JJNY : ป่วยใหม่2,688 เสียชีวิต21│เงินเฟ้อกระฉูด!! จับตากนง.│พ่อค้าหวยได้ที ขยับราคาขายปลีก│“สุทิน”ซักฟอกไม่มีอะไรต้องคุย

ผู้ป่วยใหม่วันนี้ 2,688 ราย เสียชีวิต 21 ราย หายป่วย 4,130 ราย
https://www.dailynews.co.th/news/1125793/

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 21 ราย ขณะที่มีจำนวนผู้ป่วยใหม่วันนี้เพิ่มอีก 2,688 ราย กำลังรักษา 25,426 ราย
  
 
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 8 มิ.ย. 65 มีจำนวนผู้ป่วยใหม่ 2,688 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,688 ราย ผู้ป่วยจากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 2,250,432 ราย หายป่วยกลับบ้าน 4,130 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 2,249,708 ราย กำลังรักษา 25,426 ราย เสียชีวิต 21 ราย เสียชีวิตสะสม (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 8,541 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 708 ราย



เงินเฟ้อกระฉูด!! จับตาประชุมกนง.วันนี้ 2 แบงก์คาดคงดอกเบี้ย 0.5% เหมือนเดิม
https://www.matichon.co.th/economy/news_3388443

เงินเฟ้อกระฉูด!! จับตาประชุมกนง.วันนี้ 2 แบงก์คาดคงดอกเบี้ย 0.5% เหมือนเดิม
 
นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน EIC เปิดเผยถึงกรณี คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะแถลงผลการประชุมนโยบายการเงิน ครั้งที่ 3/2565 วันที่ 8 มิถุนายนนี้ ว่า คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ไว้คงเดิม เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศไทยยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอยู่ในภาวะเปราะบาง การใช้นโยบายการเงินในการผ่อนคลายน่าจะยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อไปสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อที่สูงขึ้นขณะนี้ ไทยได้รับปัจจัยจากผลกระทบที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศ อาทิ เงินเฟ้อต่างประเทศ ทำให้ไทยมีการนำเข้าสินค้าในราคาสูง ดังนั้น หากขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่ได้ช่วยบรรเทาให้เฟ้อลดลง ความสำคัญในตอนนี้คือการช่วยฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นในภาวะดอกเบี้ยต่ำน่าจะดีกว่า
 
นายสมประวิณกล่าวว่า ส่วนการดูแลเงินเฟ้อว่าควรอยู่ในระดับใดนั้น เป็นเรื่องที่การคลังต้องเข้ามาดูแล โดยเพิ่มการสนับสนุนด้านการเยียวยา เพื่อให้กำลังซื้อไม่ถูกลดทอนไปมาก ขณะเดียวกันด้านนโยบายการเงิน สาเหตุที่อาจทำให้ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ โดยจะไปกดอุปสงค์เพื่อส่งผลให้ไปกดเงินเฟ้อให้ลงตามกัน แต่ขณะนี้ หากมองเศรษฐกิจไทยโดยรวม ถ้าขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเป็นอุปสรรคในการฟื้นตัวมากกว่า เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่กลับมาฟื้นตัวมากจากอัตราการเติบโตเศรษฐกิจที่ยังไม่กลับมาเป็นปกติได้
 
สอดคล้องกับธนาคารกรุงไทย โดย นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.42 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.47 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.35-34.55 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยนักลงทุนจะติดตามทิศทางการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นสำคัญต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบาย
 
ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่า กนง. คงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.50% เพราะแม้ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ กนง. อาจปรับประมาณการเงินเฟ้อในปีนี้สูงขึ้นจากที่เคยประเมินในเดือนมีนาคม แต่ยังไม่เห็นการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าเป็นวงกว้าง อีกทั้งคาดการณ์เงินเฟ้อระยะปานปลางยังคงทรงตัว กนง. จะยังไม่ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อเหมือนกับธนาคารกลางอื่นๆ และ กนง.จะยังคงให้น้ำหนักการฟื้นตัวเศรษฐกิจเป็นหลัก ขณะเดียวกัน หาก กนง. มีการปรับมุมมองต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจดีขึ้นจากเดิม อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดตีความว่า กนง. ได้เริ่มส่งสัญญาณพร้อมทยอยใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคตได้ แต่คาดว่าผลกระทบต่อบอนด์ยีลด์ระยะสั้นอาจมีอย่างจำกัด เนื่องจากระดับบอนด์ยีลด์ล่าสุดได้สะท้อนภาพการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ไปมากแล้ว
 
นายพูนกล่าวว่า แนวโน้มค่าเงินบาทผันผวนและมีโอกาสอ่อนค่าลงระหว่างวัน โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังรับรู้ผลการประชุม กนง. หาก กนง. ไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อสูงต่อเนื่อง อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดมองว่าสุดท้ายจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งภาพดังกล่าวทำให้มีแรงขายบอนด์อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หาก กนง.ปรับมุมมองเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจะช่วยให้เงินบาทไม่อ่อนค่ามาก หรือกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม ทั้งนี้ แนวต้านของเงินบาทยังอยู่ในโซน 34.50-34.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ หากตลาดไม่ได้กลับมาปิดรับความเสี่ยงสินทรัพย์ในฝั่ง EM Asia เงินบาทก็อาจไม่ได้อ่อนค่ารุนแรงมากนัก โดยในช่วงที่ตลาดการผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน



พ่อค้าหวยได้ที ขยับราคาขายปลีก 10 บาท หลังหวยดิจิทัลเกลี้ยงแผง!
https://www.dailynews.co.th/news/1125293/
 
พ่อค้าหวยได้ที ขยับขึ้นราคาขายปลีกใบ 10 บาท หลังสลากดิจิทัลหมดเกลี้ยง ไร้คู่แข่ง ด้านตลาดขายส่งวังสะพุงก็ปรับเพิ่ม 88-108 บาท
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสำรวจราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล ภายหลังจากการจำหน่ายสลากดิจิทัลขายหมดเกลี้ยง 5.1 ล้านใบ พบว่า ราคาขายปลีกในตลาดมีการขยับเพิ่มขึ้นทันควันใบละ 10 บาท โดยช่วงที่สลากดิจิทัลมีจำหน่ายอยู่ แผงขายลอตเตอรี่ขายใบละ 80-90 บาท แต่ภายหลังสลากดิจิทัลหมดลง ก็มีการเพิ่มราคาขึ้นเป็นใบ 100 บาท และหากเป็นเลขดังหรือเลขสวย ก็จะขายกันที่ใบละ 110-120 บาท โดยทางคนขายให้เหตุผลว่า สลากฯที่รับมามีราคาแพงถึงใบละ 90-91 บาท จึงต้องขายราคาใบละ 100 บาท ถึงมีกำไร ขณะที่ตลาดค้าส่งลอตเตอรี่ วังสะพุง มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยสลากใบขายส่ง 88 บาท สลากชุด 2 ใบ 92 บาท ชุด 5 ใบ 108 บาท.
 
ส่วนบรรยากาศการขายสลาก หลังกระทรวงการคลัง และตลาดนัด ซันเดย์ ซอยวิภาวดีรังสิต 64 พบว่า ราคาสลากฯ ยังคงใบละ 100 บาท  สลากชุด 2 ใบ เลขสวย เลขดัง ชุดละ 220 บาท สลากชุด 3 ใบ ราคา 380-400 บาท สลากชุด 4 ใบ ราคา 500-550 บาท  สลากชุด 5 ใบ ราคา 700-750 บาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่