JJNY : 5in1 ยุทธการสติ๊กเกอร์│ชี้ม็อบดินแดงเสริมซักฟอก│กบน.ขึ้นดีเซลพุ่ง35│‘สินค้า’ขึ้นรายวัน│แฉรัสเซียใช้ระเบิดลูกปราย

ม็อบดินแดง เปิดยุทธการ ‘สติ๊กเกอร์’ ระดมแปะรถตร.-โล่คฝ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3398459
 
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงค่ำบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงซึ่งกลุ่ม ‘ประชาชนปฏิวัติ’ นัดหมายรวมตัว โดยเมื่อเวลา18.45 กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 30-40 คน รวมตัวหน้าอาคารเพชราวุธ ถนนดินแดง ซึ่งมี ตร.คฝ. ประจำการโดยรอบ (อ่านข่าว รองโฆษก ตร.ชี้ ม็อบก่อความไม่สงบในบ้านเมือง แนะ ‘ไทยมุง’ อย่ามา สืบทราบเอี่ยวเผารถ 8 ราย)
 
เวลา 19.05 น. การจราจรยังเปิดตามปกติ
 
ต่อมา เมื่อเวลา 19.45 น. กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ราว 8-10 คันบีบแตรมาเป็นขบวน โดยมากลับรถที่แยกดินแดง แล้วรวมตัวกับผู้ชุมนุมที่หน้าอาคารเพชราวุธ ถนนดินแดง
 
เวลา 19.58 น. ผู้ชุมนุมรายหนึ่งนำสติ๊กเกอร์ มีข้อความ 3 พยางค์ ระบุชื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชามาแจกให้กับผู้ชุมนุมรายอื่น ก่อนผลัดเปลี่ยนกันพูดความในใจถึงนายกฯ คนปัจจุบัน  กระทั่งเมื่อเวลา 20.13 น. ผู้ชุมนุมบางส่วน นำสติ๊กเกอร์ดังกล่าวติดที่รถของ ตร.คฝ. คันหนึ่ง
 
20.16 เจ้าหน้าที่ขับรถคันดังกล่าวออกไป
 
จากนั้น เมื่อเวลา 20.20 น. ผู้ชุมนุมไล่ติดสติ๊กเกอร์บนรถตำรวจ รวมถึงโล่คฝ.รอบสามเหลี่ยมดินแดง ตำรวจเคลื่อนกำลังออกไปจากพื้นที่เกือบทั้งหมด
ต่อมา เมื่อเวลา 20.38 น. รถตำรวจราว 10 คัน ขับเข้ามายังบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง
 
เวลา 21.00 น. ผู้ชุมนุมขอติดสติกเกอร์บนรถตำรวจแต่ตำรวจไม่อนุญาตให้ติด โดยให้เหตุผลว่าเป็นรถยนต์ที่ประชาชนเสียภาษีมาซื้อเช่นกัน ควรมีสิทธิเท่ากัน
 

 
อดีตคณบดีนิติฯ มธ. ชี้ 'ม็อบดินแดง' เสริมศึกซักฟอกยิ่งเข้มข้น ประเมินนโยบาย 'ชัชชาติ' กับการชุมนุม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3398447

อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชวนจับตาม็อบช่วงสภาเปิดศึกซักฟอก เตือน ‘ชัชชาติ’ ระวังการใช้นโยบายสนับสนุนการชุมนุม ต้องดูให้เหมาะสม
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ถึงกรณีการกลับมาชุมนุมเรียกร้องของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่แยกดินแดง ว่า ม็อบยังไม่หายไปเสียทีเดียว เขายังมีตัวตน เพียงแต่รอจังหวะ และโอกาสที่จะออกมาทำกิจกรรมเพื่อขับไล่รัฐบาล ขณะที่ในสภากำลังจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การเกิดม็อบขึ้นมาจึงไปเสริมให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
 
“เขาอาจจะไม่ได้มีแผนร่วมกันก่อให้เกิดความผสมผสานกันแบบนี้ ไม่ได้มีเจตนาร่วมกัน ผมคิดว่าม็อบน่าจะคำนวณดูแล้วว่าจังหวะนี้น่าจะเริ่มทำอะไรได้แล้ว เขาอาจกำลังประเมินว่ารัฐบาลอยู่ในสภาพลำบาก ถูกโจมตีทุกทิศทาง อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็น่าสนใจเช่นกันว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดของม็อบจะโตขึ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าม็อบมีขนาดโตขึ้น ความรุนแรงก็จะยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น และสะท้อนให้เห็นว่าเรื่องนี้คนมีความรู้สึกว่า ไม่น่าจะประสบความสำเร็จด้วยการต่อสู้ด้วยสันติวิธี แล้วหากเกิดความรู้สึกแบบนี้เพิ่มมากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นภัยต่อความมั่นคง ตามมาด้วยการเกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง” นายพนัสกล่าว
 
เมื่อถามว่า กังวลในข้อนี้หรือไม่ นายพนัสกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าม็อบสามารถขยายวงหรือขยายขอบเขตออกได้แค่ไหน ต้องดูองค์ประกอบในการจัดครั้งต่อไปว่าเขาสามารถระดมคนมาร่วมได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ และที่สำคัญที่ต้องมองคือนโยบายในการตอบโต้จากฝ่ายรัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐตามนโยบายของรัฐบาลจะใช้นโยบายแบบไหน
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. คนใหม่มีนโยบายค่อนข้างชัดเจนในการอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม นายพนัสกล่าวว่า คิดว่านายชัชชาติต้องระวังในการปฏิบัติที่สุ่มเสี่ยงถูกกล่าวหา
 
“ถ้าม็อบใช้ความรุนแรง จะกลายเป็นว่าท่านไปสนับสนุนความรุนแรง ซึ่งไม่ใช่นโยบายของท่าน การจะอำนวยความสะดวกม็อบท่านจะต้องมีเงื่อนไขว่าถ้ามีการความใช้ความรุนแรงจะสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวกไม่ได้ ถ้ามีพฤติการณ์ที่ทำให้เห็นได้ว่าท่านสนับสนุนอย่างนั้น ท่านก็เสีย เข้าใจว่าที่นายชัชชาติบอกว่าจะอำนวยความสะดวกคือ สนับสนุนเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และปราศจากการใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่หากไม่เป็นไปตามนี้ท่านคงไปสนับสนุนไม่ได้” นายพนัสกล่าว
 

 
อั้นไม่ไหว กบน.ขึ้นดีเซล พุ่ง 35 บาท/ลิตร มีผลพรุ่งนี้
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/295874

กบน.ปรับขึ้นดีเซลอีก 1 บาทต่อลิตร แตะที่ลิตรละ 35 บาท มีผล 14 มิ.ย.นี้ หลังราคาน้ำมันตลาดโลกยังผันผวนสูง
 
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.มีมติขึ้นราคาน้ำมันดีเซลสัปดาห์นี้ อีก 1 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาดีเซลขึ้นไปอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) สาเหตุมาจากราคาตลาดโลกยังผันผวนสูง ประกอบกับฐานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด วันที่ 13 มิถุนายน ติดลบทะลุ 9.1 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่งการปรับขึ้นรอบนี้ ถือเป็นราคาสูงสุดตามเพดานไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร ภายใต้มาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลคนละครึ่ง ระยะเวลา 3 เดือน ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป กระทรวงพลังงานกำลังหารือเพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม
 
ส่วนเรื่องการลดค่าการกลั่น ล่าสุด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มีข้อสรุปแล้ว โดยเตรียมมาตรการออกมาเป็นชุด ไม่ใช่แค่โรงกลั่นอย่างเดียว จะมีโรงแยกก๊าซด้วย ซึ่งอาจต้องเข้า ครม. และต้องถามกฤษฏีกา เพราะมีกฏหมายของโรงกลั่น และกำลังดูอยู่ว่าจะออกกฏกระทรวงได้หรือไม
 
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ได้ทำก่อนที่พรรคกล้าจะเสนอ แต่ต้องทำให้ถูกกฏระเบียบ เพราะมีความอ่อนไหวต่อบรรยากาศการลงทุน ที่อาจถูกมองว่ารัฐเข้ามาควบคุมกลไกตลาดเสรีหรือไม่ อย่างไรก็ดีมีบางประเทศในยุโรปได้ดำเนินการแล้ว เช่น อังกฤษ ซึ่งก็ต้องเข้าสภาด้วย
 
 รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/R5t1X2tAbs

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 

 
‘สินค้า’พาเหรดขึ้นรายวัน หลังต้นทุนขนส่งพุ่ง ‘น้ำมันปาล์ม-มาม่า’ เอาด้วย ‘พริกขี้หนู’ แตะโลละ 280 บาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_3398069

‘สินค้า’ พาเหรดขึ้นรายวัน หลังต้นทุนขนส่งพุ่ง ‘น้ำมันปาล์ม-มาม่า’ เอาด้วย ‘พริกขี้หนู’ แตะโลละ 280 บาท
 
วันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวสำรวจสถานการณ์ราคาของแห้งและของสดในตลาดย่านกรุงเทพมหานคร ยังคงมีสินค้าปรับราคาขึ้นต่อเนื่องตามราคาน้ำมันและค่าขนส่ง
 
นางยมลพร มากมา อายุ 56 ปี เจ้าของร้านค้าภายในตลาด กล่าวว่า ขณะนี้ยี่ปั๊วที่ทางร้านสั่งซื้อสินค้าขอปรับราคาต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นหลายรายการให้สอดรับกับค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ทางร้านเองก็ต้องปรับราคาขายปลีกบางรายการตามไปด้วย เพราะถ้าไม่ปรับเราก็อยู่ไม่ได้
 
น้ำมันปาล์ม-มาม่าขึ้นต้นทุนขนส่ง
 
นางยมลพรกล่าวว่า โดยล่าสุดสินค้าที่ขึ้นราคา เช่น น้ำมันปาล์มขวดขึ้นราคาต้นทุน 10 บาทต่อลัง (จำนวน 12 ขวด) จาก 820 บาท เป็น 830 บาทต่อลัง ส่วนราคาขายปลีกเท่าเดิม 70 บาทต่อขวด ถั่วเหลืองสำหรับทำน้ำเต้าหู้ขึ้นราคาต้นทุน 20 บาทต่อลัง (จำนวน 10 ถุง) ขายปลีกปรับจาก 42 บาท เป็น 45 บาทต่อถุง (น้ำหนัก 1 กก.)
 
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อมาม่า ทั้งรสหมูสับ และต้มยำกุ้ง ขึ้นราคาต้นทุนขนส่ง 20 บาทต่อลัง (ใน 1 ลัง มี 6 กล่อง) จาก 880 บาท เป็น 900 บาท หรือขึ้น 0.90 บาทต่อซอง ทำให้กำไรลดลงจากเดิมเคยได้อยู่ที่ 6-7 บาท เหลือ 5 บาทต่อกล่อง (จำนวน 30 ซอง) ส่วนราคาขายปลีกอยู่ที่ 6 บาทเท่าเดิมเพราะเป็นสินค้าควบคุม
 
‘ซอส-แป้ง’ เอาด้วย ‘พริกเผา’ จ่อขยับ
 
ซอสปรุงรสฝาเขียว (ภูเขาทอง) ขึ้นราคาต้นทุน 50 บาทต่อลัง (จำนวน 12 ขวด) ส่งผลให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 3 บาทต่อขวด จาก 45 บาท เป็น 48 บาทต่อขวด ล่าสุด ได้รับแจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาน้ำพริกเผาอีกหลังก่อนหน้านี้ปรับไปแล้ว 10 บาท จาก 55 บาท เป็น 65 บาทต่อถุง (ขนาด 500 กรัม)
 
‘กาแฟซอง’ ปรับราคา 2 รอบ
 
นางยมลพรกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีสินค้าหลายรายการขึ้นราคา เช่น แป้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าสำหรับทำขนมขึ้นราคาต้นทุน 20 บาทต่อลัง (จำนวน 10 ถุง) หรือขึ้น 2 บาทต่อถุง (1 กิโลกรัม) ส่วนขายปลีกขึ้น 4 บาท จาก 40 บาท เป็น 44 บาทต่อถุง
 
กาแฟสำเร็จรูปทรีอินวันแบบซองยี่ห้อยอดนิยมปรับขึ้น 2 รอบ ครั้งแรก 20 บาท ครั้งที่สอง 50 บาท รวมปรับขึ้น 70 บาทต่อลัง (จำนวน 12 ห่อ) ส่งผลราคาขายปลีกปรับขึ้นจาก 190 บาท เป็น 200 บาทต่อห่อ (จำนวน 60 ซอง)
 
“ต้นทุนขนส่งที่แพงขึ้นมาก ส่งผลต่อการขึ้นราคาเป็นรายวัน และไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จะขึ้นก็ขึ้นเลยเมื่อของมาส่ง เช่น น้ำมันปาล์มที่ขึ้นลังละ 10 บาท ก็ไม่แจ้งล่วงหน้า ตอนนี้ค้าขายลำบากมาก คนไม่มีเงินซื้อ คนขายก็ไม่ได้กำไร เพราะต้นทุนสินค้าแพงมาก เราก็ขายแค่พอมีรายได้จ่ายค่าเช่าพื้นที่ ตอนนี้มียอดขายวันละ 3-4 หมื่นบาท ลดจากเดิมเคยได้วันละ 4-6 หมื่นบาท” นางยมลพรกล่าว
 
‘พริกขี้หนูสวน’ ราคาพุ่งโลละ 280 บาท
 
นางอรัญญา แม่ค้าขายผัก กล่าวว่า ราคาผักสดแต่ละวันจะขึ้นๆ ลงๆ ขึ้นอยู่กับผลผลิตแต่ละฤดู เช่น ผักคะน้าขึ้น 10 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) จาก 25 บาท เป็น 35 บาทต่อ กก. ผักกวางตุ้งขึ้น 10 บาทต่อ กก. จาก 15 บาท เป็น 25 บาทต่อ กก. มะละกอดำเนินขึ้นจาก 15-18 บาท เป็น 20 บาทต่อ กก.
 
ส่วนที่ปรับราคาลง เช่น ใบโหระพาและใบกะเพราจาก 40-50 บาทต่อ กก. อยู่ที่ 35 บาทต่อ กก. แตงกวาจาก 200 บาท เหลือ 180 บาทต่อถุง (10 กก.) มะนาวอยู่ที่ 1 บาทต่อลูก
 
“ที่ปรับราคาขึ้นสูง จะเป็นพริกสด เป็นไปตามฤดูกาลและค่าขนส่งที่สูงขึ้น ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพริกขี้หนูสวนปรับขึ้นมากสุดจาก 250 บาท เป็น 280 บาทต่อ กก. พริกแดงจินดาจาก 70-80 บาท เป็น 130-140 บาทต่อ กก. พริกขี้หนูสวนสุพรรณจาก 70-80 บาท เป็น 120-130 บาทต่อ กก.” นางอรัญญากล่าว
 
‘ไข่ไก่’ ไซซ์เล็กราคาลง 2 บาท
 
น.ส.ประภาพร แม่ค้าขายไข่ไก่ กล่าวว่า จากราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับราคาลดลง ปัจจุบันทางร้านได้ลดราคาขายไข่ไก่ลงอีก 5 บาทต่อแผง (30 ฟอง) ส่วนขายปลีก (จำนวน 10 ฟอง) ลดราคาลงอีก 2 บาท เฉพาะไข่ไก่เบอร์ 3 จาก 42 บาท เป็น 40 บาท หรือ 4 บาทต่อฟอง เบอร์ 4 จาก 38 บาท เป็น 36 บาทหรือ 3.60 บาทต่อฟอง และเบอร์ 5 จาก 36 บาท เป็น 34 บาท หรือ 3.40 บาทต่อฟอง
 
ส่วนไข่ไก่เบอร์ศูนย์ ยังขายราคาเดิมที่ 50 บาท หรือ 5 บาทต่อฟอง เนื่องจากปริมาณการผลิตลดลง จากสภาพอากาศร้อน ทำให้แม่ไก่ผลิตไข่มีขนาดเล็กลง
 
ก.ค.ถึงคิวซอสปรุงรส-น้ำจิ้ม-ผงชูรส
 
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและปลีกไทย เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้มีสินค้าแจ้งขึ้นราคา คือ ซอสปรุงรส น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ และผงชูรส ตามต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งที่ปรับสูงขึ้น แต่ยังไม่แจ้งว่าจะปรับขึ้นเท่าไหร่
 
“ตอนนี้ค่าขนส่งปรับขึ้นแล้ว 20% ซึ่งได้ส่งผลต่อร้านค้าปลีกค้าส่งด้วย เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มทำให้ร้านค้าต้องขนสินค้าในปริมาณมากๆ ในเส้นทางเดียวกันและรถคันเดียวกัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย” นายสมชายกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่