สวัสดีค่ะ ตามหัวเรื่องเลยค่ะ เราอยากจะหาข้อมูลคราวๆหรือความคิดเห็นต่างๆมาปรับใช้ถ้าเราเข้าใจผิดอะไรน่ะค่ะ....
คือมีความค้องใจมากเรื่องที่เราต้องจ่ายค่าดูแลสวนให้กับผู้เช่าค่ะ
• เราเช่าบ้านหลังนี้มาได้ปีกว่าๆ สัญญาเช่ารายปี
• เราใช้ประโยชน์ของที่พักเท่าที่เราจะใช้จริงๆเท่านั้น (-ตรงไหนที่เราไม่ใช้ก็มีฝุ่นและรกตามสภาพ ซึ่งก็เข้าใจในเรื่องการเสียค่าใช้จ่ายในทำความสะอาดตอนย้ายออก)
• ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าเราต้องดูแลสวน แต่เป็นการบอกปากเปล่าตกลงที่จะช่วยผู้ให้เช่าดูแลสวน ซึ่งงบที่เราตั้งไว้ในการดูแลสวนคือไม่เกิน 1,000 ต่อ 1 ครั้งของเดือน บวก 12 เดือน........คือเยอะนะคะ
• เราจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟตรงเกือบทุกเดือน ไม่เคยขาด จะมีก็ไม่เกิน 2 ครั้งที่เรายุ่งจนลืมจ่าย แต่ไม่เคยเกินจากวันที่กำหนดจ่ายไป 4 วันเลยสักนิด
ประเด็นคือ....ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเราค่อนข้างต้องรัดเข็มขัดในการใช่จ่ายภายในบ้านและนอกบ้าน ทำให้ 3-4 เดือนแรกที่ผ่านมาเราเรียกคนทำสวนมาดูแลแบบเดือนเว้นเดือน แต่2เดือนหลังคือเราไม่ได้เรียกมาเพราะกะว่าจะทำทีเดียวหลังจากกลับจากการเดินทางไปทำธุระ ซึ่งเราก็แจ้งไปแล้วว่าเราจะทำแบบนี้นะอยากให้เข้าใจเราหน่อย ปรากฏว่าตอนแรกเหมือนจะเข้าใจ แต่วันสองวันให้หลังกลับแจ้งขอให้ทำให้สวนให้เสร็จก่อน ถ้าไม่..ผู้ให้เช่าอยากจะขอยกเลิกสัญญา..........
= สุดท้ายเราก็ทำสวนให้เขา เรื่องมันจะได้คลี่คลายลงนั้นแหละ
เรื่องก็มีประมาณนี้ค่ะ
>>คือเรางงว่าถึงขนาดที่ต้องเอ่ยยกเลิกสัญญาเลยอย่างนั้นเลยเหรอ
>>ถูกต้องว่าสุดท้ายเราก็จ่ายค่าทำสวนได้ แต่เศรษฐกิจแบบนี้จะให้เราจัดเรียงความสำคัญระหว่างค่าเช่าบ้านกับค่าทำสวนว่าสำคัญสุดเสมอกันไม่ได้จริงๆค่ะ
>>เขาอยากให้เราเข้าใจว่าเขารักต้นไม้มาก....แต่ค่าน้ำเราจ่าย ค่าสวนเราจ่าย ถ้าเราไม่จ่ายเองก็จะหักจ่ายจากค่ามัดจำ
>>ต้นไม้ยังเขียวดก แค่เรายังไม่สะดวกจัดแต่งกิ่งและหญ้าที่ขึ้นรก
จากสถานการณ์นี้มันทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเกิดผู้ให้เช่าแวะมาดูบ้านอีกและมีอะไรที่ทำให้เขาไม่สะดวกตาสะดวกใจ จะโดนขู่ยกเลิกสัญญาอีกไหม
เราเลยอยากสอบถามผู้รู้และเพื่อนๆช่วยออกความคิดเห็นหน่อยค่ะ
1. เราคิดผิดไหม มีทิฐิไปรึเปล่า
>>ถ้าเราผิด แจ้งและตักเตือนได้เลยค่ะ เราจะได้ปรับทัศนคติใหม่
- แต่คงจะไม่ลบกระทู้นี้ เพราะอาจจะช่วยคนที่มีนิสัยไม่ชอบทะเลาะกันด้วยอารมณ์กับใครเหมือนกันกับเราเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้
2. เราควรจะทำอย่างไงสำหรับช่วงเวลาที่เช่าบ้านเหลืออยู่นี้ คือเราควรจะคุยกับเขาอย่างไง เพราะเราไม่อยากทะเลาะ แต่ก็อยากเสียเปรียบหากมันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้
ผู้เช่าบ้าน จำเป็นจะต้องดูแลสวนและเสียค่าดูแลส่วนหรือไม่
คือมีความค้องใจมากเรื่องที่เราต้องจ่ายค่าดูแลสวนให้กับผู้เช่าค่ะ
• เราเช่าบ้านหลังนี้มาได้ปีกว่าๆ สัญญาเช่ารายปี
• เราใช้ประโยชน์ของที่พักเท่าที่เราจะใช้จริงๆเท่านั้น (-ตรงไหนที่เราไม่ใช้ก็มีฝุ่นและรกตามสภาพ ซึ่งก็เข้าใจในเรื่องการเสียค่าใช้จ่ายในทำความสะอาดตอนย้ายออก)
• ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าเราต้องดูแลสวน แต่เป็นการบอกปากเปล่าตกลงที่จะช่วยผู้ให้เช่าดูแลสวน ซึ่งงบที่เราตั้งไว้ในการดูแลสวนคือไม่เกิน 1,000 ต่อ 1 ครั้งของเดือน บวก 12 เดือน........คือเยอะนะคะ
• เราจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟตรงเกือบทุกเดือน ไม่เคยขาด จะมีก็ไม่เกิน 2 ครั้งที่เรายุ่งจนลืมจ่าย แต่ไม่เคยเกินจากวันที่กำหนดจ่ายไป 4 วันเลยสักนิด
ประเด็นคือ....ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเราค่อนข้างต้องรัดเข็มขัดในการใช่จ่ายภายในบ้านและนอกบ้าน ทำให้ 3-4 เดือนแรกที่ผ่านมาเราเรียกคนทำสวนมาดูแลแบบเดือนเว้นเดือน แต่2เดือนหลังคือเราไม่ได้เรียกมาเพราะกะว่าจะทำทีเดียวหลังจากกลับจากการเดินทางไปทำธุระ ซึ่งเราก็แจ้งไปแล้วว่าเราจะทำแบบนี้นะอยากให้เข้าใจเราหน่อย ปรากฏว่าตอนแรกเหมือนจะเข้าใจ แต่วันสองวันให้หลังกลับแจ้งขอให้ทำให้สวนให้เสร็จก่อน ถ้าไม่..ผู้ให้เช่าอยากจะขอยกเลิกสัญญา..........
= สุดท้ายเราก็ทำสวนให้เขา เรื่องมันจะได้คลี่คลายลงนั้นแหละ
เรื่องก็มีประมาณนี้ค่ะ
>>คือเรางงว่าถึงขนาดที่ต้องเอ่ยยกเลิกสัญญาเลยอย่างนั้นเลยเหรอ
>>ถูกต้องว่าสุดท้ายเราก็จ่ายค่าทำสวนได้ แต่เศรษฐกิจแบบนี้จะให้เราจัดเรียงความสำคัญระหว่างค่าเช่าบ้านกับค่าทำสวนว่าสำคัญสุดเสมอกันไม่ได้จริงๆค่ะ
>>เขาอยากให้เราเข้าใจว่าเขารักต้นไม้มาก....แต่ค่าน้ำเราจ่าย ค่าสวนเราจ่าย ถ้าเราไม่จ่ายเองก็จะหักจ่ายจากค่ามัดจำ
>>ต้นไม้ยังเขียวดก แค่เรายังไม่สะดวกจัดแต่งกิ่งและหญ้าที่ขึ้นรก
จากสถานการณ์นี้มันทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเกิดผู้ให้เช่าแวะมาดูบ้านอีกและมีอะไรที่ทำให้เขาไม่สะดวกตาสะดวกใจ จะโดนขู่ยกเลิกสัญญาอีกไหม
เราเลยอยากสอบถามผู้รู้และเพื่อนๆช่วยออกความคิดเห็นหน่อยค่ะ
1. เราคิดผิดไหม มีทิฐิไปรึเปล่า
>>ถ้าเราผิด แจ้งและตักเตือนได้เลยค่ะ เราจะได้ปรับทัศนคติใหม่
- แต่คงจะไม่ลบกระทู้นี้ เพราะอาจจะช่วยคนที่มีนิสัยไม่ชอบทะเลาะกันด้วยอารมณ์กับใครเหมือนกันกับเราเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้
2. เราควรจะทำอย่างไงสำหรับช่วงเวลาที่เช่าบ้านเหลืออยู่นี้ คือเราควรจะคุยกับเขาอย่างไง เพราะเราไม่อยากทะเลาะ แต่ก็อยากเสียเปรียบหากมันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้