"มาม่า-ผงซักฟอก"ขอขึ้นราคา แบกต้นทุนไม่ไหว
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/173932
สถานการณ์ของแพง กำลังสร้างผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนอย่างหนัก เพราะสินค้าทยอยปรับขึ้นราคาไม่หยุด ล่าสุดทาง"กลุ่มสหพัฒน์" ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ ออกมายอมรับกำลังเร่งเจรจากับกรมการค้าภายใน ขอขึ้นราคา "มาม่า-ผงซักฟอก" หวั่นสินค้าขาดตลาด และยอมรับว่าวิกฤตต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสงครามรัวเซีย-ยูเครน หนักกว่า 26 ปีก่อน ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง
นาย
บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ยอมรับว่า ราคาต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะราคาข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิต
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท คือ มาม่า ซึ่งบริษัทแบกรับภาระต้นทุนมาช่วงหนึ่งแล้ว เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับขึ้นราคาขายสินค้าบางรายการ
ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดยเริ่มจากมาม่า ส่วนสินค้าถัดไปคาดว่าจะเป็นผงซักฟอก ที่จะต้องมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นเช่นเดียวกัน
นาย
บุณยสิทธิ์ ยอมรับว่าวิกฤตของแพงครั้งนี้รุนแรงกว่าเมื่อ 26 ปีที่แล้วที่เจอวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะครั้งนี้เป็นผลกระทบในวงกว้าง เมื่อต้นทุนทุกอย่างขึ้น สินค้าก็ต้องขึ้นราคา และ เป็นห่วงว่าหากภาครัฐควบคุมการขึ้นราคาสินค้าเป็นระยะเวลานาน มีโอกาสที่สินค้าจะขาดตลาด เพราะผู้ผลิตอาจลดกำลังการผลิตลงหรือชะลอการผลิต ทำให้เกิดการกักตุนสินค้าและท้ายที่สุดก็ขาดตลาด
ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 13 ปี จากราคาสินค้าแพงนั้น จนทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. อาจจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น นาย
บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บมจ. ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่เห็นด้วยที่จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้ เพราะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้เป็นต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อาจจะกระทบกำลังซื้อผู้บริโภคได้
แบกต้นทุนดีเซลไม่ไหว! เรือด่วนเจ้าพระยา ปรับราคาขึ้น 1 บาท เริ่ม 15 มิ.ย.นี้
https://www.nationtv.tv/news/378875948
ราคาดีเซลพุ่งสูง แบกรับภาระไม่ไหว บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ประกาศปรับขึ้นค่าโดยสาร เรือธงส้ม ธงเหลือง ธงเขียว เพิ่ม 1 บาทจากอัตราเดิม มีผล 15 มิ.ย.นี้
9 มิถุนายน 2565 นาวาตรีเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเส้นทางระหว่างท่าเรือปากเกร็ดถึงท่าเรือวัดราชสิงขร เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 อยู่ที่ 32.99 บาทต่อลิตร บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราค่าโดยสาร ดังต่อไปนี้
เรือธงส้ม
○ เส้นทางนนทบุรี – วัดราชสิงขร จากราคา 15 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 16 บาท (ตลอดสาย)
เรือธงเหลือง
○ เส้นทางนนทบุรี – สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท (ตลอดสาย)
เรือธงเขียว
○ เส้นทาง ปากเกร็ด – นนทบุรี จากราคา 13 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 14 บาท
○ เส้นทาง นนทบุรี – สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท
○ เส้นทาง ปากเกร็ด – สาทร จากราคา 32 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 33 บาท
สำหรับการปรับราคาค่าโดยสารดังกล่าว เป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 29.01 บาท ถึง 33 บาทต่อลิตร ตามประกาศของกรมเจ้าท่าที่ 110/2559
ในส่วนของ เรือธงแดง (ปรับอากาศ) เส้นทาง นนทบุรี – สาทร ราคา 30 บาทตลอดสาย คงเดิม (ราคาปกติ 50 บาท)
นาวาตรี
เจริญพร กล่าวอีกว่า ทางบริษัทได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารมาเป็นระยะเวลานาน เพราะคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการเป็นหลัก แต่ผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อรวมกับภาวะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ทำให้ทางบริษัทจำต้องปรับค่าโดยสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ฯ บริษัทฯ จะปรับลดอัตราค่าโดยสารต่อไป
ดัชนี KR-ECI ร่วง-ของแพงมาตรการช่วยหมด
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_353899/
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย ดัชนีภาวะเศรษฐกิจ และการครองชีพของครัวเรือนไทยร่วง 3 เดือนติด หลังราคาสินค้ายังแพง ขณะมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐทยอยหมดลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ค.65 ที่ผ่านมา มาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐได้ทยอยสิ้นสุดลง ทั้งโครงการคนละครึ่งระยะที่สี่ รวมถึงสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร และเริ่มปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได (ปัจจุบันอยู่ที่ราว 34 บาทต่อลิตร)
ด้าน 10 มาตรการบรรเทาค่าครองชีพเน้นบรรเทาผลกระทบในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก ขณะที่ระดับราคาสินค้ายังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงทั้งจากปัจจัยด้านอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเป็นปกติ และปัจจัยฝั่งอุปทานจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ปัจจัยต่าง ๆ
ดังกล่าวกดดันภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในเดือนพ.ค. 65 ให้ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีภาวะเศรษฐกิจ และการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าลดลงอยู่ที่ 31.2 และ 34.0 จาก 32.5 และ 35.5 ในเดือนเม.ย.65
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดเห็นของครัวเรือนต่อมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูงของภาครัฐ (มาตรการคนละครึ่งระยะที่ 4 และ 10 มาตรการลดค่าครองชีพ) พบว่า 26.0% ของครัวเรือนที่ทำการสำรวจมองว่ามาตรการดังกล่าวช่วยบรรเทาปัญหาได้จริง สามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้บางส่วน
ขณะที่ 35.1% มองว่ามาตรการดังกล่าวช่วยบรรเทาผลกระทบได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น และ 24.5% มีความคิดเห็นว่าไม่สามารถเข้าถึงมาตรการต่าง ๆ ได้ เนื่องจากเงื่อนไขของโครงการ / บางมาตรการเข้าถึงได้ยาก นอกจากนี้ มีครัวเรือน 32.2% ที่มองว่าอยากให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการที่แก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน เช่น การเพิ่มทักษะความรู้ที่สามารถนำมาใช้ในการทำงานเพื่อเพิ่มรายได้
ในระยะข้างหน้าการปรับเปลี่ยนโควิด-19 จากโรคติดต่อสู่โรคประจำถิ่นอาจเข้ามาช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ครัวเรือนได้บางส่วน ท่ามกลางความเสี่ยงจากสถานการณ์ราคาสินค้ายังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนยังมีแนวโน้มเปราะบาง
ชัชชาติ พาชมสนามบินนาริตะ เล็งแนวคิดทำขนมของฝาก Made in Bangkok ส่งเสริมชุมชน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_354043/
ผู้ว่าฯชัชชาติ ไลฟ์สดพาชมสนามบินนาริตะเผยแนวคิดทำขนมของฝาก Made in Bangkok ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สดผ่านเพจ “
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขณะอยู่ที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรับปริญญาลูกชายระหว่างวันที่ 9-13 มิ.ย.โดยเป็นการไลฟ์ด้วยตนเองครั้งแรก ซึ่งระบุว่าการเดินทางมาที่ประเทศญี่ปุ่นสะดวกสบายมากขึ้นหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และได้เล่าถึงสนามบินนาริตะ ที่ตั้งอยู่แถบชาญเมืองโตเกียวว่าเป็นสนามบินหนึ่งที่มีปัญหาในการก่อสร้างและใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 20 ปี เนื่องจากมีปัญหากับชาวไร่ชาวนาเกษตรกรมีการประท้วงกันอย่างหนัก เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางเกษตรของชาวบ้านหากมองจากสนามบินจะเห็นว่ายังมีพื้นที่สีเขียวของเกษตรกรบางส่วนที่ล้อมรั้วอยู่ แต่อย่างไรก็ดีสุดท้าย แล้วสนามบินนาริตะก็เป็นสนามบินหลักของกรุงโตเกียวในที่สุด
จากนั้นผู้ว่าฯ
ชัชชาติ ได้พาเดินชมสนามบินนาริตะ โดยพาเข้าไปดูร้านขายขนมที่เป็นของฝากจากญี่ปุ่นใครมาก็ต้องซื้อกลับไป ซึ่งถือเป็นแนวคิดในการสร้างเศรษฐกิจชุมชนของประเทศ มองว่าคนกรุงเทพเองก็สามารถทำได้ใครมากรุงเทพฯก็ซื้อกลับไป เหมือนเป็นขนม Made in Bangkok หากทำแพคเกจสวยๆก็สร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก จากนั้นผู้ว่าฯกทม.ได้ขึ้นเครื่องและจะใช้เวลาเดินทางต่อไปที่สหรัฐอเมริกาอีกประมาณ 10ชั่วโมง และจะมาไลฟ์สดอีกครั้ง
JJNY : 5in1 "มาม่า-ผงซักฟอก"ขอขึ้นราคา│เรือด่วนเจ้าพระยาราคาขึ้น│ดัชนี KR-ECI ร่วง│ชัชชาติพาชมสนามบินนาริตะ│เสวนากกต.
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/173932
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ยอมรับว่า ราคาต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะราคาข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิต
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท คือ มาม่า ซึ่งบริษัทแบกรับภาระต้นทุนมาช่วงหนึ่งแล้ว เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับขึ้นราคาขายสินค้าบางรายการ
ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดยเริ่มจากมาม่า ส่วนสินค้าถัดไปคาดว่าจะเป็นผงซักฟอก ที่จะต้องมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นเช่นเดียวกัน
นายบุณยสิทธิ์ ยอมรับว่าวิกฤตของแพงครั้งนี้รุนแรงกว่าเมื่อ 26 ปีที่แล้วที่เจอวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะครั้งนี้เป็นผลกระทบในวงกว้าง เมื่อต้นทุนทุกอย่างขึ้น สินค้าก็ต้องขึ้นราคา และ เป็นห่วงว่าหากภาครัฐควบคุมการขึ้นราคาสินค้าเป็นระยะเวลานาน มีโอกาสที่สินค้าจะขาดตลาด เพราะผู้ผลิตอาจลดกำลังการผลิตลงหรือชะลอการผลิต ทำให้เกิดการกักตุนสินค้าและท้ายที่สุดก็ขาดตลาด
ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 13 ปี จากราคาสินค้าแพงนั้น จนทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. อาจจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บมจ. ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่เห็นด้วยที่จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้ เพราะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้เป็นต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อาจจะกระทบกำลังซื้อผู้บริโภคได้
แบกต้นทุนดีเซลไม่ไหว! เรือด่วนเจ้าพระยา ปรับราคาขึ้น 1 บาท เริ่ม 15 มิ.ย.นี้
https://www.nationtv.tv/news/378875948
ราคาดีเซลพุ่งสูง แบกรับภาระไม่ไหว บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ประกาศปรับขึ้นค่าโดยสาร เรือธงส้ม ธงเหลือง ธงเขียว เพิ่ม 1 บาทจากอัตราเดิม มีผล 15 มิ.ย.นี้
9 มิถุนายน 2565 นาวาตรีเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเส้นทางระหว่างท่าเรือปากเกร็ดถึงท่าเรือวัดราชสิงขร เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 อยู่ที่ 32.99 บาทต่อลิตร บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราค่าโดยสาร ดังต่อไปนี้
เรือธงส้ม
○ เส้นทางนนทบุรี – วัดราชสิงขร จากราคา 15 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 16 บาท (ตลอดสาย)
เรือธงเหลือง
○ เส้นทางนนทบุรี – สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท (ตลอดสาย)
เรือธงเขียว
○ เส้นทาง ปากเกร็ด – นนทบุรี จากราคา 13 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 14 บาท
○ เส้นทาง นนทบุรี – สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท
○ เส้นทาง ปากเกร็ด – สาทร จากราคา 32 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 33 บาท
สำหรับการปรับราคาค่าโดยสารดังกล่าว เป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 29.01 บาท ถึง 33 บาทต่อลิตร ตามประกาศของกรมเจ้าท่าที่ 110/2559
ในส่วนของ เรือธงแดง (ปรับอากาศ) เส้นทาง นนทบุรี – สาทร ราคา 30 บาทตลอดสาย คงเดิม (ราคาปกติ 50 บาท)
นาวาตรีเจริญพร กล่าวอีกว่า ทางบริษัทได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารมาเป็นระยะเวลานาน เพราะคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการเป็นหลัก แต่ผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อรวมกับภาวะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ทำให้ทางบริษัทจำต้องปรับค่าโดยสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ฯ บริษัทฯ จะปรับลดอัตราค่าโดยสารต่อไป
ดัชนี KR-ECI ร่วง-ของแพงมาตรการช่วยหมด
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_353899/
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย ดัชนีภาวะเศรษฐกิจ และการครองชีพของครัวเรือนไทยร่วง 3 เดือนติด หลังราคาสินค้ายังแพง ขณะมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐทยอยหมดลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ค.65 ที่ผ่านมา มาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐได้ทยอยสิ้นสุดลง ทั้งโครงการคนละครึ่งระยะที่สี่ รวมถึงสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร และเริ่มปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได (ปัจจุบันอยู่ที่ราว 34 บาทต่อลิตร)
ด้าน 10 มาตรการบรรเทาค่าครองชีพเน้นบรรเทาผลกระทบในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก ขณะที่ระดับราคาสินค้ายังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงทั้งจากปัจจัยด้านอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเป็นปกติ และปัจจัยฝั่งอุปทานจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ปัจจัยต่าง ๆ
ดังกล่าวกดดันภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในเดือนพ.ค. 65 ให้ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีภาวะเศรษฐกิจ และการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าลดลงอยู่ที่ 31.2 และ 34.0 จาก 32.5 และ 35.5 ในเดือนเม.ย.65
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดเห็นของครัวเรือนต่อมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูงของภาครัฐ (มาตรการคนละครึ่งระยะที่ 4 และ 10 มาตรการลดค่าครองชีพ) พบว่า 26.0% ของครัวเรือนที่ทำการสำรวจมองว่ามาตรการดังกล่าวช่วยบรรเทาปัญหาได้จริง สามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้บางส่วน
ขณะที่ 35.1% มองว่ามาตรการดังกล่าวช่วยบรรเทาผลกระทบได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น และ 24.5% มีความคิดเห็นว่าไม่สามารถเข้าถึงมาตรการต่าง ๆ ได้ เนื่องจากเงื่อนไขของโครงการ / บางมาตรการเข้าถึงได้ยาก นอกจากนี้ มีครัวเรือน 32.2% ที่มองว่าอยากให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการที่แก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน เช่น การเพิ่มทักษะความรู้ที่สามารถนำมาใช้ในการทำงานเพื่อเพิ่มรายได้
ในระยะข้างหน้าการปรับเปลี่ยนโควิด-19 จากโรคติดต่อสู่โรคประจำถิ่นอาจเข้ามาช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ครัวเรือนได้บางส่วน ท่ามกลางความเสี่ยงจากสถานการณ์ราคาสินค้ายังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนยังมีแนวโน้มเปราะบาง
ชัชชาติ พาชมสนามบินนาริตะ เล็งแนวคิดทำขนมของฝาก Made in Bangkok ส่งเสริมชุมชน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_354043/
ผู้ว่าฯชัชชาติ ไลฟ์สดพาชมสนามบินนาริตะเผยแนวคิดทำขนมของฝาก Made in Bangkok ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สดผ่านเพจ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขณะอยู่ที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรับปริญญาลูกชายระหว่างวันที่ 9-13 มิ.ย.โดยเป็นการไลฟ์ด้วยตนเองครั้งแรก ซึ่งระบุว่าการเดินทางมาที่ประเทศญี่ปุ่นสะดวกสบายมากขึ้นหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และได้เล่าถึงสนามบินนาริตะ ที่ตั้งอยู่แถบชาญเมืองโตเกียวว่าเป็นสนามบินหนึ่งที่มีปัญหาในการก่อสร้างและใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 20 ปี เนื่องจากมีปัญหากับชาวไร่ชาวนาเกษตรกรมีการประท้วงกันอย่างหนัก เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางเกษตรของชาวบ้านหากมองจากสนามบินจะเห็นว่ายังมีพื้นที่สีเขียวของเกษตรกรบางส่วนที่ล้อมรั้วอยู่ แต่อย่างไรก็ดีสุดท้าย แล้วสนามบินนาริตะก็เป็นสนามบินหลักของกรุงโตเกียวในที่สุด
จากนั้นผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้พาเดินชมสนามบินนาริตะ โดยพาเข้าไปดูร้านขายขนมที่เป็นของฝากจากญี่ปุ่นใครมาก็ต้องซื้อกลับไป ซึ่งถือเป็นแนวคิดในการสร้างเศรษฐกิจชุมชนของประเทศ มองว่าคนกรุงเทพเองก็สามารถทำได้ใครมากรุงเทพฯก็ซื้อกลับไป เหมือนเป็นขนม Made in Bangkok หากทำแพคเกจสวยๆก็สร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก จากนั้นผู้ว่าฯกทม.ได้ขึ้นเครื่องและจะใช้เวลาเดินทางต่อไปที่สหรัฐอเมริกาอีกประมาณ 10ชั่วโมง และจะมาไลฟ์สดอีกครั้ง