แบบนี้ ก็เลยคิดจะหาห้องเช่าของตัวเอง อยู่ในคอนโดเดียวกันนั่นแหละ พอบอกแม่ แม่ไม่พอใจมาก ดึงดราม่าอีกเหมือนเดิม บอกว่าเค้าเป็นคนสร้างปัญหา เราไม่อยากอยู่กับเค้าแล้ว เค้าจะเป็นคนออกไปเอง ทะเลาะกันอีก เราอึดอัดสุดๆ ทำอะไรไม่ได้เลย ก็ปล่อยไปอีก จนวันนึงเรามีแฟน และแต่งงานมาอยู่ต่างประเทศ ก่อนมาก็เอาของๆเราเก็บรวมๆกันไว้เล็กๆ แม่ก็อยู่คอนโดคนเดียว ไปอยู่กะพี่บ้าง แต่เค้าสะดวกอยู่คอนโดมากว่า เพราะมันอยู่ในเมือง เค้าไปไหนมาไหนสะดวก ไปหาเพื่อนๆ ไป รพ ได้ จนช่วงโควิด พี่ชายก็มารับแม่ไปอยู่ด้วย เราเองเพิ่งมีโอกาสได้กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับมาเกือบ 4 ปี ก่อนกลับไป แม่เค้ากลับไปอยู่คอนโดอาทิตย์นึง เค้าบอกว่า มาเก็บห้อง กลัวเราบ่น เรากลับมา แทบเป็นลม คือสภาพห้องเหมือนเป็นห้องเก็บของเลย แทบไม่มีทางเดิน ของเต็มไปหมด อะไรบ้างก็ไม่รู้ ในห้องนอนเข้าไม่ได้ เพราะของเต็ม ห้องรับแขกโซฟาเบดนอนได้ 1 คน อีกคนต้องนอนพื้น แหวกๆ ของเอา พอซุกตัวได้ เราแบบ จุกเลย นี่คืออะไร พูดไม่ออก ไม่อยากพูดด้วย เหมือนแม่เค้าจะรู้ แม่ก็มีเกริ่นๆ แบบว่าจะเอาของไปทิ้งเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลา เรากลับมาอยู่บ้านแค่อาทิตย์เดียว อยากจะจัดห้องเหลือเกิน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี คงต้องทิ้งหมด แม่ก็ต้องโกรธมากแน่ๆ เลยไม่ได้ทำอะไร ตอนนี้พาแม่กลับมาอยู่ ตปท ด้วยระยะสั้นๆ กลับไป ก็คงไปอยู่กับพี่ชาย เพราะเค้าเริ่มมีอาการหลงลืม ไม่อยากให้อยู่คนเดียว เราเองก็เป็นห่วง แม่เค้าไม่อยากอยู่ ตปท เค้าอยากกลับบ้าน อยากอยู่คอนโด แต่คงไม่ได้แล้ว เราคุยกับแม่ว่า ให้แม่กลับไปก่อน แต่ในอนาคตถ้าเราดูว่าแม่เริ่มแก่มาก ต้องมีคนดูแล เราจะไปรับแม่กลับมาอยู่กับเราที่นี่ เค้าไม่อยาก แต่ก็ยอมโอเค
เกริ่นมาซะยาว เราจะจัดการยังไงกับของในห้องดีคะ คือของมันไม่ใช่ขยะ แต่มันเป็นของที่เกินความจำเป็น ไม่ได้ใช้ จะคุยกับแม่ยังไงให้เข้าใจ ห้องมันไม่ไหวแล้วจริงๆ ย้ายของไปอยู่กับพี่ชายไม่ได้ค่ะ ที่นั่นก็ไม่มีที่เก็บเหมือนกัน
หัวจะปวดกับคุณแม๊ชอบสะสมของ มีวิธีจัดการยังไงดีคะ
ปัญหาเกิดจากแม่ชอบซื้อของ ทุกๆอย่าง เสื้อผ้า ของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ของกระจุกกระจิก อะไรเค้าว่าดี แม่ก็จะไปหาซื้อมาด้วย แล้วไม่ค่อยทิ้งอะไรเลย เก็บจนของเต็มห้องไปหมด ใส่กล่อง ใส่ถุง ใส่ตู้ จนไม่มีที่เก็บ ก็วางไว้ทุกพื้นที่ที่วางได้ จนบนเตียงเต็ม นอนไม่ได้ ห้องรับแขก ห้องครัว มีแค่ทางเดินเล็กๆ แค่นั้น ยกตัวอย่าง เราเปลี่ยนฝักบัวใหม่ หรือลูกบิดประตู แม่ก็เก็บของเก่าไว้ เราถามว่าเก็บไว้ทำไม แม่บอกเผื่อต้องใช้ หรือถุงพลาสติกใบเล็กใบน้อยใบเบิ้ม ก็เก็บๆรวมๆไว้ในถุงใหญ่ 2 ถุงจนต้องเอาไว้ที่ระเบียง ระเบียงก็เต็มไปด้วยของ แอร์ติดไว้ 2 ตัว ห้องรับแขกและห้องนอน ก็ต้องเปิด 2 ตัวทุกคืนรวมพัดลมด้วย เพราะไม่เย็น ตู้เย็นไม่ต้องพูดถึง เต็มไปด้วยฟอสซิล เราไม่อยากเปิดเลย ไม่รู้อะไรในนั้นบ้าง
เราเริ่มพูดกับแม่ คุยดีๆด้วยเหตุผล ให้แม่เห็นว่าห้องเรามันไม่ไหวแล้วนะ ของมันเยอะเกินไปแล้ว ของอะไรไม่ใช้ก็ทิ้งไปบ้าง เข้าใจอยู่ว่าของมันยังใช้ได้ แต่ถ้า 2 ปีไม่ได้ใช้แล้ว เราคงไม่ได้ใช้แล้วแหละ แล้วของมันเยอะจนจำไม่ได้ว่าเก็บอะไรไว้ตรงไหน พอถึงเวลาจะต้องใช้ก็ต้องหามาใหม่อยู่ดี เรื่องทำความสะอาดไม่ต้องพูดถึง ค่าไฟก็ขึ้น แม่ต้องเอาของไปทิ้งบ้าง แม่ก็มีโล๊ะของบ้าง แต่ก็ไปซื้อกลับมาเต็มเหมือนเดิม พอเราเริ่มพูดมากๆ แม่ก็ไม่พอใจ งอน มีดึงดราม่าตลอดๆ บอกว่า ใช่ซิ เค้าเป็นผู้อาศัยนิ น้อยใจ นู่นนี่ เราก็ไม่สบายใจ ก็เลิกพูด เราใช้วิธีโล๊ะของตัวเอง เอาไปทิ้ง เอาไปบริจาค แต่ก็ไม่ได้ช่วย เพราะพอมีที่ว่างแม่ก็เริ่มเอาของแม่มาใส่เพิ่มขึ้น จนของในห้อง 80% เป็นของแม่ เราก็เริ่มแอบเอาของเค้าไปทิ้งเวลาแม่ไม่อยู่ บางอย่างเค้าจำไม่ได้ก็แล้วไป แต่บางอย่างเค้าก็จะโวยวาย อย่างเราเอาถุงพลาสติก 2 ถุงยักษ์ที่เก็บถุงไปทิ้ง แม่เค้ามาต่อว่าเราว่าเวลาเค้าจะใช้ถุงขยะไม่มี เราบอกถุงมันไม่ขาดแคลนหรอก เดี๋ยวก็ได้มาใหม่ แล้วแม่ก็เริ่มสะสมใหม่
เราได้งานใหม่ไปทำงานเดือนนึง และว่างเดือนนึง รายได้ดีมาก เราอึดอัดที่จะอยู่แบบนี้ ก็เลยคิดจะหาห้องเช่าของตัวเอง อยู่ในคอนโดเดียวกันนั่นแหละ พอบอกแม่ แม่ไม่พอใจมาก ดึงดราม่าอีกเหมือนเดิม บอกว่าเค้าเป็นคนสร้างปัญหา เราไม่อยากอยู่กับเค้าแล้ว เค้าจะเป็นคนออกไปเอง ทะเลาะกันอีก เราอึดอัดสุดๆ ทำอะไรไม่ได้เลย ก็ปล่อยไปอีก จนวันนึงเรามีแฟน และแต่งงานมาอยู่ต่างประเทศ ก่อนมาก็เอาของๆเราเก็บรวมๆกันไว้เล็กๆ แม่ก็อยู่คอนโดคนเดียว ไปอยู่กะพี่บ้าง แต่เค้าสะดวกอยู่คอนโดมากว่า เพราะมันอยู่ในเมือง เค้าไปไหนมาไหนสะดวก ไปหาเพื่อนๆ ไป รพ ได้ จนช่วงโควิด พี่ชายก็มารับแม่ไปอยู่ด้วย เราเองเพิ่งมีโอกาสได้กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับมาเกือบ 4 ปี ก่อนกลับไป แม่เค้ากลับไปอยู่คอนโดอาทิตย์นึง เค้าบอกว่า มาเก็บห้อง กลัวเราบ่น เรากลับมา แทบเป็นลม คือสภาพห้องเหมือนเป็นห้องเก็บของเลย แทบไม่มีทางเดิน ของเต็มไปหมด อะไรบ้างก็ไม่รู้ ในห้องนอนเข้าไม่ได้ เพราะของเต็ม ห้องรับแขกโซฟาเบดนอนได้ 1 คน อีกคนต้องนอนพื้น แหวกๆ ของเอา พอซุกตัวได้ เราแบบ จุกเลย นี่คืออะไร พูดไม่ออก ไม่อยากพูดด้วย เหมือนแม่เค้าจะรู้ แม่ก็มีเกริ่นๆ แบบว่าจะเอาของไปทิ้งเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลา เรากลับมาอยู่บ้านแค่อาทิตย์เดียว อยากจะจัดห้องเหลือเกิน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี คงต้องทิ้งหมด แม่ก็ต้องโกรธมากแน่ๆ เลยไม่ได้ทำอะไร ตอนนี้พาแม่กลับมาอยู่ ตปท ด้วยระยะสั้นๆ กลับไป ก็คงไปอยู่กับพี่ชาย เพราะเค้าเริ่มมีอาการหลงลืม ไม่อยากให้อยู่คนเดียว เราเองก็เป็นห่วง แม่เค้าไม่อยากอยู่ ตปท เค้าอยากกลับบ้าน อยากอยู่คอนโด แต่คงไม่ได้แล้ว เราคุยกับแม่ว่า ให้แม่กลับไปก่อน แต่ในอนาคตถ้าเราดูว่าแม่เริ่มแก่มาก ต้องมีคนดูแล เราจะไปรับแม่กลับมาอยู่กับเราที่นี่ เค้าไม่อยาก แต่ก็ยอมโอเค
เกริ่นมาซะยาว เราจะจัดการยังไงกับของในห้องดีคะ คือของมันไม่ใช่ขยะ แต่มันเป็นของที่เกินความจำเป็น ไม่ได้ใช้ จะคุยกับแม่ยังไงให้เข้าใจ ห้องมันไม่ไหวแล้วจริงๆ ย้ายของไปอยู่กับพี่ชายไม่ได้ค่ะ ที่นั่นก็ไม่มีที่เก็บเหมือนกัน