ทีมของโฆษก บช.น.ระบุจะเร่งตรวจสอบภาพชายใช้อาวุธปืนอยู่ในกลุ่ม คฝ. ที่ดินแดง
https://prachatai.com/journal/2022/06/99089
ทีมของโฆษก บช.น. ขอข้อมูลเพิ่มเติมและระบุว่าจะเร่งตรวจสอบภาพ ชายใช้อาวุธปืนอยู่ในกลุ่มตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ดินแดง ระหว่างควบคุมม็อบ 'เดินไล่ตู่' ค่ำวันที่ 11 มิ.ย. อุปนายกฝ่ายสิทธิฯ สมาคมนักข่าว ขอ บช.น. แจงความชัดเจน ย้ำต่อให้เป็นอาวุธไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ใช้ต่อหน้า จนท.โดยที่ไม่มีใครห้ามปราม
ภาพชายที่ใช้อาวุธปืนยิงปะปนอยู่ในกลุ่มตำรวจควบคุมฝูงชน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2565 (ภาพโดย แมวส้ม ประชาไท)
15 มิ.ย.2565 จากกรณีปรากฏภาพถ่ายพบชายที่ใช้อาวุธปืนยิงปะปนอยู่ในกลุ่มตำรวจควบคุมฝูงชน ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกดินแดงที่กลุ่มม็อบ
'เดินไล่ตู่' จัดชุมนุมเดินขบวนเพื่อขับไล่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกฯ ช่วงค่ำวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประชาไท สอบถามไปยัง พล.ต.ต.
จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)และโฆษก บช.น. ถึงเหตุดังกล่าว โดยทีมโฆษกของ พล.ต.ต.
จิรสันต์ ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมและระบุว่าจะเร่งตรวจสอบภาพดังกล่าว
ก่อนหน้านั้น
ธีรนัย จารุวัสตร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่าบุคคลในภาพเป็นใคร หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ การแต่งกายแบบนี้จะสร้างความสับสนไหม จะแยกได้อย่างไรว่าเป็นเจ้าหน้าที่หากประจำจุดอื่น และมีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องแต่งกายนอกเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้
ธีรนัย ยังตั้งคำถามด้วยว่า หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำไมถึงสามารถใช้อาวุธ ต่อให้เป็นอาวุธไม่ถึงแก่ชีวิต ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ได้โดยที่ไม่มีใครห้ามปราม หวังว่าจะได้เห็นคำชี้แจงในประเด็นดังกล่าวจาก บช.น.เร็วๆ นี้
แม่ค้า-ผู้ปกครองโคราช หนุน รร.เขตปลอดกัญชา หวั่นเยาวชนซื้อกินมีผลพัฒนาการช้า
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3402671
แม่ค้า-ผู้ปกครองโคราช หนุน รร.เขตปลอดกัญชา หวั่นเยาวชนซื้อกินมีผลพัฒนาการช้า
นครราชสีมา วันที่ 16 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านค้า แผงลอย ขายน้ำ และอาหาร ที่มาตั้งขายบริเวณหน้าโรงเรียนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าโรงเรียนสุขานารี ถนนมุขมนตรี ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ยังไม่พบว่ามีการนำอาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา มาวางขายแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเป็นขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ลูกชิ้นทอด น้ำผลไม้ปั่น และน้ำอัดลม เป็นต้น
น.ส.
สุกัญญา รองจะโปะ อายุ 41 ปี ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลเปิดเสรีกัญชา ซึ่งทำให้สามารถนำกัญชามาเป็นส่วนผสมของอาหารต่างๆ นำไปขายได้นั้น ตนเองก็รู้สึกกังวลใจ กลัวว่าจะมีพ่อค้า แม่ค้า นำอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชามาขายบริเวณหน้าโรงเรียน เพราะมีเยาวชนมาซื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้ข่าวว่าฤทธิ์ของกัญชาจะทำให้เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้ช้าลง อีกทั้งยังอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย ดังนั้นจึงอยากให้โรงเรียนประกาศเป็นเขตปลอดกัญชา 100% ไปเลย เพื่อให้ผู้ปกครองรู้สึกสบายใจได้
นางมะลิวัลย์ ฉายศิริ อายุ 61 ปี แม่ค้าขายอาหารและเครื่องดื่มหน้าโรงเรียนสุขานารี กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยอย่างมาก ที่จะมีคนนำอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชามาวางขายบริเวณหน้าโรงเรียน และผู้ใหญ่ก็ควรมีจิตสำนึกรู้ว่า ที่โรงเรียนมีแต่เยาวชน ไม่ควรให้มีอาหารผสมกัญชามาวางขายที่นี่ เนื่องจากเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ ไม่รู้ว่าสิ่งใดควร ไม่ควรกิน ถึงจะมีการเปิดเสรีก็จริง แต่ความเหมาะสมของสถานที่ขายไม่ใช่เลย เนื่องจากการบริโภคกัญชาในปริมาณที่มากเกิน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจจะเสียชีวิตได้ ตามที่มีปรากฏในข่าวตามสื่ออยู่ในขณะนี้.
“จิรายุ” จี้ รัฐสภาอย่ายื้อเวลาพิจารณาพรบ.ตำรวจ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_357628/
“จิรายุ” จี้ รัฐสภาอย่าพยายามยื้อเวลาพิจารณาพรบ.ตำรวจ พร้อมเรียกร้องพักการพิจารณา เอากฎหมายลูก 2 ฉบับมาก่อน
นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาพระราชบัญญัติตำรวจ ว่า ขอเรียกร้องไปยังสมาชิกรัฐสภาให้ได้แก้ไข ปรับปรุงและอย่ามีการกำหนดทิศทางที่จะยืดระยะเวลาการพิจารณา เพราะที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลายคนมีความเชื่อว่ามีความพยายามที่จะดึงร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ที่มี 170 กว่ามาตราให้ได้นานที่สุดเพื่อจะไม่ให้ทันการนำ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงถือเป็นเรื่องเลวร้าย เป็นเผด็จการรัฐสภา พวกมากลากไปอย่างที่เคยด่าว่าคนอื่นไว้ วันนี้ตนเชื่อว่าไม่น่าจะผ่านเกิน 10 มาตรา เนื่องจากเป็นมาตราเกี่ยวกับคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ , คณะกรรมการตำรวจ และคณะกรรมการคุณธรรม ซึ่งแต่ละมาตราที่แก้ไขก็ยังแก้แบบถอยหลังลงคลอง
ดังนั้น จึงไม่อยากให้ยืดการพิจารณาพ.ร.บ.ตำรวจออกไปอีกอย่างน้อยอีก 2 เดือน พร้อมขอเรียกร้องว่าถ้าเป็นไปได้ให้พักการพิจารณาพ.ร.บ.ตำรวจไว้ก่อนแล้วเอาเรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไข ที่มีไม่กี่มาตราเข้ามาพิจารณา ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน เข้ามาพิจารณาก่อน จะได้ดำเนินการในการประกาศใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ยังได้กล่าวถึงนโยบายปลดล็อกกัญชาเสรีที่ส่งผลกระทบกับการส่งออกสินค้าต่างประเทศ ว่า หลังจากปลดล็อกมาหลายวัน มีแต่ข่าวผู้เสียชีวิตมากมายเหมือนช่วงโควิด-19 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เมากัญ ชากันหนัก เนื่องจากรัฐบาลยังเพิกเฉยในการออกประกาศเพื่อควบคุมการใช้กัญชา
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ช่วงค่ำ ได้มีผู้ประกอบส่งออกสินค้าติดต่อผ่านมายังวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ฝากไปยังนายกรัฐมนตรี และกระทรวงพาณิชย์ว่า คู่ค้าของต่างประเทศไม่ต้อนรับกัญชาในรูปแบบสารผสมในอาหารส่งออก แม้ผู้ส่งออกจะระมัดระวัง แต่หากมีกรณีคนสอดไส้แล้วส่งออกไปยังสหภาพยุโรป สินค้าจากประเทศไทยจะถูกแบนแน่นอน และอาจมีการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) ด้วย ขณะที่ในประเทศอย่างตะวันออกกลางนั้น ก็มีโทษของการใช้กัญชาหนักถึงขั้นประหารชีวิต
พร้อมย้ำว่า หากจับมือใครดมไม่ได้ก็จะเป็นการประหารบริษัทส่งออกสินค้าของไทย ดังนั้นเรื่องกัญชาไม่ใช่สินค้าภายในประเทศเท่านั้นแต่จะเป็นปัญหาระหว่างประเทศด้วย
JJNY : เร่งสอบภาพชายใช้อาวุธในกลุ่มคฝ.│โคราชหนุนรร.เขตปลอดกัญชา│“จิรายุ”จี้อย่ายื้อพรบ.ตำรวจ│WHO เตรียมพิจารณา‘ฝีดาษลิง’
https://prachatai.com/journal/2022/06/99089
ทีมของโฆษก บช.น. ขอข้อมูลเพิ่มเติมและระบุว่าจะเร่งตรวจสอบภาพ ชายใช้อาวุธปืนอยู่ในกลุ่มตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ดินแดง ระหว่างควบคุมม็อบ 'เดินไล่ตู่' ค่ำวันที่ 11 มิ.ย. อุปนายกฝ่ายสิทธิฯ สมาคมนักข่าว ขอ บช.น. แจงความชัดเจน ย้ำต่อให้เป็นอาวุธไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ใช้ต่อหน้า จนท.โดยที่ไม่มีใครห้ามปราม
15 มิ.ย.2565 จากกรณีปรากฏภาพถ่ายพบชายที่ใช้อาวุธปืนยิงปะปนอยู่ในกลุ่มตำรวจควบคุมฝูงชน ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกดินแดงที่กลุ่มม็อบ 'เดินไล่ตู่' จัดชุมนุมเดินขบวนเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกฯ ช่วงค่ำวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประชาไท สอบถามไปยัง พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)และโฆษก บช.น. ถึงเหตุดังกล่าว โดยทีมโฆษกของ พล.ต.ต.จิรสันต์ ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมและระบุว่าจะเร่งตรวจสอบภาพดังกล่าว
ก่อนหน้านั้น ธีรนัย จารุวัสตร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่าบุคคลในภาพเป็นใคร หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ การแต่งกายแบบนี้จะสร้างความสับสนไหม จะแยกได้อย่างไรว่าเป็นเจ้าหน้าที่หากประจำจุดอื่น และมีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องแต่งกายนอกเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้
ธีรนัย ยังตั้งคำถามด้วยว่า หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำไมถึงสามารถใช้อาวุธ ต่อให้เป็นอาวุธไม่ถึงแก่ชีวิต ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ได้โดยที่ไม่มีใครห้ามปราม หวังว่าจะได้เห็นคำชี้แจงในประเด็นดังกล่าวจาก บช.น.เร็วๆ นี้
แม่ค้า-ผู้ปกครองโคราช หนุน รร.เขตปลอดกัญชา หวั่นเยาวชนซื้อกินมีผลพัฒนาการช้า
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3402671
แม่ค้า-ผู้ปกครองโคราช หนุน รร.เขตปลอดกัญชา หวั่นเยาวชนซื้อกินมีผลพัฒนาการช้า
นครราชสีมา วันที่ 16 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านค้า แผงลอย ขายน้ำ และอาหาร ที่มาตั้งขายบริเวณหน้าโรงเรียนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าโรงเรียนสุขานารี ถนนมุขมนตรี ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ยังไม่พบว่ามีการนำอาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา มาวางขายแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเป็นขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ลูกชิ้นทอด น้ำผลไม้ปั่น และน้ำอัดลม เป็นต้น
น.ส.สุกัญญา รองจะโปะ อายุ 41 ปี ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลเปิดเสรีกัญชา ซึ่งทำให้สามารถนำกัญชามาเป็นส่วนผสมของอาหารต่างๆ นำไปขายได้นั้น ตนเองก็รู้สึกกังวลใจ กลัวว่าจะมีพ่อค้า แม่ค้า นำอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชามาขายบริเวณหน้าโรงเรียน เพราะมีเยาวชนมาซื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้ข่าวว่าฤทธิ์ของกัญชาจะทำให้เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้ช้าลง อีกทั้งยังอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย ดังนั้นจึงอยากให้โรงเรียนประกาศเป็นเขตปลอดกัญชา 100% ไปเลย เพื่อให้ผู้ปกครองรู้สึกสบายใจได้
นางมะลิวัลย์ ฉายศิริ อายุ 61 ปี แม่ค้าขายอาหารและเครื่องดื่มหน้าโรงเรียนสุขานารี กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยอย่างมาก ที่จะมีคนนำอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชามาวางขายบริเวณหน้าโรงเรียน และผู้ใหญ่ก็ควรมีจิตสำนึกรู้ว่า ที่โรงเรียนมีแต่เยาวชน ไม่ควรให้มีอาหารผสมกัญชามาวางขายที่นี่ เนื่องจากเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ ไม่รู้ว่าสิ่งใดควร ไม่ควรกิน ถึงจะมีการเปิดเสรีก็จริง แต่ความเหมาะสมของสถานที่ขายไม่ใช่เลย เนื่องจากการบริโภคกัญชาในปริมาณที่มากเกิน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจจะเสียชีวิตได้ ตามที่มีปรากฏในข่าวตามสื่ออยู่ในขณะนี้.
“จิรายุ” จี้ รัฐสภาอย่ายื้อเวลาพิจารณาพรบ.ตำรวจ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_357628/
“จิรายุ” จี้ รัฐสภาอย่าพยายามยื้อเวลาพิจารณาพรบ.ตำรวจ พร้อมเรียกร้องพักการพิจารณา เอากฎหมายลูก 2 ฉบับมาก่อน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาพระราชบัญญัติตำรวจ ว่า ขอเรียกร้องไปยังสมาชิกรัฐสภาให้ได้แก้ไข ปรับปรุงและอย่ามีการกำหนดทิศทางที่จะยืดระยะเวลาการพิจารณา เพราะที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลายคนมีความเชื่อว่ามีความพยายามที่จะดึงร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ที่มี 170 กว่ามาตราให้ได้นานที่สุดเพื่อจะไม่ให้ทันการนำ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงถือเป็นเรื่องเลวร้าย เป็นเผด็จการรัฐสภา พวกมากลากไปอย่างที่เคยด่าว่าคนอื่นไว้ วันนี้ตนเชื่อว่าไม่น่าจะผ่านเกิน 10 มาตรา เนื่องจากเป็นมาตราเกี่ยวกับคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ , คณะกรรมการตำรวจ และคณะกรรมการคุณธรรม ซึ่งแต่ละมาตราที่แก้ไขก็ยังแก้แบบถอยหลังลงคลอง
ดังนั้น จึงไม่อยากให้ยืดการพิจารณาพ.ร.บ.ตำรวจออกไปอีกอย่างน้อยอีก 2 เดือน พร้อมขอเรียกร้องว่าถ้าเป็นไปได้ให้พักการพิจารณาพ.ร.บ.ตำรวจไว้ก่อนแล้วเอาเรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไข ที่มีไม่กี่มาตราเข้ามาพิจารณา ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน เข้ามาพิจารณาก่อน จะได้ดำเนินการในการประกาศใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ยังได้กล่าวถึงนโยบายปลดล็อกกัญชาเสรีที่ส่งผลกระทบกับการส่งออกสินค้าต่างประเทศ ว่า หลังจากปลดล็อกมาหลายวัน มีแต่ข่าวผู้เสียชีวิตมากมายเหมือนช่วงโควิด-19 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เมากัญ ชากันหนัก เนื่องจากรัฐบาลยังเพิกเฉยในการออกประกาศเพื่อควบคุมการใช้กัญชา
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ช่วงค่ำ ได้มีผู้ประกอบส่งออกสินค้าติดต่อผ่านมายังวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ฝากไปยังนายกรัฐมนตรี และกระทรวงพาณิชย์ว่า คู่ค้าของต่างประเทศไม่ต้อนรับกัญชาในรูปแบบสารผสมในอาหารส่งออก แม้ผู้ส่งออกจะระมัดระวัง แต่หากมีกรณีคนสอดไส้แล้วส่งออกไปยังสหภาพยุโรป สินค้าจากประเทศไทยจะถูกแบนแน่นอน และอาจมีการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) ด้วย ขณะที่ในประเทศอย่างตะวันออกกลางนั้น ก็มีโทษของการใช้กัญชาหนักถึงขั้นประหารชีวิต
พร้อมย้ำว่า หากจับมือใครดมไม่ได้ก็จะเป็นการประหารบริษัทส่งออกสินค้าของไทย ดังนั้นเรื่องกัญชาไม่ใช่สินค้าภายในประเทศเท่านั้นแต่จะเป็นปัญหาระหว่างประเทศด้วย