ราคา Honda Civic e:HEV 2022 ใหม่ เคาะออกมาแล้ว หลังจากเผยโฉมไปเมื่อ Motor Show 2022 ประมาณ เกือบ 3 เดือนที่แล้ว
โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,129,000 บาท
รุ่น e:HEV RS ราคา 1,259,000 บาท
ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 8,000 คัน ภายในหนึ่งปีนับจากการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
โดย ตัว e:HEV จะมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ ก็คือ ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เป็นไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน E-CVT ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 - 6,000 รอบต่อนาทีให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode
นอกจากนี้ ภายในเพิ่มแอร์หลังมาให้แล้ว
เบาะหลังก็ปรับพับได้
ภายนอกของ Civic (รุ่น e:HEV RS) ติดตั้งกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม, กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS, ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างสีดำ, มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม, เสาอากาศแบบครับฉลามสีดำ, สปอยเลอร์หลังสีดำ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต, เบาะนั่งด้านหลังปรับพับแยก 60:40, ระบบควบคุมประตู Honda Smart Key Card, มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ระบบชาร์จไฟไร้สาย (Wireless Charger), ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบปรับอากาศด้วยรีโมท, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, ช่องแอร์หลัง, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ Honda CONNECT
ขณะที่รุ่น e:HEV EL+ ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมกว้างด้านหน้า ประกอบด้วย
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ส่วนระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ประกอบด้วย ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, (Multi-angle Rearview Camera), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
เป็นต้น
เสริมความมั่นใจด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร มูลค่า 7,158.50 บาท พร้อมรับฟรี เสื้อแจ็กเกต e:HEV เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2565
สำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV EL+ และสีภายในของรุ่น e:HEV EL+ มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก โดยรุ่น e:HEV RS สีภายในจะเป็นสีดำเท่านั้น
ราคา Civic e:HEV มาแล้ว เริ่ม 1,129,000 บาท
ราคา Honda Civic e:HEV 2022 ใหม่ เคาะออกมาแล้ว หลังจากเผยโฉมไปเมื่อ Motor Show 2022 ประมาณ เกือบ 3 เดือนที่แล้ว
โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,129,000 บาท
รุ่น e:HEV RS ราคา 1,259,000 บาท
ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 8,000 คัน ภายในหนึ่งปีนับจากการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
โดย ตัว e:HEV จะมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ ก็คือ ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เป็นไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน E-CVT ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 - 6,000 รอบต่อนาทีให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode
นอกจากนี้ ภายในเพิ่มแอร์หลังมาให้แล้ว
เบาะหลังก็ปรับพับได้
ภายนอกของ Civic (รุ่น e:HEV RS) ติดตั้งกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม, กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS, ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างสีดำ, มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม, เสาอากาศแบบครับฉลามสีดำ, สปอยเลอร์หลังสีดำ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต, เบาะนั่งด้านหลังปรับพับแยก 60:40, ระบบควบคุมประตู Honda Smart Key Card, มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ระบบชาร์จไฟไร้สาย (Wireless Charger), ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบปรับอากาศด้วยรีโมท, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, ช่องแอร์หลัง, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ Honda CONNECT
ขณะที่รุ่น e:HEV EL+ ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมกว้างด้านหน้า ประกอบด้วย
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ส่วนระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ประกอบด้วย ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, (Multi-angle Rearview Camera), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
เป็นต้น
เสริมความมั่นใจด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร มูลค่า 7,158.50 บาท พร้อมรับฟรี เสื้อแจ็กเกต e:HEV เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2565
สำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV EL+ และสีภายในของรุ่น e:HEV EL+ มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก โดยรุ่น e:HEV RS สีภายในจะเป็นสีดำเท่านั้น