The Breadwinner: ปาร์วานา ผู้กล้าหาญ
" ท่ามกลางความมืดมน... แสงดาวจากตำนานเรื่องเล่าขานยังคงส่องสว่าง นำพาเราให้เดินต่อไป "
สวัสดีครับทุกท่าน ! วันนี้ผมอยากจะมาแนะนำภาพยนตร์คุณภาพใน
Netflix นั่นคือ
The Breadwinner (2017)... หลังจากที่ได้ยินชื่อเสียงมานาน ในฐานะที่ตัวภาพยนตร์ได้เข้าชิงออสการ์ในปีเดียวกับ
Coco (2017) ต้องบอกว่า
"เยี่ยมสมคำร่ำลือจริง ๆ" ดังนั้นผมจึงจะมารีวิวสักเล็กน้อย เผื่อว่าท่านใดสนใจนะครับ
เรื่องย่อ
THE BREADWINNER - Official Trailer
The Breadwinner (2017) ได้รับการกำกับโดย
Nora Twomey และมี
Angelina Jolie เป็น
Executive Producer
ตัวเนื้อเรื่องถูกดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกัน โดยพูดถึง ชีวิตของ
"ปาร์วานา (Parvana)" เด็กสาวในกรุงคาบูล อัฟกานิสถานในยุคเรืองอำนาจของกลุ่มตาลีบัน... หลังจากที่พ่อของเธอ ซึ่งเป็นเสาหลัก (และผู้ชายคนเดียวของบ้าน) ถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไป ทำให้ชีวิตของปาร์วานาและครอบครัวต้องตกระกำลำบากอย่างแสนสาหัส เธอจึงต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อหาทางเลี้ยงปากท้องครอบครัวที่เหลืออยู่ พร้อมกับหาทางช่วยพ่อของเธอออกมาให้ได้
ความรู้สึกหลังชม
ความหวาดระแวงของสตรีขณะเดินอยู่บนท้องถนนคนเดียว
- จุดแรกที่ชอบคือ
"การสะท้อนภาพชีวิตของสตรีในอัฟกานิสถาน"... ชีวิตของสตรีในอัฟกานิสถานนั้นไม่ง่าย และหากพิจารณาแล้ว ยังเป็นชีวิตที่น่าหดหู่ โดยความย่ำแย่ที่ว่า มีหลายดอกผสมกัน
-- ดอกที่ 1 วิถีชีวิตในกรอบวัฒนธรรมที่ชายเป็นใหญ่แบบเข้มงวดสุดขีด ทำให้ผู้หญิงหาอิสระในชีวิตไม่ได้ หากไปไหนมาไหน โดยไม่มีผู้ชายไปด้วย ก็อาจถูกตำรวจทุบตีจนบาดเจ็บอย่างหนักได้
-- ดอกที่ 2 สังคมและชีวิตในอัฟกานิสถานค่อนข้างใกล้เคียงกับสภาพของ "รัฐล้มเหลว" เป็นสังคมที่มีกฏเกณฑ์ (ที่ตั้งโดยตาลีบัน) และก็เหมือนไร้กฏเกณฑ์ในเวลาเดียวกัน เราไม่สามารถเอาแน่เอานอนกับกฏที่มีอยู่ได้... ทุกคนอาจติดคุกได้เสมอ ถ้ามีปัญหากับคนที่ไม่ควรมีปัญหาด้วย หรือหากผู้มีอำนาจตีความว่า "ทำผิด" ก็สูญสิ้นอิสรภาพได้ง่าย ๆ... นี่จึงเป็นสังคมที่ดูแล้ว ไร้ขื่อแปจริง ๆ
-- ดอกที่ 3 สงครามและความขัดแย้งต่างวนเวียนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากไม่มีสงครามใหญ่อย่างการรบกับประเทศอื่น เช่น สหรัฐ ฯ ก็สามารถมีสงครามภายในได้เสมอ อย่างการรบกันระหว่างกลุ่มนักรบที่ยึดพื้นที่ต่าง ๆ และดูท่าว่า หาจุดยุติกันได้ยาก
เมื่อทั้งสามอย่างนี้ผสมกัน มันจึงส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในอัฟกานิสถานอย่างรุนแรง ในฝั่งผู้ชาย ว่าอยู่ยากแล้ว ฝั่งผู้หญิงเรียกได้ว่า มีชีวิตที่โงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว... จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมอัฟกานิสถานถึงติดท็อป
"ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก" สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ไม่เอื้อแก่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีเลยทั้งสิ้น
- จุดที่ชอบอย่างที่สอง คือ
"เทคนิคการเล่าที่ซ้อนเรื่องราวไว้สองเส้น" (คล้าย ๆ Drive My Car) เส้นแรกคือ
เรื่องราวในชีวิตจริงของปาร์วานา เส้นที่สองคือ
เรื่องราวของสุไลมานในนิทานปรัมปรา... ทั้งสองเรื่องต่างมีเรื่องราวที่แยกกัน แล้วสุดท้ายทั้งสองเส้น ก็มาบรรจบกันในบทสรุป ในส่วนนี้ต้องบอกว่า เทคนิคการเล่าเรื่องในหนังมีชั้นเชิง และดูประณีต น่าประทับใจ
- จุดที่ประทับใจอย่างที่สาม คือ
"การเลือกใช้ลายเส้นในแอนิเมชั่น" หนังเรื่องนี้ใช้ลายเส้นที่ดูเบา ช่วยทอนความรุนแรงของเรื่อง ขณะที่ตัวเนื้อหายังคงเข้มข้น แสดงถึงความหดหู่อย่างหนักหน่วง ชนิดใครดู ก็คงต้องมีจุก... จุดนี้น่าประทับใจมาก
-
ซีนที่ประทับใจที่สุดในเรื่อง: ฉากที่
ปาร์วานา กับ
เดโลวาห์ (เพื่อนหญิงของปาร์วานาที่ปลอมตัวเป็นชาย) นั่งคุยกันถึงความฝันที่จะทำต่อไปในอนาคตกันกลางทะเลทราย โดยเดโลวาห์ฝันว่า สักวันหนึ่ง เธออยากเห็นทะเลสักครั้งในชีวิต ซีนนี้นี่นึกถึง
Attack on the Titan ลอยมาเลย สะเทือนใจจริง ๆ
ฉากการคุยกันระหว่าง ปาร์วานา กับ เดโลวาห์ กลางทะเลทราย และซากรถถัง
สรุป
ปาร์วานาและพ่อของเธอ (ซึ่งเสียขาไปหนึ่งข้างด้วย)
The Breadwinner (2017) ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สมราคาในระดับออสการ์... เป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่คุ้มค่า ทั้งจุก สะเทือนใจ (และอาจทำให้น้ำตาซึม) ตัวภาพยนตร์ยังทำให้เราตระหนักอีกด้วยว่า ยังมีหลายที่ในโลกกำลังรอความช่วยเหลือให้ชีวิตดีขึ้น ยังมีหลายคนที่มีชีวิตอันรันทดจากความไม่เป็นธรรมในสังคม ภัยสงคราม และการขาดสิทธิเสรีภาพในชีวิต...
ดังนั้นถ้าใครสนใจก็แนะนำนะครับ ไม่ใช่หนังดูยาก และเชื่อว่าทุกคนจะประทับใจครับ !
บรรยากาศการกินข้าวกันในครอบครัว
_________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผม
[Netflix] The Breadwinner (2017) - ความมืดมนของชีวิตสตรีอัฟกานิสถาน เมื่อ "อิสรภาพ" อันตรธานไป
เรื่องย่อ
ตัวเนื้อเรื่องถูกดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกัน โดยพูดถึง ชีวิตของ "ปาร์วานา (Parvana)" เด็กสาวในกรุงคาบูล อัฟกานิสถานในยุคเรืองอำนาจของกลุ่มตาลีบัน... หลังจากที่พ่อของเธอ ซึ่งเป็นเสาหลัก (และผู้ชายคนเดียวของบ้าน) ถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไป ทำให้ชีวิตของปาร์วานาและครอบครัวต้องตกระกำลำบากอย่างแสนสาหัส เธอจึงต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อหาทางเลี้ยงปากท้องครอบครัวที่เหลืออยู่ พร้อมกับหาทางช่วยพ่อของเธอออกมาให้ได้
ความรู้สึกหลังชม
-- ดอกที่ 1 วิถีชีวิตในกรอบวัฒนธรรมที่ชายเป็นใหญ่แบบเข้มงวดสุดขีด ทำให้ผู้หญิงหาอิสระในชีวิตไม่ได้ หากไปไหนมาไหน โดยไม่มีผู้ชายไปด้วย ก็อาจถูกตำรวจทุบตีจนบาดเจ็บอย่างหนักได้
-- ดอกที่ 2 สังคมและชีวิตในอัฟกานิสถานค่อนข้างใกล้เคียงกับสภาพของ "รัฐล้มเหลว" เป็นสังคมที่มีกฏเกณฑ์ (ที่ตั้งโดยตาลีบัน) และก็เหมือนไร้กฏเกณฑ์ในเวลาเดียวกัน เราไม่สามารถเอาแน่เอานอนกับกฏที่มีอยู่ได้... ทุกคนอาจติดคุกได้เสมอ ถ้ามีปัญหากับคนที่ไม่ควรมีปัญหาด้วย หรือหากผู้มีอำนาจตีความว่า "ทำผิด" ก็สูญสิ้นอิสรภาพได้ง่าย ๆ... นี่จึงเป็นสังคมที่ดูแล้ว ไร้ขื่อแปจริง ๆ
-- ดอกที่ 3 สงครามและความขัดแย้งต่างวนเวียนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากไม่มีสงครามใหญ่อย่างการรบกับประเทศอื่น เช่น สหรัฐ ฯ ก็สามารถมีสงครามภายในได้เสมอ อย่างการรบกันระหว่างกลุ่มนักรบที่ยึดพื้นที่ต่าง ๆ และดูท่าว่า หาจุดยุติกันได้ยาก
เมื่อทั้งสามอย่างนี้ผสมกัน มันจึงส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในอัฟกานิสถานอย่างรุนแรง ในฝั่งผู้ชาย ว่าอยู่ยากแล้ว ฝั่งผู้หญิงเรียกได้ว่า มีชีวิตที่โงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว... จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมอัฟกานิสถานถึงติดท็อป "ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก" สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ไม่เอื้อแก่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีเลยทั้งสิ้น
- จุดที่ประทับใจอย่างที่สาม คือ "การเลือกใช้ลายเส้นในแอนิเมชั่น" หนังเรื่องนี้ใช้ลายเส้นที่ดูเบา ช่วยทอนความรุนแรงของเรื่อง ขณะที่ตัวเนื้อหายังคงเข้มข้น แสดงถึงความหดหู่อย่างหนักหน่วง ชนิดใครดู ก็คงต้องมีจุก... จุดนี้น่าประทับใจมาก
- ซีนที่ประทับใจที่สุดในเรื่อง: ฉากที่ ปาร์วานา กับ เดโลวาห์ (เพื่อนหญิงของปาร์วานาที่ปลอมตัวเป็นชาย) นั่งคุยกันถึงความฝันที่จะทำต่อไปในอนาคตกันกลางทะเลทราย โดยเดโลวาห์ฝันว่า สักวันหนึ่ง เธออยากเห็นทะเลสักครั้งในชีวิต ซีนนี้นี่นึกถึง Attack on the Titan ลอยมาเลย สะเทือนใจจริง ๆ
ดังนั้นถ้าใครสนใจก็แนะนำนะครับ ไม่ใช่หนังดูยาก และเชื่อว่าทุกคนจะประทับใจครับ !